นายกฯ และ รมว.กห.ประชุมปลัดฯ ที่ พม. “ปวีณา” เจ้าบ้านพาทัวร์ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พ่อ “น้องธันว์” โผล่ร้องสร้างบรรทัดฐานช่วยเด็กประสบอุบัติเหตุต่างแดน ขณะที่ “ยิ่งลักษณ์” ชูยุทธศาตร์ลดเหลื่อมล้ำ แย้มมอบสิทธิพิเศษทางภาษีจูงใจเอกชนร่วมช่วย นัดประชุมเวิร์กชอปครั้งหน้าที่หัวหิน 7-8 ส.ค.
วันนี้ (24 ก.ค.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อ เวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 6/2556 ซึ่งมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพ โดยนางปวีณา หงสกุล รมว.พม.ได้ให้การต้อนรับนำนายกฯ เยี่ยมชมศูนย์ OSCC หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นศูนย์ที่จะคอยรับเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่รับแจ้งปัญหาและเบาะแสผ่านสายด่วน 1300 พร้อมกันนี้นายกฯ ได้สอบถามและให้กำลังใจกับประชาชนที่ประสบปัญหาทางสังคมที่เดินทางมาร้องทุกข์
วันเดียวกันนี้ นายกิตติ์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ บิดาของ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ น้องธันว์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง ที่ประสบอุบัติเหตุรถไฟฟ้า MRT ทับขาขาดทั้งสองข้างระหว่างเดินทางไปเรียนซัมเมอร์คอร์สภาษาอังกฤษ เคมบริดจ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ OSCC เช่นกัน โดยนายกิตติ์ธเนศระบุว่า มาร้องเรียนต่อกระทรวง พม.เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานให้รัฐบาลวางแนวทางและมีองค์กรรองรับและดูแลเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ ที่เดินทางไปศึกษายังต่างประเทศ และหากมีปัญหาหรืออุบัติเหตุอะไรจะได้มีการดูแลอย่างทั่วถึง
ต่อมาเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า การขับเคลื่อนประเทศนั้นรัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาหลายด้าน ซึ่งการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นรัฐบาลต้องการเห็นการช่วยเหลือสังคม โดยเป็นช่วงอายุ เช่น วัยแรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน วัยผู้สูงอายุ และกลุ่มพิเศษ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าหลายกระทรวงมีแนวทางในการดูแลประชาชนอยู่ แต่ควรจะต้องมาบูรณาการร่วมกันตามช่วงอายุดังกล่าวเพื่อจะได้ให้บริการกับประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยแต่ละกระทรวงจะต้องหันกลับมาดูการดำเนินยุทธศาสตร์ของตนเองตามช่วงอายุที่มีความสำคัญมาก เพราะจะได้ให้การพัฒนาการประชาชนในแต่ละช่วงวัยที่เหมาะสม รวมถึงมีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสังคม นอกจากนี้ต้องการให้การบริการของภาครัฐมีส่วนเข้ามาช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มที่
นายกฯ กล่าวต่อว่า การเดินทางมากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในครั้งนี้ได้เห็นความคืบหน้าในการดำเนินการของ OSCC (One Stop Crisis Center) หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 โดยได้มอบหมายนโยบายให้ทุกกระทรวงช่วยประชาสัมพันธ์ OSCC ในจุดบริการ 21,000 จุด รวมถึงการให้ทุกกระทรวงนำระบบไปใช้ในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที และให้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สรุปปัญหาอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้อยากเห็นการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือสังคมโดยอาจจะเป็นไปด้วยความสมัครใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้วยการเพิ่มสิทธิพิเศษจูงใจทางภาษีให้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า การประชุมเวิร์คช้อประดับปลัดกระทรวงครั้งต่อไปจะเป็นวาระพิเศษ โดยจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 สิงหาคมนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเนื้อหาการประชุมจะเน้นยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาด้านสังคม ทั้งนี้จะมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เตรียมข้อมูล เพื่อเป็นการเน้นการพัฒนาประเทศตามแกนของกระทรวง ด้วยการนำปัญหาของสังคม เช่น เด็ก คนชรา มาปรับน้ำหนักในการดำเนินยุทธศาสตร์ของกระทรวงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดที่กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยการประชุมเวิร์คชอปครั้งนี้ กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ และจะเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งถือเป็นการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงในรถไฟเป็นครั้งแรก และจะถือโอกาสนี้ดูในเรื่องของระบบรถไฟด้วย