xs
xsm
sm
md
lg

“สุรนันทน์” ป้ายสี อพส.หลงยุคจ้องล้มประชาธิปไตย โยนวิปรัฐตัดสินดัน กม.เข้าสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ นายกฯ ซัด “องค์การพิทักษ์สยาม” จ้องล้มประชาธิปไตย ขู่ทำชาติสะดุด พวกหลงยุคทำลายชาวบ้านกินดีอยู่ดี โบ้ยต้องรับผิดความเสียหาย โยนวิปรัฐระบุดันร่างไหนพิจารณาก่อน บอกเลี้ยงพรรคร่วมไม่มีอะไร ไม่รู้ ส.ส.บีบ “บิ๊กอ๊อด” ลาออก

วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่จับมือกับกลุ่มอื่นเคลื่อนไหวในนามกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ยื่น 6 ข้อเสนอให้กับรัฐบาล หากไม่ดำเนินการจะมีการจัดชุมนุมใหญ่ว่า ในระบอบประชาธิปไตยการเสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือขัดแย้งกับรัฐบาลสามารถทำได้ แต่แนวคิดต่างๆ ควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ หากเห็นว่านโยบายมีจุดอ่อนหรือไม่ถูกต้อง ก็วิพากษ์วิจารณ์เสนอความเห็นที่แตกต่างได้ แต่ปัจจุบันกระบวนการต่อต้านรัฐบาล เกิดความสับสน ใช้ระบอบประชาธิปไตยอย่างบิดเบือน พยายามเอาจุดที่เป็นระบอบประชาธิปไตยมาประท้วงล้มล้างระบอบประชาธิปไตย

“วันนี้ขบวนการที่จ้องล้มรัฐบาลกลายเป็นกขบวนการที่จะล้มระบอบประชาธิปไตย จึงไม่น่าสนับสนุนอย่างยิ่ง อยากขอร้องให้ประชาชนวิเคราะห์ให้ดีว่าสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทำลายความน่าเชื่อถือ ทั้งในและต่างประเทศ ธุรกิจต่างๆ ก็จะเกิดการสะดุด และเกิดการชะงัก ทำลายการอยู่ดีกินดีของประชาชน โดยบุคคลที่เรียกว่าหลงยุค ยังคิดว่าตัวเองแก้ปัญหาของระบอบประชาธิปไตยโดยการปฏิวัติรัฐประหาร โดยการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยได้อยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศเลย” เลขาธิการนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวขณะนี้สอดคล้องกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอีกหลายกลุ่ม และเป็นช่วงที่ใกล้เปิดสมัยประชุมสภาฯ จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า รัฐบาลเปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่ถ้าคิดจะรวมตัวกันเพื่อทำลายระบอบ ตรงนี้กลุ่มที่เคลื่อนไหวต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย ส่วนผลกระทบที่มีต่อรัฐบาลนั้นถือว่าเล็กน้อยเมื่อเที่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลยังยืนหยัดอยู่ในหลักการ และเชื่อว่าประชาชนจะยังให้การสนับสนุน

เมื่อถามต่อว่า รัฐบาลเชื่อมั่นหรือไม่ว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะปัญหาการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถชี้แจงได้ เลขาฯ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกแยะ โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่รัฐบาลเชื่อว่า เดินมาในทางที่ถูก แต่ยอมรับว่าอาจมีการรั่วไหลบ้างในช่องทางการปฏิบัติ ซึ่งรัฐบาลและนายกฯ ก็ได้กำชับมาโดยตลอดว่าการทำงานต้องมีประสิทธิภาพและความโปร่งใส ส่วนความคิดเห็นอะไรที่ช่วยปรับปรุงให้ระบบดีขึ้นรัฐบาลพร้อมรับฟัง แต่ถ้าจะเอาข้ออ้างเหล่านี้มาผสมปนเป กวนให้น้ำขุ่นทำให้ประเทศชาติโดยรวมเสียหายเราไม่สนับสนุน

เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีการพิจารณานำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาในช่วงเปิดสมัยประชุม เดือน ส.ค.ว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และพรรคเพื่อไทยต้องประสานงานกัน ต้องมาถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียว่าควรพิจารณาร่างใดก่อน โดยต้องเรียงลำดับความสำคัญของกฎหมายแต่ละฉบับ บางครั้งต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยให้กฎหมายแต่ละฉบับผ่านไปได้ ทั้งนี้ร่างกฎหมายทุกฉบับมีความสำคัญ ทั้งกฎหมายงบประมาณ กฎหมายนิรโทษกรรม

“อะไรจะมาก่อนมาหลังไม่สำคัญเท่ากับกฎหมายทุกฉบับจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม และเปิดเผย ผลประโยชน์ของประชาชนต้องได้รับการตอบสนอง แต่ในการเรียงลำดับการพิจารณานั้น ไม่ใช้คำนึงถึงประโยชน์ของกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นยุทธวิธีของสภา ที่จะได้ถกเถียงกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็เป็นยุทธวิธีของฝ่ายค้านที่จะแก้เกมทางการเมืองโดยใช้กลไกรัฐสภาฯ มาทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล และเรื่องนี้ พรรคร่วมรัฐบาลทางวิปรัฐบาล คงได้มีการหารือกัน ส่วนจะพิจารณาร่างกฎหมายฉบับใดก่อนนั้น ก็อยู่ที่มติของวิปรัฐบาล” นายสุรนันทน์กล่าว

เลขาธิการนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการนัดเลี้ยงสังสรรค์ของพรรคร่วมรัฐบาล ในวันที่ 30 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ว่า คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องปกติในการนัดหารือสังสรรค์กัน เพราะหลายเรื่องไม่ได้มีการพูดคุยในช่วงปิดสมัยประชุมสภา ก็ได้ถือโอกาสพูดคุยกัน ทั้งนี้การได้หารือกันบ่อยๆ จะทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น และเป็นสิ่งที่ดีในการทำงานร่วมกัน ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งในส่วนของ นายยุคล ลิ่มแหลมทอง รองนายกฯ และรมว.เกษตรฯ และนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การตอบสนองนโยบายในส่วนรวม พรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ทำงานได้ดี

นอกจากนี้ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยมีการกดดันและต้องการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่งว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบข่าวแต่อย่างใด แต่ก็ต้องฟังความคิดเห็นของ ส.ส.ในพรรคก่อน ส่วนตัวคิดว่าทุกคนมีความตั้งใจที่อยากจะเห็นรัฐบาลโดยการนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินหน้าต่อไปได้ แต่ความคิดเห็นที่แตกต่างเราก็พร้อมและรับฟัง และเสียงจากคนในพรรค ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ในการที่จะทำให้รัฐบาลคงอยู่ได้ แต่ถ้าจะให้ความเป็นธรรม พล.อ.ยุทธศักดิ์ควรได้มีโอกาสชี้แจงภายในพรรคก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี และก็เป็นหน้าที่ของพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น