“ชวนนท์” ตอกพฤติกรรม รบ.ไม่ฟังเสียงเตือน กลับเล่นงานรองปลัดคลัง เหตุเผยจำนำข้าวส่อโกง ดิสเครดิต “คณิต” หลังเตือนกู้ 2 ล้านล้าน อาจขัด รธน. ซัดใช้อำนาจรัฐฯ ขู่-ใส่ร้ายคนเห็นต่าง-มีมวลชนกดดัน คือสันดาน รบ.โจร จี้ปรับปรุง ไม่เชื่อมือ “นิวัฒน์ธำรง” วางเป้าระบายจำนำข้าว ห่วงไม่เผยราคา ปชช.ไม่รู้ความจริงส่อขาดทุนหมื่นบาทต่อตัน 6 เดือนหนี้เพิ่มเป็น 3 แสนล้าน ย้ำเป็นภาระชาติต้องแจง
วันนี้ (9 ก.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิพฤติกรรมของรัฐบาลที่ไม่รับฟังเสียงท้วงติงจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับการบริหารที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ ทั้งกรณีที่มีการตั้งกรรมการสอบ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาล ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตจากโครงการดังกล่าว และการโจมตีนักวิชาการที่ออกมาติติงรัฐบาล รวมถึงกรณีนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ที่ท้วงว่าเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีการดิสเครดิตอ้างว่าสนิทสนมพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และยังมีการกล่าวหาว่าต้องการเป็น รมว.มหาดไทยแต่ไม่ได้ตำแหน่งจึงออกมาโจมตีรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งสะท้อนว่ารัฐบาลข่มขู่ คุกคาม แบล็กเมล์ด้วยข้อมูลเท็จต่อฝ่ายที่เห็นต่าง ถ้าเป็นข้าราชการก็ใช้อำนาจรัฐแต่งตั้งกรรมการสอบ
ทั้งนี้ เห็นว่าพฤติกรรมที่มีมวลชนไว้คุกคามมีพรรคไว้แบล็กเมล์ มีอำนาจรัฐไว้ข่มขู่ข้าราชการประจำที่มีความซื่อสัตย์สุจริตนั้นเป็นพฤติกรรมรัฐบาลโจรโดยแท้ จึงอยากให้ปรับปรุง มิเช่นนั้นประชาชนคนไทยที่รักความถูกต้องรักความยุติธรรมย่อมทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้ประเทศเดินหน้าแบบนี้ นายกฯ ต้องปกป้องคนดี รักษาความถูกต้องนำพาประเทศนี้เดินหน้าต่อไป
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงการระบายข้าวของรัฐบาลที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ระบุว่าจะระบายข้าวเดือนละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 แสนตัน ซึ่งจะทำให้ระบายข้าวได้ 6-9 แสนตัน แต่เท่าที่ตนตรวจสอบจากข้อมูลในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องระบายข้าวให้ได้ 5 แสนตัน ตนจึงไม่เชื่อว่าจะทำได้ตามที่ รมว.พาณิชย์กล่าวอ้าง และที่น่าเป็นห่วงคือกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรงไม่ยอมเปิดเผยราคา อ้างว่าเป็นเรื่องความอ่อนไหวโดยเฉพาะการขายแบบจีทูจีซึ่งตนพอจะเข้าใจว่าอาจมีปัญหาเรื่องการขายให้แต่ละประเทศในราคาที่ไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องบอกความจริงกับคนไทย คือ ประเทศกำลังจะขาดทุนต่อเนื่องใช่หรือไม่ เพราะถ้าขายได้เดือนละ 5 แสนตัน ตามที่มีการกำหนดเป้าหมายใน กขช. หากขายในราคา 12,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 23,000 บาทต่อตัน เท่ากับรัฐบาลจะขาดทุน 11,000 บาท แต่ตนจะยกให้ว่าขาดทุนตัวเลขกลมๆ ที่ 10,000 บาท ดังนั้นหากขายได้ 5 แสนตันต่อเดือน ภายใน 6 เดือนจะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท จึงต้องถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมารองรับ เพราะถ้าขาดทุนต่อเนื่องเพิ่มจากตัวเลข 2.6 แสนล้านที่พรรคเคยเปิดเผยไว้ โดยในอีก 6 เดือนข้างหนาจะขาดทุนจากการระบายข้าวประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท ก็เท่ากับว่าจนถึงสิ้นปี 2556 ตัวเลขขาดทุนจากโครงการนี้อย่างต่ำจะสูงถึง 3 แสนล้านบาท จึงขอถามว่าจะนำเงินที่ไหนไปบริหารจัดการ สภาพคล่องของ ธ.ก.ส.จะรองรับได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตอบคำถามนี้ก่อนเดินหน้าโครงการนี้ต่อ เพราะจะเป็นภาระของประเทศในอนาคต
