ต้มแดงเพื่อตัวเองอีกรอบ!!

สะเก็ดไฟ

จู่ๆ ก็กลับลำจากที่ทำท่าจะเห็นแก่ตัวในตอนแรก ด้วยการผลักดันร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ขึ้นมาพิจารณาเป็นกฎหมายฉบับแรกประเดิมการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปที่จะถึงนี้ มิหนำซ้ำเตรียมจะพ่วงต่อด้วยร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แล้วเก็บร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยไว้ปิดท้าย

ทำไปทำมาจะกลายเป็นว่า พลิก 360 องศา ดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาพิจารณาเป็นฉบับแรกเสียอย่างนั้น ด้วยข้ออ้างที่อมโบสถ์มาพูดก็แทบไม่มีใครเชื่อว่า ร่างกฎหมายการเงินติดขัดในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ ที่ยังมีรายละเอียดทำให้พิจารณาไม่ทันตามกรอบที่กำหนด

ทั้งๆ ที่ผ่านมาต่อให้เวลากระชั้นชิดแค่ไหนหาก นายใหญ่หนีคดี จะเอา วันสองวันก็ต้องดันกันให้ได้

แต่ที่พลิกหน้ามือเป็นหลังเท้า เรื่องของเรื่องเป็นเพราะสถานการณ์ในปัจจุบันมันไม่เอื้ออำนวยให้ทำอย่างนั้นได้ โดยเฉพาะปมร้อนในเดือนสิงหาคมที่บรรดาพรรคเพื่อไทยกำลังเต้นเป็นเจ้าเข้าว่าจะเดือดเป็นลาวาภูเขาไฟ เพราะบรรดาฝ่ายต้านง้างเท้ารอสอยกันยาวเหยียดทั้งเกมในสภา นอกสภา และองค์กรอิสระ

ยิ่งล่าสุด พวกเดียวกันอย่างกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ออกมาแอ็กชั่นจะยื่นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชนเข้าประกบ โดยมีเนื้อหาที่ดูดีกว่าร่างก่อนๆที่พรรคเพื่อไทยยื่นๆ กันมา

ที่สาหัสสากรรจ์กว่าคือ อริตัวฉกาจอย่างพรรคประชาธิปัตย์ดันฉวยจังหวะกระโดดมาสนับสนุน เกมเลยหมุนไปเข้าทางฝ่ายต้าน ตอกลิ่มฉายภาพเจตนาพรรคเพื่อไทยวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อมวลชน แต่แค่หลอกต้ม เป้าหมายหลักมีเพียงพา นักโทษ กลับบ้าน

เพราะขนาดร่างที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ ดันชิ่งไม่เอา!!

กลายเป็นว่าสิงหาร้อน หนนี้จะไม่ได้มีแค่ศึกนอกอย่างเดียว แต่คนกันเองดันเปิดศึกในให้ปวดหัวเพิ่มเข้ามา

ตามสภาพเลยต้องแก้เกม กลืนน้ำลายด้วยการดันร่างนิรโทษฯฉบับนายวรชัย ขึ้นมาพิจารณา แล้วหาข้ออ้างให้ตัวเองดูดี อย่างน้อยๆ ก็รีบตัดไฟแต่ต้นลม

วันนี้เสีย “แม่น้องเกด” และแนวร่วมบางส่วนไป แต่ต้องรักษาเสื้อแดงส่วนใหญ่ไว้ก่อน

ก็เลยเล่นละครหลอกต้มดันเป็นกฎหมายที่ต้องพิจารณาเป็นวาระแรก เพื่อรักษาอารมณ์มวลชนส่วนใหญ่เอาไว้

แต่ในข้อเท็จจริง มันก็แค่ชั้นรับหลักการ ยังเหลือขั้นตอนอีกเยอะกว่าจะคลอดเป็นกฎหมาย ที่ท้ายสุดไม่มีวันถึงฝั่ง ได้เพราะกฎหมายฉบับใดก็ตามที่นายใหญ่ไม่ได้ จอมปลอมทั้งนั้น!!

ตามคิวพลิ้วรอบนี้ ก็แค่กำหนดศึกให้เหลือแค่เพียงฝ่ายต้าน และเป็นการสกัดกั้นไม่ให้คนในไหลออก อุดรอยแผลไม่ให้เลือดกระฉอกไปมากกว่านี้

เพราะแค่ศึกนอกก็ลำบากแทบลากเลือด ยิ่งในเดือนสิงหาคมมีคิวดันกฎหมายสำคัญๆ หลายฉบับ อะไรที่จะมาเป็นภาระเพิ่มต้องรีบแก้ปัญหาก่อน ตามต้นฉบับ นายใหญ่นักโทษ