xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้ รบ.ถอนทุกร่าง เชิญทุกฝ่ายถกล้างผิดใหม่ เตือนฟังนายใหญ่สั่งเรื่องไม่จบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ย้ำ ปชป.แนวคิดเหมือน “อลงกรณ์” หนุนร่างนิรโทษฯ แม่เกด แต่ไม่รวมคดีโกง-เผาเมือง-ผิด 112 แจงไม่ชง กม.เข้าสภาหวั่นถูก รบ.เหมารวมนำไปยำ แนะถอนทุกร่างในสภาฯ ออก พลิกเป็นโอกาส ลบข้อครหาทำเพื่อนายใหญ่เพื่อความปรองดอง ก่อนให้ทุกฝ่ายร่วมถกใหม่ ให้ คอป.คอยติดตาม เย้ยไม่ได้ดั่งใจ โยนบาปมั่ว จับตาวิปถกพรุ่งนี้ ยันข้างมากลากไปไม่ได้ ชี้ดื้อลุยต่อเรื่องไม่จบ ย้ำแก้ ม.68 ส่อเดือดสุด



วันนี้ (23 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมว่า ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากแนวคิดของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็สอดคล้องกับสิ่งที่ตนพูดผ่านเวทีผ่าความจริงฯ ว่าเราสามารถนำร่างของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตช่วงการชุมนุมปี 53 มาเป็นตัวตั้งได้ แต่นายอลงกรณ์ให้ย้อนไปถึงปี 2548 คือไม่ใช่แค่นิรโทษกรรมเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงและไม่นิรโทษกรรมพวกเผาสถานที่ราชการ คนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่นิรโทษกรรมคนทุจริต ก็ตรงกัน เพราะตนยืนยันว่าไม่ควรมีการนิรโทษกรรมคนที่ทุจริต หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และไม่ครอบคลุมคนที่มุ่งประทุษร้ายชีวิตและทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นของราชการหรือเอกชน เพียงแต่ว่าแนวทางการดำเนินการต้องมาพูดคุยกัน

“ผมยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าสาเหตุที่พรรคไม่เสนอกฎหมายนี้ตั้งแต่ต้น เพราะว่าถ้าเสนอเข้าไปรัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากอ้างว่าทุกพรรคเสนอแล้วเอาไปรวมพิจารณากับร่างที่เป็นปัญหาก็จะเกิดความขัดแย้งในสังคม ซึ่งเรายังมีความเห็นที่เป็นจุดยืนว่ารัฐบาลต้องเริ่มจากการถอนทุกร่างที่อยู่ในสภาออกมาก่อนเพราะไม่สอดคล้องกับหลักการที่เราสนับสนุน หากจะมีการดำเนินการในเรื่องนี้ก็ควรจะทำให้เป็นการปรองดองอย่างแท้จริง เพราะหากยังคากฎหมายเหล่านั้นไว้ในสภาไม่ว่ากฎหมายฉบับไหนเข้าไปในสภาก็จะถูกเสนอให้พ่วงฉบับล้างผิดคนโกง ล้างผิดคนเผาตลอดเวลา จะทำให้เกิดความขัดแย้ง รัฐบาลจึงต้องเป็นผู้แสดงท่าทีว่าจะใช้เรื่องนี้เป็นกระบวนการปรองดองด้วยการถอนกฎหมายของตัวเองออกมา แล้วมานั่งหาเวที หรือกลไกคุยกันว่าจะเสนอร่วมกันอย่างไร ทั้งนี้พรรคยังไม่ได้ประชุม ส.ส.แต่แนวคิดที่คุยกันก็สอดคล้องกันหมดว่าเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมหากจะมีก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ควรให้ทุกพรรคการเมืองและญาติผู้เสียชีวิตจะเป็นญาติฝ่ายผู้ชุมนุม ญาติตำรวจ ทหารที่เสียชีวิตและกลุ่มมวลชนต่างๆ มาร่วมกันพิจารณาในหลักง่ายๆ ว่า คดีแต่ละประเภท คดีประเภทไหนสมควร หรือไม่สมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ถ้าได้จุดร่วมตรงไหนก็เสนอตรงนั้นก็จะเป็นกระบวนการปรองดอง ซึ่งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง หรือ คอป. สามารถเข้ามามีบทบาทได้ แม้ว่าจะหมดวาระไปแล้ว แต่ตนเคยเสนอว่าเขาควรมีกลุ่มที่เป็นหลักในการติดตามเพื่อสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามแนวคิดที่เขานำเสนอ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า คอป.ยังมีการรวมตัวอยู่มากน้อยแค่ไหน แต่เขาอยู่ในฐานะที่ดีที่จะช่วยพยายามทำเรื่องนี้ร่วมกัน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลยังไม่ถอนร่างปรองดองและนิรโทษกรรมที่ค้างอยู่ในสภาออกไปกระบวนการปรองดองตามแนวทางนี้ก็ไม่สามารถเริ่มต้นได้ เพราะจะไม่มีหลักประกันความชัดเจนว่าเวลาที่มีการเสนอกฎหมายเข้าไปแล้ว รัฐบาลจะไม่ย้อนกลับไปเอาร่างของตัวเอง ดังนั้นกระบวนการนี้จะเดินหน้าได้ขั้นแรกต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลก่อนว่า อยากปรองดงจริงหรือไม่ ถ้าอยากปรองดองจริง ทำไมเรื่องนี้ที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากเดิมที่จะมีความขัดแย้งก็มาทำร่วมกัน และเป็นการพิสูจน์ว่าที่พูดเรื่องปรองดองหรือนิรโทษกรรม ตกลงจะทำเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เพื่อนักการเมือง แกนนำ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

“ผมไม่เข้าใจว่าไปคิดถึงขั้นที่ว่าร่างของคุณพะเยาว์มีคนอยู่เบื้องหลังได้อย่างไร แต่ที่วิตกกังวลกันว่าไม่อยากใช้ร่างฉบับของญาติผู้เสียหายหรืออย่างที่ผมเสนอมันขัดกับผลประโยชน์ของเขา เพราะใจเขาจริงๆ คือต้องการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วเอาคนอื่นมาบังหน้า ตรงนี้กำลังฟ้องออกมาจึงมีอาการมากหน่อย ถึงขั้นไปพูดจาทำนองว่าฝ่ายประชาธิปัตย์คิดจะไปลอยแพทหาร ซึ่งไม่มีความจริงเลย เพราะในส่วนของเจ้าหน้าที่ผมบอกว่าไม่ต้องเขียนอะไรเลยเพราะเท่าที่เป็นอยู่ก็เดินหน้าต่อไปได้ วันนี้เป็นการพิสูจน์รัฐบาลว่าอยากทำเรื่องปรองดองหรือล้างผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ล้างผิดแกนนำ ล้างผิดคนเผา คนที่ก่อการร้าย ถ้ารีบก็แสดงว่าอยากช่วยคนเหล่านี้ไม่ได้ช่วยประชาชนธรรมดา” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลไม่ถอนร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมที่ค้างในสภาออกไปก็จะเป็นเครื่องฟ้องตัวเองว่า ไม่คิดทำเรื่องปรองดอง แต่คิดทำเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยแกนนำ คนเผาเท่านั้น สังคมจะได้ทราบ ซึ่งตนยืนยันว่าถ้าคิดแบบนี้บ้านเมืองก็ขัดแย้งมาก เพราะวาระของสภาก็ยังไม่มีความชัดเจนซึ่งต้องรอประธานสภาส่งวาระออกมา และต้องดูท่าทีของวิปที่จะประชุมกันวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค. 56) ทั้งนี้ หลักของการปรองดองตนยืนยันว่าไม่มีที่ไหนที่ใช้เสียงข้างมากมายัดเยียดความคิดให้ การปรองดองมีแต่หาจุดร่วมและทำในสิ่งที่มีความเห็นร่วมกัน ซึ่งความเห็นร่วมกันจะเกิดได้ต้องถอนร่างกฎหมายในสภาออกมาก่อนแล้วทำฉบับเดียวร่วมกันจึงจะเป็นการปรองดองที่ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวาระสภายังไม่ชัดเจนโดยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ระบุว่าให้ประชาชนไปลุ้นเอาเองจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองช่วงเดือนสิงหาคมตึงเครียดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนหวังว่าวิปจะมีความชัดเจนออกมาในวันพรุ่งนี้ แต่เชื่อว่าถ้ายังฟังคำสั่งจากต่างประเทศก็คงยังมีการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในสภาต่อ ซึ่งจะทำให้มีความขัดแย้งสูงมาก และไม่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นทำไม ตนยืนยันว่ารัฐบาลกำลังสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง เพราะหากผลักดันให้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาจุดยืนของพรรคก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะคัดค้านเรื่องนี้ทั้งในและนอกสภา ซึ่งจะได้หารือตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไร

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าอาจจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.ในวันที่ 6-7 ส.ค.นี้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จุดยืนของพรรคได้ลงมติในวาระที่ 1 ว่าไม่เห็นด้วย และมีการแปรญัตติไว้ก็ต้องว่าตามกระบวนการ และในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการฯก็มีปัญหาในหลายประเด็น ซึ่งต้องดูว่าสรุปสุดท้ายของกรรมาธิการเป็นอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าในส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่จะเป็นชนวนความขัดแย้งมากที่สุด คือ การแก้ไขมาตรา 68


กำลังโหลดความคิดเห็น