“อภิสิทธิ์” จวกสื่อขี้ข้าไม่โง่ก็ชั่ว ลั่นไม่คิดโยนผิดให้ทหาร หนุนนิรโทษกรรมฉบับแม่น้องเกด แต่ต้องครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ช่วยคนเผา คนทำผิดต่อสถาบันกษัตริย์ เย้ยโจกแดงดิ้นพล่านเหตุความจริงเริ่มเปิดโฉมหน้าฆาตกรตัวจริง บอกบ้านเมืองจะเดินหน้าได้ หากคนขี้โกงกลับมาติดคุก รัฐถอนร่างปรองดองจอมปลอมทั้งหลายออกจากสภา แล้วจับเข่าคุยกับทุกสีทุกฝ่าย
วันที่ 20 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการปราศรัยเวทีประชาชน “หยุดกฎหมายล้างผิดคิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล” ที่โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ตอนหนึ่งว่า
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด วิธีการทำกฎหมายแบบนี้นั้น ใช้ได้ เขาจะเขียนว่าบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ประกอบไปด้วย 1. บุคคลที่ถูกดำเนินคดีเพราะไปฝ่าฝืนประกาศที่ออกตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อันนี้ก็ตรงกับที่เคยพูด 2. เขาก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปด้วยถึงคนที่ทำผิดที่ตามศัพท์ของกฎหมายเรียกว่า ลหุโทษ คือโทษเบา เล็กๆ น้อยๆ 3. การชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กลายไปเป็นความผิดทางความมั่นคง ให้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย แต่เขามีข้อยกเว้นว่าถึงคุณจะไปเคลื่อนไหวชุมนุมอ้างว่าเกี่ยวข้องการชุมนุมการเมืองอะไร ถ้าคุณกระทำความผิดโดยมีการวางแผน หรือไปใช้อาวุธประทุษร้ายประชาชน คนเหล่านี้ต้องมีความผิด
“เขาเขียนต่ออีก แต่ตรงนี้ผมเห็นด้วยแค่ครึ่งเดียว เขาบอกว่า แล้วถ้าใครจะอ้างเหตุการณ์อะไรก็ตาม แต่ไปทำความผิดต่อทรัพย์ เช่นวางเพลิง ทรัพย์สินของเอกชน ให้มีความผิดด้วย ไอ้ตรงนี้ผมเห็นด้วยครึ่งเดียวครับ คือผมเห็นด้วยว่าใครเผาทรัพย์สินเอกชน เช่น เผาเซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ เซ็นเตอร์วัน แล้วก็อีกหลายๆ จุดที่มีการเผาตอนนั้นมีความผิด ผมเห็นด้วย แต่เขาจะไปนิรโทษกรรมให้แก่คนที่เผาทรัพย์สินราชการ”
ประเด็นที่ 2 พอไปใช้ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เกี่ยวกับการชุมนุม คนก็ไปตีความว่าครอบคลุมคนที่กระทำผิดมาตรา 112 คือ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผมก็บอกอันนี้ไม่ได้ ต้องเขียนให้ชัด การกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังต้องเป็นความผิด ไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะเราทำกฎหมายนี้เพื่อลดความขัดแย้ง ไม่ใช่เพิ่มความขัดแย้ง
ประการที่ 3 การเขียนถ้อยคำในกฎหมายฉบับนี้มีการตีความไปว่า นิรโทษกรรมเฉพาะฝ่ายเสื้อแดง ถ้าเป็นกลุ่มประชาชนมวลชนอื่นๆ ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ เช่น พันธมิตรฯ จะไม่ได้ ตนบอกอันนี้ไม่เห็นด้วย ถ้าจะทำ ทำให้ทุกกลุ่มทุกสี บนหลักเกณฑ์เดียวกันเท่านั้น
ส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ เขต้องไปไล่รายละเอียดในเรื่องถ้อยคำอีกครั้ง แต่เขาเขียนทำนองว่า เขาไม่นิรโทษกรรมให้เจ้าหน้าที่ที่ทำเกินกว่าเหตุ ตนก็บอกความจริงอันนี้จะเขียนไม่เขียนก็เหมือนกัน เพราะที่เราบอกว่า พ.ร.ก.ให้การคุ้มครองเจ้าหน้าที่นั้น พ.ร.ก. คุ้มครองเฉพาะการกระทำที่สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินความจำเป็น และไม่เกินแก่เหตุ และตรงนี้เป็นหลักการที่รับได้
“ผมจึงบอกว่า มันเป็นกฎหมายฉบับแรก ที่พยายามจริงๆ ในการจำแนกแยกแยะความผิด และใครสมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม เราไม่ควรไปต่อต้าน แต่เราควรจะใช้โอกาสนี้มานั่ง มาพูดคุยกับเขาว่าแก้ 2-3 ข้ออย่างที่ผมพูดได้มั้ย ถ้าทำได้ กฎหมายอย่างนี้จะได้เป็นโอกาสที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น พอผมพูดไป บรรดาขี้ข้าสื่อมวลชนค่ายหนึ่งบอกว่าประชาธิปัตย์กับอภิสิทธิ์ทำอันนี้หวังเสี้ยมให้เสื้อแดงทะเลาะกัน ความจริงผมเชื่อว่าระดับหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับนั้น ถ้าฟังผมพูดมาโดยตลอด แล้วไม่บิดเบือนจะรู้ว่าจุดยืนผมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนเดิม ว่าเราจะต้องปรองดองบนหลักการอะไร เพราะฉะนั้นถ้ามากล่าวหาว่าผมทำเรื่องนี้เพื่อเสี้ยม มี 2 อย่าง ไม่โง่ ก็ชั่ว เพราะถ้าฟังผมมาตลอด ต้องเข้าใจได้ว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เลย ประชาธิปัตย์ พูดแนวทางนี้ แต่ถ้าเข้าใจแล้วยังกล่าวหาผมอีก ก็แปลว่าชั่วไง มีเจตนาทำลายกันเฉยๆ ไม่ได้ดูข้อเท็จจริง”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าจะมีการเสนอกฎหมายฉบับนี้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน รัฐบาล ฝ่ายค้าน ภาคประชาชน เสื้อแดง พันธมิตรฯ มาไล่ดูเลยว่าทุกมาตรานี้ยอมรับกันได้ เช่น นิรโทษกรรมคนฝ่าฝืน พ.ร.ก. นิรโทษกรรมลหุโทษ ไม่นิรโทษกรรมคนใช้อาวุธประทุษร้ายต่อร่างกาย ชีวิต ประชาชน ไม่นิรโทษกรรมคนที่ไปทำลายทรัพย์สินของคนอื่น ไม่นิรโทษกรรมคนที่ทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าทุกฝ่ายทำอย่างนี้ต้องมาตกลงกันเป็นสัญญาประชาคม แล้วความปรองดองจะเกิดขึ้น
“แล้วถ้าทำอย่างนี้ เสนออย่างนี้ ออกกฎหมายอย่างนี้ ไม่ต้องพูดเรื่องนิรโทษกรรมอีก คนขี้โกงกลับมาติดคุก อย่างนี้บ้านเมืองถึงจะเดินได้ จุดยืนประชาธิปัตย์จึงยังมั่นคงเหมือนเดิม แต่ถ้ารัฐบาลก็ปฏิเสธกฎหมายฉบับนี้อีก ผมก็เรียกร้องละครับว่า คนทั้งประเทศ ต้องรู้แล้วว่า คำว่าปรองดองของรัฐบาล หรือการนิรโทษกรรมของรัฐบาล ไม่ได้มีความมุ่งหมายเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชนเลย แต่เพื่อทักษิณกับพวกเท่านั้น และถ้าเปิดสภามา ยังพยายามเอากฎหมายปรองดอง จอมปลอมทั้งหลาย เข้าสู่การพิจารณา พวกเราก็จะต่อต้านจนถึงที่สุด”