รองโฆษก พท.ป้อง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ถาม “มาร์ค” กินข้าวโชว์เดือดร้อนใคร บอกป้องกันกลุ่มการเมืองถล่มข้าวไทย อ้างรัฐบาลหั่นราคาจำนำข้าวเหลือ 1.3 หมื่นบาทยังไม่ได้ข้อสรุป ซัดฝ่ายค้านไร้สาระบีบรัฐบาลยุบสภา ลาออก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับประทานข้าวโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้าวปลอดภัย เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ควรไปแก้ปัญหาทั้งระบบมากกว่าว่า การที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์กินข้าวโชว์เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค เดือดร้อนใคร การแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบ รัฐบาลทำเต็มที่อยู่แล้ว การที่ต้องมาโชว์กินข้าวแบบนี้เพราะมีกลุ่มการเมืองแตะมือกับหลายภาคส่วนสุมหัวรุมถล่มข้าวไทย โดยเฉพาะพวกนักเรียนนอก ฝรั่งหัวดำ ใจดำที่ทำลายข้าวไทยเพื่อหวังถล่มรัฐบาล ทั้งที่ทุกกระทรวงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ไม่ถูกใจนายอภิสิทธิ์
ส่วนที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าการที่รัฐบาลเตรียมลดราคารับจำนำข้าวเหลือตันละ 13,500 บาท เป็นการทำผิดสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชนนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การปรับลดราคาจำนำข้าวเป็นเพียงขั้นตอนการพูดคุยกัน ที่กรมการค้าภายในหารือกับสมาคมต่างๆ เพื่อหาทางออกที่ดีสุด แต่ยังไม่ได้ปรับลดทันที เป็นแค่ขั้นตอนการพูดคุย ยืนยันว่า นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลทำได้จริง เพียงแต่ขณะนี้เจอปัญหาเรื่องกลไกราคาข้าวในตลาดโลก รัฐจึงต้องรักษากรอบวินัยการคลัง เป็นเหตุผลที่รัฐบาลสามารถปรับลดได้ ถ้าทุกฝ่ายเห็นชอบ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การที่ นพ.วรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบโดยลาออกหรือยุบสภา เป็นเรื่องตลก ไร้สาระ อ้าปากลิ้นไก่ก็โผล่ทันที อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ควรเอาเวลาโจมตีรัฐบาลไปปฏิรูปพรรคให้ดี
นายอนสรณ์กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.บางส่วนจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ กรณีที่นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ออกมาระบุว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่ง 2 ล้านล้านบาทอาจขัดรัฐธรรมนูญว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด เพราะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปฏิวัติทั้งขนส่งระบบราง และระบบขนส่งมวลชนครั้งสำคัญ เป็นประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยแท้ คิดอย่างไรจึงจะมาขวางความเจริญ จึงขอเรียกร้องให้กลับไปทบทวนกระบวนการคิด การทำงานให้ดี โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่มีคำขวัญประจำพรรคว่า ประชาชนต้องมาก่อน แต่พฤติกรรมที่ค้านทุกเรื่อง คอยขัดขวางความเจริญประเทศ อย่างนี้จะกล้าอาสารับใช้ประชาชนได้อย่างไร