xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ" ซัดผบ.ทบ.ปล่อยกุ๊ยแดงขู่ศาลส่งผล "วสันต์" ลาออก ชี้จำนำข้าวสะท้อนความเน่าเฟะสังคมไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สนธิ" ซัด "ประยุทธ์" ไม่ทำหน้าที่ปล่อยกุ๊ยแดงข่มขู่ศาลทั้งที่ทำงานในพระปรมาภิไธย เชื่อส่งผลให้ "วสันต์" รู้สึกโดดเดี่ยวจนต้องลาออกจากตุลาการศาลรธน. ชี้โครงการจำนำข้าวสะท้อนความเน่าเฟะของสังคมไทย มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงครบวงจร - ทำลายอุตสาหกรรมข้าวพังหมด พร้อมอัดปชป.คิดโง่ๆตามสันดานเดิม หลังแจ้นหนุนนิรโทษฯฉบับแม่น้องเกดหวังซื้อใจเสื้อแดง โดยไม่อ่านรายละเอียดว่าแฝงช่วยนักโทษมาตรา 112 - ทำคนเผาสถานที่ราชการพ้นผิด


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" 


วันนี้ (19 ก.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางเอเอสทีวี ถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. บินไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประดับยศให้ ว่า มีตำรวจอีกเยอะเลยที่ไปพบนักโทษชายทักษิณมา เพียงเพื่อต้องการตำแหน่ง อย่างเช่น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกือบจะทุกคน ยกเว้น พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ คนนี้ไม่ได้ไปพบ นอกนั้นไปพบหมดเลย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทุกคน อยากเป็นผู้บัญชาการไปพบหมด รองผู้บัญชาการภาค 4 ภาค 5 ภาค 3 ไปทั้งนั้น เพื่อให้เห็นหน้า บางคนวันเกิดต้องขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีให้ที่ฮ่องกง ซึ่งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ในฐานะประธานก.ตร. พูดเปิดทางให้พวกตำรวจเดินทางไปพบนักโทษได้โดยไม่ต้องทำการจับกุม โดยบอกว่ากฎหมายไทยไปใช้ที่เมืองนอกไม่ได้

จริงอยู่เพราะอยู่ต่างประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายประเทศอื่น ถ้าจะไปจับเขาต้องขอความร่วมมือจากตำรวจที่โน่น ยื่นหมายจับไป มีสนธิสัญญาแลกเปลี่ยนผู้ร้ายข้ามแดน ทีนี้เมื่อจับไม่ได้เพราะมันไม่มีกฎหมายที่จะช่วยครอบคลุม ก็เลยเป็นเหตุทำให้ พล.ต.อ.ประชา เปิดทางให้เรียบร้อยแล้ว แต่หากตามความเหมาะสมนั้น ใครก็ตามที่เป็นตำรวจ ข้าราชการ รู้อยู่แล้วว่า ทักษิณ คือนักโทษที่ถูกศาลพิพากษาเรียบร้อยแล้วแล้วหนีคุก คำถามมีอยู่ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะรักทักษิณแค่ไหนก็ตาม แต่โดยเครื่องแบบที่ตัวเองใส่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ควรหรือไม่ควรที่จะไปพบแล้วให้ไปติดยศตำรวจให้ ตำรวจมีหน้าที่จับผู้ร้ายหรือมีหน้าที่ทำอะไรนอกจากจับผู้ร้าย แล้วถ้าไปเจอผู้ร้ายแล้วแล้วให็ผู้ร้ายติดยศไม่ผิดกฎหมายแต่ว่ามันบัดซบ เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ลักษณะคล้ายกัน

นายสนธิ กล่าวถึง นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดคลังฯ ว่า เป็นคนที่กล้าหาญมาก เป็นตัวอย่างหนึ่งของประเทศไทย ว่ามีคนคิดแบบ น.ส.สุภา ไม่น้อย แต่ไม่มีความกล้า แต่ น.ส.สุภา เป็นคนซึ่งไม่สนใจอะไร ถูกก็ถูก อะไรผิดคือผิด แล้วนี้เป็นลักษณะของคนกระทรวงการคลังในยุคเดิม ซึ่งปัจจุบันหาไม่ได้แล้ว เพราะข้าราชการส่วนใหญ่โดยเฉพาะกระทรวงการคลังจะกลัวนักการเมือง

การที่ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ตั้งคณะกรรมการมาสอบ น.ส.สุภา ในกรณีพูดความจริง ตรงนี้ นายอารีพงศ์ผิด เพระเวลาข้าราชการถูกเชิญไปให้การ เขาต้องให้การเต็มที่ แล้วจะไปเอาคำให้การของเขาในคณะกรรมาธิการมาเล่นงานไม่ได้ นายอารีพงศ์ คงอยากเป็นปลัดต่อ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเป็นคนโบราณเขาเรียกว่าหน้าตัวเมีย

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อถึงคลิปฉาว ว่า วันนี้พวกที่ชอบทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักวิชาการซ้ายจัด อกหักกันเป็นแถว พวกนี้คิดจะใช้ทักษิณมาล้มสถาบันหลักๆ ของประเทศไทย แต่วันนี้เพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกทักษิณใช้ก่อน ทักษิณพร้อมจะถีบหัวพวกนี้ส่ง แต่ว่าคนพวกนี้ไม่มีผลกับมวลชนเสื้อแดง เพราะมวลชนเสื้อแดงเข้าใจว่าน่าจะฟังมาทางนายจตุพร นายณัฐวุฒิ หรือ นายก่อแก้ว มากกว่า ไม่ได้ฟัง นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไม่ใช่ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ คนพวกนี้ต้องการเป็นนักวิชาการที่เป็นเจ้าทฤษฎี แต่วันนี้ทฤษฎีของเขาโดนทักษิณถุยน้ำลายใส่หมดแล้ว คลิปนี้ทำให้เขาช็อก นึกไม่ถึงว่าทักษิณอยากเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

นายสนธิ ยังกล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของนางพะเยาว์ อัคฮาด ว่า การที่แม่น้องเกดต้องยื่นเข้ามา มันมีผลพวงจากการที่คลิปมันออก ก็เลยทำให้พวกเสื้อแดงส่วนหนึ่งไม่พอใจเริ่มรุกทางการเมืองเพื่อให้รัฐบาลพิสูจน์ความจริงใจ เพราะพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันนี้ม่ได้คลุมทักษิณ มันเป็นหลักการเดียวกับฉบับของนิติราษฎร์ ที่สำคัญที่สุดคือจะนิรโทษคนที่โดนมาตรา 112 และอันที่ 2 คนเผาศาลากลาง สถานที่ราชการ คนที่โดนจับโดยที่มีอาวุธอยู่ในมือและทำอาชญากรรมต้องปล่อยหมด อันที่ 3 พันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุมที่สนามบินที่โดนดำเนินคดีต้องไม่ปล่อยเพราะเขาอ้างว่ามันเป็นกฎหมายสากล

การที่ประชาธิปัตย์รีบเข้ามาให้การสนับสนุน มันเป็นสันดานเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ชอบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คำนี้เป็นสโลแกนที่เขาด่าพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสิบปีแล้ว เสมอต้นเสมอปลาย เป็นดีเอ็นเอแห่งความกระล่อน เหยียบคนอื่นเห็นแก่ได้ ดีเอ็นเอมันผ่องมาจากรุ่นต่อรุ่น

ประชาธิปัตย์ยังคิดโง่ๆเหมือนเดิมว่าถ้าดำเนินนโยบายประนีประนอมกับเสื้อแดง เสื้อแดงจะรัก เหมือนตอนเป็นรัฐบาล พอหลังเปลี่ยนขั้วโชว์ความเป็นพระเอก ทำเป็นว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเสื้อแดงกับเสื้อเหลือง ส่วนตัวเองเป็นคนกลาง ให้เลือกตัวเองดีที่สุด ช่วยเหลือนักโทษเสื้อแดงสารพัด แต่ในที่สุดก็โดนเสื้อแดงมันเยี่ยวรดหมดเลย ที่นี้บทเรียนนี้ยังไม่จำ
สงสัยคงไปเชื่อข่าวลือว่าแดงแตกกันหมด เลยอยากมาโชว์ออฟเสียบเข้ามา หารู้ไม่ว่าแดงแตกแล้วมันก็คือแดงซ้ายจัดซึ่งไม่มีอิธิพลต่อมวลชนเลย มวลชนยังคงต้องรับเงินทักษิณอยู่ พอมีกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาไม่ดูอีร้าค่าอีรม ต้องการจะรีบทำคะแนนตามสันดานพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนเป็นกฎหมายนิรโทษฯฉบับประชาชน บอกเป็นแสงสว่างของประเทศ แต่คงไม่ได้ดูรายละเอียด คือลืมไปว่ามันลอกเลียนของนิติราษฎร์มา แล้วมันมีมาตรา 3 ให้นิรโทษนักโทษมาตรา 112

แต่พอหลัง นายคำนูณ สิทธิสมาน จับได้ ก็ออกมาแถว่าโดยหลักการเห็นด้วย แต่เรื่องเนื้อหาต้องคุยกันอีกที ถ้าบอกว่าขอโทษไม่ได้ดูเนื้อหาก็จะเสียหน้า ก็เลยต้องตีกิน แล้วบอกจะไปแก้ถ้อยคำในสภา ในเมื่อยกมือกี่ครั้งก็แพ้เขาไม่ใช่หรือ สรุปง่ายๆว่าตัวเองหน้าแตก แต่ต้องการจะรักษาหน้า ถ้าออกมาขอโทษก็จบ แต่ประชาธิปัตย์มันขอโทษใครไม่เป็น

ตนอยากจะพูดฝากถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าไม่ต้องไปแคร์ จะนิรโทษกรรมหรือไม่ ตนไม่แคร์ พร้อมจะขึ้นศาลตลอดไป พี่น้องพันธมิตรฯถ้ายังรักประชาธิปัตย์อยู่ มีโอกาสไปคืนดี แต่ตนคนหนึ่งไม่เอามันจนตาย ตราบใดถ้าพรรคนี้ยังอยู่ในสังคมไทย คือตัวการทำลายการเมือง ไม่ต่างจากพรรคเพื่อไทย อีกทั้งกรณีคลิปเสียง ประชาธิปัตย์ก็ไม่วิจารณ์ทหารเลย เพราะกะจะคอยเสียบ เอาทหารเป็นพวก หวังใช้สูตรจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารแบบเดิม

นายสนธิ กล่าวถึงการลาออกจากประธานศาลฎีกา ของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ว่า ถ้าผบ.ทบ. รักพระเจ้าอยู่หัวจริง ต้องไม่ยอมปล่อยให้พวกเสื้อแดงไปล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกดดันศาลเท่ากับไปกดดันตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าผู้พิพากษาทุกคนทำงานในพระปรมาภิไธย นี่คือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ท่าน สิ่งแรกที่ผบ.ทบ.ต้องทำคือพูดกับนายกฯว่าเสื้อแดงมันทำอย่างนี้ผมรับไม่ได้ ฉะนั้นแล้วถ้าผบ.ทบ.ทำหน้าที่ นายวสันต์ คงไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว วังเวง และไม่ลาออกแบบนี้ ผบ.ทบ.ต้องแสดงออก นี่ยกแค่ตัวอย่างเดียว ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ไม่ใช่ว่านานๆทีถึงจะหลุดออกมาสักประโยคหนึ่ง ใครหมิ่นพระเจ้าอยู่หัว ผมไม่ยอม แต่แล้วยังไงต่อ แล้วจะทำยังไง

"เพราะฉะนั้นแล้วบทบาทของเขา ต้องทำหน้าที่ที่สมกับหลักการ หรือภาระความรับผิดชอบที่เขาได้รับมอบหมายมา แล้วทหารนี่ไม่เหมือนกับนักหนังสือพิมพ์นะ ทหารดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ทหารสาบานต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ทั้งดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา สัตย์ปฏิญาณ ดื่มน้ำแช่ด้วยหอกแช่ด้วยดาบ สาบานต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ด้วยสัตย์ปฏิญาณของตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้วความศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้รุนแรงมาก ถ้าตัวเองไม่ได้ทำอย่างนี้ แล้วตัวเองแอบทรยศ ตัวเองมีแต่ฉิบหาย ชีวิตจะต้องตกต่ำ" นายสนธิ กล่าว

ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดสวนกลับคลิปเสียงว่าเพราะทำดีถึงได้รับความไว้วางใจจากพ.ต.ท.ทักษิณ โจรมาไว้วางใจคุณ มันเป็นเรื่องที่หน้าไว้วางใจมากเลย ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องของกองทัพ กองทัพไม่ได้เสียหายแต่ผบ.ทบ.คนนี้จะทำให้กองทัพเสียหาย ตอนนี้สังคมไทยถูกอันธพาลเสื้อแดงรังแก เที่ยวข่มขู่คนโน้นคนนี้ เป็นสัมคนที่กุ๊ยครองเมือง คล้ายๆยุคพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ แต่ยุคนั้นทหารคือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ออกมาปราบหมดเลย แต่เผอิญยุคนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นพวกเดียวกับทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้านายของ พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ซึ่งเป็นเจ้านายอย่างเช่นนายโกตี๋ คือตอนนี้เป็นสูตรว่าใครทำอะไรไม่ถูกใจพวกมึง มึงก็จะเอาเสื้อแดงมาขู่เขา

แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวด้วยว่า โครงการรับจำนำข้าวมันเป็นภาพสะท้อนของสังคมไทยทั้งหมด สังคมทางการเมือง สังคมแห่งความโลภ สังคมการฉ้อฉล สังคมการฉ้อราษฎร์บังหลวง โครงการนี้มันไม่ได้เริ่มด้วยจิตที่บริสุทธิ์ มันเริ่มเพราะหวังคะแนนเสียและประโยชน์จากทางการเมือง กะจะฉ้อราษฎร์บังหลวงทำกำไรจากตรงนี้ ได้ทั้งเงินได้ทั้งคะแนนเสียง โดยที่ใช้เงินของประเทศชาติ มิตินี้จะเห็นได้ชัดว่ามันเกิดทุกยุคทุกสมัยกับทุกรัฐบาลด้วย โครงการไทยเข้มแข็งก็เช่นกัน เหมือนกันไม่ได้ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว

โครงการจำนำข้าวเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่ครบวงจร เพราะโกงกันตั้งแต่แรกเริ่ม ประการแรกโรงสีที่เข้าโครงการต้องเป็นพรรคพวกมันเอง ที่พร้อมจะเป็นหัวคะแนน หรือที่พร้อมจะเอาส่วนแบ่งของที่จำนำข้าวได้ ส่งคืนให้นักการเมือง มิติการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่แทรกซึมเข้าไปทุกอณู ก็จะมีนักการเมืองหลายคนที่เห็นโครงการนี้ เจ้าของโรงสีหลายคนที่ไม่ได้รับแค่โครงการนี้เท่านั้นเอง ไปซื้อข้าวจากพม่า ตันละ 3,000 - 8,000 บาท คุณภาพข้าวไม่สนใจ ถ้าซื้อมา 5,000 ก็จำนำ 15,000 ได้หมื่นนึงก็แบ่งนักการเมือง 5,000 ตัวเองเอา 5,000

อีกมิติหนึ่งก็คือการโกงโดยที่มีการรู้เห็นเป็นใจ หรือร่วมด้วยกับข้าราชการประจำ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์มีส่วนร่วมที่ทำให้นักการเมืองโกง ไล่มาตั้งแต่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ไล่มาเรื่อยๆ เลย ไม่เว้นแม้กระทั่งนายยรรยง พวงราช ที่เพิ่งมาเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ เพราะว่ารับรู้ เป็นใจกับทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันมีอุปสรรค มีปัญหา และไม่ควรทำเช่นนี้ แต่ความซึ่งต้องการลาภยศจากนักการเมือง ก็เลยจำเป็นต้องทำเป็นนักการเมือง ส่วนข้าวเน่าไม่ต้องพูดถึง มันเน่าแน่นอน คำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้เลยว่า แล้วจะทำอย่างไรกับข้าวที่เหลืออยู่ 18 ล้านตัน

โครงการจำนำข้าวคือโครงการที่ทำลายอุตสาหกรรมข้าวให้พังหมด เพราะว่าทุกคนจะเลิกที่จะทำข้าวนาปี จะหาน้ำเพื่อจะทำข้าวนาปรังให้ผลิตออกมาเยอะที่สุด เร็วที่สุด เพื่อที่จะจำนำ เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋า มันก็เลยทำให้คุณภาพข้าวที่เคยมีข้าวดีๆ ข้าวที่ใช้ได้ กลายเป็นข้าวที่เลวหมดทุกประเภท ใช้ยาฆ่าแมลง สารป้องกันข้าวบูด ทำให้ข้าวมีสารพิษตกค้างเต็มไปหมด แล้วมันก็ตกมาถึงตัวประชาชน



คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 19 ก.ค. 2556

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นางสาวกรองทอง เศรษฐสุต ร่วมดำเนินรายการ

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ

กรองทอง - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" นะคะ วันนี้วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556

สนธิ - วันที่เท่าไร

กรองทอง - 19 แล้วค่ะ ปี 2556

สนธิ - ผมได้ยินเป็น 29 ตกใจ

กรองทอง - 19 ค่ะ ยังไม่เร่งวันเร่งคืนค่ะ เพราะว่าช่วงนี้ทุกอย่างตรง สถานการณ์เราก็ พนักงานมีความสุขดี ไม่ต้องลุ้น

จินดารัตน์ - โยงไปถึงเรื่องนู้นเลยนะ

กรองทอง - วันนี้มีหลายเรื่องด้วยกัน มีทั้งเรื่องแบบแสบๆ คันๆ มันๆ ไปจนถึงแอคชั่นก็มี

จินดารัตน์ - ดราม่าก็มี

กรองทอง - ดราม่าก็มีด้วย หลายเรื่องด้วยกัน

จินดารัตน์ - โกหกตอแหลก็มี

กรองทอง - ใช่ค่ะ จะมี/ไม่มี หรือเปล่า เดี๋ยวคงต้องมาฟังจากผู้ชายคนนี้ล่ะค่ะ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล สวัสดีค่ะ

สนธิ - สวัสดีครับ

จินดารัตน์ - วันนี้ อย่างที่นุกเรียนคุณผู้ชมไปนะคะ คุณสนธิ ว่าประเด็นมันเยอะเหลือเกิน

สนธิ - เยอะมากฮะ

จินดารัตน์ - บ้านเมืองเรามันมีปัญหาทุกมุม ทุกด้าน

สนธิ - มันเหมือนหมาขี้เรื้อน แตะไปที่ไหนคันหมดทุกจุด

จินดารัตน์ - พอเกาก็คะเยอเลยใช่ไหมคะ

สนธิ - เกาก็คะเยอหมดเลยทุกอย่าง

จินดารัตน์ - งั้นวันนี้จะเริ่มจากอะไรดีคะ

สนธิ - เดี๋ยวก่อน ก่อนจะไปเรื่องที่คัน เอาเรื่องเครื่องทำน้ำด่างก่อน

จินดารัตน์ - อ่อคะ

สนธิ - เครื่องทำน้ำด่างจะมีใครก็ตามอาทิตย์นี้ จองและซื้ออาทิตย์นี้ รับของได้หมดอาทิตย์หน้าเลย เพราะว่าเรามีเริ่มสั่งสต๊อกมาขาย คือจากการที่สมัยก่อนไม่มีสต๊อก ซื้อแล้วต้องรอ เดี๋ยวนี้เราเอาเงินไปซื้อมาแล้วทิ้งไว้แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วใครที่อยากได้เครื่องทำน้ำด่างทันทีภายในอาทิตย์ จองทันทีได้ก่อนหมด

จินดารัตน์ - มีแค่ร้อยกว่าเครื่องเอง

สนธิ - มีแค่ 140 เครื่อง ใครมาก่อนได้ก่อนเอาไปเลย

จินดารัตน์ - ส่วนล็อตหน้าก็จะมาเดือนสิงหาฯ ประมาณกลางๆ เดือน

สนธิ - แต่เดือนกรกฎาฯ อาทิตย์หน้า ถ้าใครมาซื้อปั๊บจ่ายเงินปุ๊บอาทิตย์หน้ารับของได้เลย

จินดารัตน์- ภายในสิ้นเดือนหน้า

สนธิ - เพราะว่าของกำลังออกจากท่าเรือ

จินดารัตน์- งั้นเดี๋ยวต้องรีบไปบอกคุณเติมศักดิ์ ที่ไม่จองเพราะรอก็เลย รอนะ รอๆ รอไปเรื่อยๆ

สนธิ - รอไปเรื่อยๆ

กรองทอง - ยังมีอีกหลานคน ดิฉันแนะนำว่าต้องมีติดบ้านเอาไว้ คุณวรรษมนพิธีกรคู่ตอนเช้าดิฉัน ถ้าได้ดื่มน้ำด่างชีวิตน่าจะดีขึ้นกว่านี้ อาจลดความเอ๋อลงบ้าง ลดดีกรีความเอ๋อลงได้บ้างไรบ้าง

สนธิ - มันลดได้จริงหรือ

กรองทอง - จริงเพราะว่าดื่มน้ำด่าง อย่างที่นุ๊กเคยบอกว่ามันรู้สึกกับตัวเองเลยว่ามันสดชื่น คือมันไม่ค่อยเพลีย

สนธิ - อ่อนุ้กรู้สึกอ่อ

กรองทอง - รู้สึกคะ นุ้กเป็นคนต้องตื่นเช้าทุกวัน พอช่วงกลางสัปดาห์พุธ พฤหัสเราจะรู้สึกเลยว่าเราเพลียแต่พอหลังจากที่ดื่มน้ำด่างมันจะแบบมันจะสดชื่น มันจะไม่เหมือนแต่ก่อน แต่มันต้องบวกกับที่พักผ่อนให้เพียงพอเลิกกินโค้ก แต่นุ๊กไม่ทานน้ำอัดลม แต่ตอนนี้วรรษมนเลิกแล้วนะ ลดแล้ว เหลือแค่วันละ1กระป๋อง ถ้าได้น้ำด่างไปอีกอย่าง

สนธิ - ผมเจอเขาที่บ้านพระอาทิตย์ตึก A เขาไปทายอาหารเช้า เขาก็พูดอย่างภูมิใจเลยว่าตอนนี้เขาลดแล้วเหลือแค่กระป๋องเดียวเพราะว่าผมเป็นคนบอกให้ลดทาน แต่ก่อนเขาทานเป็นขวดลิตรกินแทนน้ำ วันประมาณลิตรกว่าเกือบ 2 ลิตร ตอนนี้เหลือกระป๋องเดียว

จินดารัตน์ - เมื่อวานนั้งคุยกับฮวง โปรดิวเซอร์เรา ฮวงบอกว่าบางคนนะพี่ป่วยแทบแย่ละ ตับจะพังอยู่แล้วบอกแล้วบอกอีกไปล้างพิษตับสิ แล้วดื่มน้ำด่างเยอะๆ ปรับวิธีการทานอาหาร พูดจนถึงกระทั่งว่าอีกหน่อยแม่คงจะต้องได้ถือรูปเดินวนรอบเมรุ จะเอาถึงขนาดนั้นใช่ไหม ก็ยังเฉย เขาบอกครับ ครับ ครับ ฮวงก็เลยบอกว่าสงสัยหนูคงต้องใช้หลักความจริงของชาวอโศก บอกแล้วถ้าเขายังไม่ถึงบุญ ก็ตัวใครตัวมัน

สนธิ - ในทางธรรมเขาเรียก อุเบกขา ต้องปล่อยวาง หวังดี ช่วยเหลือแล้ว คิดให้เขาเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ทุกอย่างก็ไม่ทำ ก็ต้องอุเบกขา วางเฉยไปเลย

จินดารัตน์ - ก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว อยากให้ปรับวิธีคิดกันนิดหนึ่ง การดูแลสุขภาพ เพราะทุกวันนี้โรคมันมาแบบน่ากลัว โรคแปลกๆ ทั้งนั้น

สนธิ - ยิ่งมีลูกมีเต้า การจัดอาหารให้ลูกทาน หรือว่าพาลูกออกไปข้างนอก ต้องระวัง ข้าวของที่ซื้อกันในตลาด พืชผักผลไม้ สารพิษทั้งนั้น จะซื้อของอะไร อยากให้ระวัง ระวังจริงๆ คิดสักนิดหนึ่ง ให้จำไว้นะ ผลไม้กับผักที่สวย จะต้องถูกเคลือบด้วยสารพิษหมด ผลไม้กับผักที่ถูกต้อง ต้องไม่สวย เห็นมั้ยที่วางส้ม วางแอปเปิล อะไรพวกนี้ ที่วางสวยๆ กัน เงาทั้งหมด อย่าไปซื้อ อย่าไปซื้อเลยนะ สำหรับผมแล้ว ผมยังคิดว่า ส่วนตัวนะ ผมคิดว่าสับปะรดยังค่อนข้างจะปลอดภัย แคนตาลูป แตงโม เลิกทานได้เลย ฉีดยาทุกลูก น่ากลัวมากนะ ผมไม่ได้พูดเล่น ผมเป็นคนไม่ทานเนื้ออยู่แล้ว แต่ผมจะทานหมูกับไก่ กับปลา หลังๆ ผมก็ตัดหมูกับไก่ออกไป แทบจะไม่ทานเลย ทานกุ้ง ทานปลา หรือไม่ก็ข้าวไข่เจียว ง่ายๆ ก็อีกอะ ผมบอกอาจารย์ปานเทพกับบอกพี่ลองไป บอกสักวันเร็วๆ นี้ คงจะให้ของขวัญพี่ลองด้วยการกินมัง มีความรู้สึกเบื่อเนื้อสัตว์ แม้กระทั่งอาหารทะเลก็เริ่มเบื่อ

จินดารัตน์ - แต่จริงนะคะคุณสนธิ พอเราเริ่มทานเนื้อสัตว์น้อยลง ร่างกายจะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ มันจะสั่งความรู้สึกของเราเลยว่า มันกินไม่ได้แล้ว ไม่อยากกินแล้ว เมื่อก่อนเรารู้สึกว่า เนื้อย่าง หมูย่าง เราจะกิน

สนธิ - เดี๋ยวนี้ไม่ เดี๋ยวนี้เฉย และผมก็มามีข้อสรุปไม่ว่าจะไก่หรือหมู เดี๋ยวนี้ทั้งเนื้อไก่เนื้อหมู เขาเอาอาหารผสมฮอร์โมนทั้งนั้นเลย และก็ยาแอนตี้ไบโอติก

กรองทอง - ยาแก้อักเสบ

สนธิ - เพื่อป้องกันโรค เพราะฉะนั้นแล้วพอผมเลิกกิน คือผมไม่ได้เลิกนะ แต่ผมไม่ได้แตะมา บนโต๊ะกินข้าวที่ออฟฟิตจะเห็นมีปลาตลอด คิดอะไรไม่ออกก็ฉีกปลามาแล้วก็ทานกับข้าวแค่นั้นเอง แล้วก็ทานผัก ทานน้ำแกง จบ ไม่ทานแล้วนะ บางทีมีหมูทอดมา แต่ก่อนไม่ได้เลยนะ สมัยครั้งนึงนานมาแล้วยังทานเนื้ออยู่เมื่อสักเกือบ 20 ปีที่แล้ว แอนเชื่อไหม เนื้อเปื่อย เนื้อตุ๋นที่ไหนอร่อยไกลอย่างไรเข้าซอยลึกแค่ไหน สนธิต้องโผล่เข้าไปให้ได้ ไม่เคยพลาด มีเจ้าเนื้อเปื่อยที่เวิ้งนครเกษมในตลาดมีชื่อมากเจ้านั้น ผมจะต้องไปจองจนกระทั่งเจ้าของร้านจำหน้าได้ จะแซงคิวให้ตลอดเวลา รู้สึกมันหอมอร่อย เดี๋ยวนี้เลิก เลิกมา 20 ปีแล้ว

ผมอยากจะแนะนำนิดหนึ่งว่า สัตว์เลี้ยงพวกหมู ไก่ วัว อาหารที่เลี้ยงจะเป็นอาหารที่ผสมฮอร์โมนหมด เพราะต้องเร่งให้พวกสัตว์มันโต ในขณะเดียวกันที่ตอ้งผสมยาแอนตี้ไบโอติกเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้สัตว์เป็นไข้ ไม่สบาย ป้องกันไว้เลย เหมือนกับเอายาฆ่าแมลงไปฉีดตรงใบเพื่อไม่ให้แมลงมาเกาะ พอมาเกาะแมลงก็ตาย ฉันใดฉันนั้น เวลาทานของพวกนี้ไปมากๆ ฮอร์โมนมันสะสมในร่างกาย

กรองทอง - พอพูดเรื่องอาหารการกินต้องระมัดระวังก็ต้องกลับมาเรื่องสถานการณ์ตอนนี้เลยค่ะ เรื่องข้าว ที่วันนี้เดี๋ยวเราจะต้องมาพูดกันด้วย ว่า กระบวนการในโครงการรับจำนำข้าว ถ้าพูดถึงคำของนายกฯ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มันมีหายนะทุกขั้นตอนเลยค่ะคุณสนธิ อย่างปลายน้ำตอนนี้ ล่าสุดนายกฯตอนนี้ต้องพยายามเรียกความเชื่อมั่นคืนมาด้วยการรับประทานข้าวโชว์

สนธิ - โครงการข้าวนี่มันมีนัยมากกว่านั้นนะ แอน นุก เดี๋ยวเราจะพูดกันเบรค 2 โครงการข้าว คือโครงการข้าว ถ้ามองภาพรวมแล้ว มันคือภาพสะท้อนของความเป็นไปในประเทศไทยทุกวันนี้ ซึ่งมันกระทบทุกระดับ แล้วสะท้อนถึงพฤติกรรมของคนทุกระดับเช่นกัน แล้วมันสะท้อนเห็นความเน่าเฟะของสังคมทุกระดับเช่นกัน ทั้งอุตสาหกรรมข้าว ทั้งวิธีคิดข้าว ทั้งวิธีที่จะกำหนดว่าไทยจะต้องส่งออกข้าวกี่ตัน เราคิดผิดกันมาตลอดเลย ซึ่งประเดี๋ยวเบรค 2 ผมค่อยคุยให้ฟังดีกว่า

จินดารัตน์ - เขาบอกว่ามันเป็นความหายนะแบบคลาสสิค

สนธิ - มันเป็นความหายนะทั้งระบบ แล้วก็มันเป็นความหายนะที่มองแต่ละจุดแล้วมันสะท้อนถึงวัฒนธรรมและมุมมอง มิติต่างๆ ของสังคมไทย มิติทางด้านการคอร์รัปชัน ฉ้อราษฎร์บังหลวง มิติของความโลภของพ่อค้า มิติของนักการเมืองที่เอาแต่ได้ มิติของคนที่มีฐานะดี คือโรงสี ที่เอาเปรียบคนปลูกข้าว มีหมดทุกมิติ มีมิติของข้าราชการที่เอาตัวรอด แล้วสุดท้ายก็จบลงด้วยมิติที่ในที่สุดก็จบลงด้วยประชาชนเป็นผู้แบกรับทุกๆ เรื่อง

กรองทอง - รวมถึงอาจจะต้องกินข้าวปนเปื้อนสารพิษ มีเชื้อรา ซื้อข้าวแถมมอดกันไปด้วย

จินดารัตน์ - แล้วเขาถามว่าแล้วเสื้อแดงเขาจะกระทบยังไง เดี๋ยวก็รู้ เดี๋ยวคุณสนธิจะเล่าให้ฟัง วันนี้เรื่องข้าว ปัญหาข้าว มันไม่ได้แบ่งแยกสีแล้วนะ

สนธิ - ไม่มีสีฮะ

จินดารัตน์ - คือสีเดียวกัน คือรับกรรมเหมือนกัน สีทนได้ จากเรื่องข้าว เดี๋ยวเราจะพูดกันในรายละเอียดนะคะ มาพูดถึงเรื่องข้าราชการกันนิดหนึ่งนะคะ คุณสนธิ โดยเฉพาะข้าราชการบางคน เขาจะทำอะไรเขาต้องไปถามแม่เขาก่อน วันนี้สังคมตั้งคำถามว่าตกลงไปถามแม่แล้ว แม่แนะนำให้ไปถามพ่อที่ต่างประเทศ หรือพอมีเรื่องมีราวแล้ว

สนธิ - แม่เขาอาจจะบอกว่า ไปถามพ่อมึงสิ ตอนนี้พ่อมึงอยู่ที่ดูไบไง อยู่ที่ฮ่องกง

จินดารัตน์ - ต้องบินไปถามพ่อ

กรองทอง - ลองพูดถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ใช่ไหมคะ กับกรณีที่มีวันนี้เพราะพี่ให้ ไปให้นักโทษชายประดับยศให้ และก็ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินก็มีมติออกมาว่า ต้องส่งเรื่องไปให้ทางต้นสังกัดคือ สตช.ให้ตรวจสอบเรื่องของจริยธรรม เพราะว่าเหตุผลของผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่าอย่างนี้เลยนะคะ บอกว่าผู้ตรวจการเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้สูญเสียต่อเกียรติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจจะทำให้เกิดข้อครหาในกระบวนการยุติธรรมที่อาจถูกมองว่า ไม่เป็นกลาง และเลยให้ทาง ผบ.ตร.ต้องทำหนังสือ เหมือนตอบกลับผู้ตรวจการภายใน 30 วัน ซึ่งส่งไปหา ผบ.ตร.ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาฯ คือตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว

จินดารัตน์ - เขาบอกต้องให้คำตอบ ต้นเดือนสิงหาฯ นี้

กรองทอง - ใช่ค่ะ

สนธิ - ผบ.ตร.ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะ ผบ.ตร.ก็เป็นคนนึงเหมือนกันที่ไปหา

กรองทอง - หมดกัน

สนธิ - ไปหานักโทษชายทักษิณ คือมันมีเรื่องบางเรื่องในสังคมไทย มันพัฒนาไปจนกระทั่งเริ่มรู้แรกๆ นี่รู้สึกเศร้ากับมัน เศร้า และรู้สึกว่าจิตใจไม่ปกติ รู้สึกหงุดหงิดรู้สึกอารมณ์เสีย และมันมีเข้ามาเรื่อยๆ ความเลวมันเลวลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีความรู้สึกไม่อยากจะอ่านข่าว ไม่อยากจะฟังข่าว หรือว่าฝึกตัวเองให้จิตใจสงบ ได้ยินอะไรมาให้ทะลุจากหูซ้ายออกหูขวาไปเลย โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น วิธีนั้นอาจจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ตัวเราเองอยู่รอดได้ ถ้าเราไปจริงจังกับเรื่องราวต่างๆ พวกนี้ เราจะบ้าเอา อันนี้เรื่องจริงจะบอกให้รู้นะ
ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สังเกตอย่างใช้คำว่า ไม่เหมาะสม จริงๆ แล้ว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ที่มันดูแลตำรวจ เขาก็พูดเปิดทางให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และตำรวจอีกเยอะเลย ที่ไปพบนักโทษชายทักษิณมา เพราะเพียงเพื่อต้องการตำแหน่ง เช่น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกือบจะทุกคน ยกเว้น พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ คนนี้ไม่ได้ไปพบ นอกนั้นไปพบทักษิณหมดเลย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทุกคน อยากเป็นผู้บัญชาการ ไปพบหมด รองผู้บัญชาการภาค 4 ภาค 5 ภาค 3 ไปพบทักษิณทั้งนั้น เพื่อให้เห็นหน้า บางคนวันเกิดก็ต้องขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีให้ ที่ฮ่องกงนะ ในอดีต คือทำทุกอย่าง พล.ต.อ.ประชา พูดอย่างนี้ แกบอกว่า กฎหมายไทยไปใช้ที่เมืองนอกไม่ได้ คล้ายๆ ว่าตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย ต้องมีอำนาจตาม ป.วิ.อาญา ถ้าเขาเห็น เขารู้ว่าแอนเป็นผู้ร้าย และมีหมายจับ หนีคุก เขาเจอที่ไหนเขาต้องจับทันที ถ้าเจอแล้วไม่จับ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้นแล้ว คำถามว่า แล้วทำไมคำรณวิทย์ หรือตำรวจต่างๆ ไปพบทักษิณ ชินวัตร ถึงไม่จับ ประชาบอกว่า กฎหมายอันนี้มันใช้เฉพาะในเมืองไทย เมืองนอกใช้ไม่ได้

กรองทอง - จะไปจับที่เมืองนอกไม่ได้

สนธิ - โอเค เขาอาจจะมีประเด็น เพราะว่าคุณจะไปจับเขาในฐานะอะไร ถูกมั้ย เพราะเขาอยู่ต่างประเทศ เขาอยู่ภายใต้กฎหมายต่างประเทศ ถ้าคุณจะไปจับเขา คุณต้องไปขอความร่วมมือจากตำรวจ ยื่นหมายจับไป มีสนธิสัญญาแลกเปลี่ยนผู้ร้ายข้ามแดน แล้วก็บอกว่ามีผู้ร้าย ขอให้จับให้หน่อย ทีนี้เมื่อจับไม่ได้ เพราะมันไม่มีกฎหมายที่จะช่วยครอบคลุม ก็เลยเป็นเหตุทำให้คุณประชาบอกว่า เปิดทางให้เรียบร้อยแล้ว ว่าคำรณวิทย์ไม่ผิด ก็หมายถึงอดุลย์ แสงสิงแก้ว ก็ไม่ผิด ก็หมายถึงสมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก็ไม่ผิด คนโน้น คนนี้ก็ไม่ผิด แต่คำว่าไม่เหมาะสมของผู้ตรวจการแผ่นดิน แท้ที่จริงก็คือคำว่า ควร หรือไม่ควร ถูกมั้ย กฎกติกามี บางครั้งทำตามกฎกติกา แต่แม้กระทั่งกฎกติกาที่มีอยู่ ก็ต้องมีคำว่าควร หรือไม่ควร ประกอบด้วย เพราะว่าคำว่าควร หรือไม่ควรนั้น มันเป็นองค์ประกอบ มันเป็นมิติทางสังคม มิติทางวัฒนธรรม มิติทางความถูกต้อง ซึ่งมันเกี่ยวข้องกันไปหมด เหมือนกับว่า เวลาฝรั่งมาเมืองไทย เราเชิญมาที่บ้าน มิติของเขา วัฒนธรรมของเขาก็คือว่าเขาใส่รองเท้าเข้าบ้าน เขาไม่รู้ เขาเดินเข้ามาแล้วเขาเอาเท้าใส่รองเท้าเดินเข้ามา คำถามซึ่งเขาต้องถามตัวเองว่า ในเมื่อเขาเข้ามาในบ้านของคนไทยแล้ว คนไทยทุกคนถอดรองเท้าหมด เขาควรหรือไม่ควรที่จะถอดรองเท้า ตามคนไทย เพื่อให้ถูกต้องตามมิติของวัฒนธรรม

คำถามก็มีอีกว่า คำรณวิทย์ อดุลย์ แสงสิงแก้ว หรือใครก็ตามที่เป็นตำรวจ ข้าราชการ รู้อยู่แล้วว่าทักษิณ ชินวัตร คือผู้ต้องหา นักโทษที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าผิดแล้ววหนีคุก คือข้อเท็จจริง ตำรวจทุกคนรู้ คำถามมีอยู่ว่าคำรณวิทย์จะรักทักษิณแค่ไหนก็ตาม แต่โดยเครื่องแบบที่ถูกตัวเองใส่ คำรณวิทย์ควรหรือไม่ควร ที่จะไปพบแล้วให้ไปติดยศตำรวจด้วยนะ ตำรวจมีหน้าที่จับผู้ร้ายหรือมีหน้าที่ทำอะไรนอกจากจับผู้ร้าย แล้วถ้าไปเจอผู้ร้ายแล้วแล้วให็ผู้ร้ายติดยศไม่ผิดกฎหมายแต่ว่ามันบัดซบ อุปมาอุปไมยเหมือนตำรวจบางคนรุ่นน้องในอดีตวันเกิดของเขาเป็นตำรวจกองปราบสมัยก่อนยศเขาจะเป็น รองผู้กำกับนานมาแล้ว พี่มาวันเกิดผมมาเป็นเกียรติให้ผม พี่ขอร้องนะ ผมก็ไป เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม โจรทั้งนั้นอยู่งานวันเกิดมันในบ่อน มาเฟีย ชื่อเสียงโด่งดังต่างๆ พอเอ่ยชื่อทุกคนรู้ว่านี้คือโจรนี้คือมาเฟีย ไอ้นี้คือคนซึ่งทำผิดกฎหมาย ผมไม่ได้เข้าไปเลยนะ ผมเห็น ผมบอก เฮ้ย ช้างมานี้สิ พี่ขออนุญาตกลับว่ะ บอกพี่อยู่เถอะ บอกว่าพี่อยู่ไม่ได้พี่อายแทนมึง เพราะมึงเป็นตำรวจ มึงเลี้ยงวันเกิดมึงนะ ไอ้พวกนี้ซี้กับมึงยังไง มีเบื้องหน้าเบื้องหลังยังไง งานประเภทนี้มึงเชิญโจรมาทำไม เขาจะมองว่ามึงเป็นตำรวจแต่มึงคบโจร ถ้ามึงจะคบเพื่อประโยชน์ในการทำงาน เพราะตำรวจไทยร้อยละ 99 คบโจร เลี้ยงโจร เพื่อเอาโจรจับโจรแล้วใช้โจรเป็นสายแล้วอนุญาตให้โจรพวกนี้ทำผิดกฎหมายได้ เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการที่จะมาต่อสายไปถึงโจรคนอื่น ผมมองว่า เองเลี้ยงเป็น 2 ชุดสิที่หลัง ชุดหนึ่งเองก็เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ อีกชุดเองก็เชิญพวกโจรมา เองก็นั่งคุยกัน เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นแล้วการปฏิบัติตน การทำตน การรู้จักตัวเอง การรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสมมติอะไร ซึ่งอันนี้เดี๋ยวเราแตะสักนิดหนึ่งในอนาคต เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ ลักษณะจะคล้ายๆกัน เพราะว่าคนที่เป็นผู้นำองค์กร หรือคนที่มีหน้าที่ปฏิบัติตาม ป.วิอาญา ก็คือมีหน้าที่จับผู้ร้าย มีหน้าที่ดูแลความสงบสุข แล้วก็รู้อยู่แล้วว่าทักษิณเป็นนักโทษ รักกันให้ตายยังไงก็ตาม ไม่จำเป็นต้องให้เขาติดยศ คำถามมันจะมีมาอีกเหมือนกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ถามว่าตัวเองเป็นตำรวจ ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควรหรือไม่ควรที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย เมื่อสมัครแล้วเป็นผู้ว่าฯ ไม่ได้ และตัวเองยังเสือกกลับไปเป็นตำรวจเหมือนเดิม

กรองทอง - เข้าไปที่เดิมในตำแหน่งเดิม

สนธิ - เข้าไปที่เดิมตำแหน่งเดิม ปัญหาที่ตำแหน่งเดิมยังไม่สำคัญเท่ากับตัวเองเป็นผู้รักษากฎหมาย ตัวเองควรหรือไม่ควรที่จะทำตัวเองให้เป็นที่พึ่งได้ทุกๆ ฝ่าย ให้กับประชาชนทั่วไป แต่วันนี้ตัวเองได้แสดงเจตจำนง และเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ตัวเองคือคนของพรรคเพื่อไทย ชัดเจน เหมือนคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ว่า ตัวเองเป็นคนของทักษิณ ชินวัตร เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคนอย่าง คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จะต้องมามีเรื่องกับพรรคประชาธิปัตย์ ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับทักษิณอย่างเช่น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถามว่าคำรณวิทย์จะสามารถให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายนี้ได้ไหม เห็นไหมเข้าใจหรือยัง เหมือนกันเป๊ะเลย เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นแล้วคนอย่างคำรณวิทย์ คนอย่างพงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นคนที่ไม่ควรสวมเครื่องแบบ ควรจะถอดเครื่องแบบและลาออกไปซะ เพราะฉะนั้นแล้วที่ถามบอกว่า ผมถามแม่แล้ว

กรองทอง - แม่เป็นครูสอนจริยธรรมคะ

จินดารัตน์ - และก็ไม่ได้ถามแม่ใครด้วย

สนธิ - ผมไม่รู้แม่ใครไม่รู้ แม่คุณรึเปล่า ถ้าผมเข้าใจก็น่าจะถามแม่คุณมากกว่านะครับ เพราะว่าคุณแม่ซึ่งเป็นอายุคงจะมากแล้ว ถ้าสอนจริยธรรม ถ้าเขาจะพูดผมเชื่อเขาต้องบอกว่า ความจริงทักษิณเขาก็มีบุญคุณกับลูกนะ เพราะว่าที่ลูกได้ เพราะว่าเขาให้การสนับสนุน แต่ว่าแม่ว่าไม่ควรจะไปเจอเขา เพราะว่าเครื่องแบบหน้าที่ที่ลูกมีอยู่ ออกไปแล้วมันจะไม่เหมาะสม ผมเชื่อว่าแม่นี่คิดเป็นนะ จะต้องพูดอย่างนี้ แต่ถ้าแม่ไม่ได้พูดอย่างนี้ แม่บอกไปเลยลูกไป ไม่ต้องไปกลัว ถ้าอย่างนี้เป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้

กรองทอง - หรือไม่คุณคำรณวิทย์อาจจะแบบตีความหมายของแม่ผิดก็ได้ แม่อาจจะแบบไปถามพ่อไป เลยไปหาพ่อจริงๆ ตีความผิดหรือเปล่าอะไรอย่างนี้ นี่อุตส่าห์คิดเข้าข้างนะ คิดเข้าข้างแม่นะ

สนธิ - คือมันทุเรศ เหมือนกับนายเฉลิม อยู่บำรุง เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และดูแลตำรวจ และยังบินไปพบทักษิณ ถามว่าแล้วบทบาทที่คุณสวมหมวกสมมุติของคุณคือ การดูแลความมั่นคง และต้องให้ความสบายใจ ความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกคนในประเทศไทย ไม่สำคัญว่าจะเป็นสีไหน ไม่สำคัญว่าจะอยู่พรรคการเมืองใด คนจะเชื่อใจคุณได้อย่างไร นี่ไง นี่ก็อีกเรื่องหนึ่งบนหนังหมา ผมถึงบอกว่า ประเทศไทยเหมือนหมาขี้เรื้อน นี่ก็อีกจุดนึงไง

จินดารัตน์ - แล้วแผลใหญ่ด้วยนะคะ

สนธิ - แผลใหญ่ด้วย

กรองทอง - เฟะทั้งตัวแล้ว

สนธิ - จริงๆ แล้วคุณนึกดูนะ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 30 เปอร์เซ็นต์ พูดชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการภาคต่างๆ ภาค 1 ภาค 2 ภาค 3 รองผู้บัญชาการ ล้วนแล้วแต่ไปหาทักษิณกันทุกคน เพื่อหวังตำแหน่ง ผมถามว่าประชาชนจะหวังพึ่งอะไรกับคนพวกนี้ได้ ถ้าสมมุติว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอาชีพ เช่น นักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม สื่อมวลชน หรือภาคประชาชนที่ต่อต้านทักษิณ หรือระบอบทักษิณที่มีการโกงกิน เขาจะพึ่งอะไรคุณได้ ด้วยเหตุนี้ผมถึงบอกว่า ตำรวจเป็นองค์กรที่น่าสงสาร และน่าสมเพชและน่าทุเรศที่สุด

จินดารัตน์ - แต่มีอยู่คนนึงที่เข้าใจ ผบ.ตร.มากที่สุดเลยนะคะ คือ คุณบัญชา คามิน ทั้งๆ ที่เขียนการ์ตูนวันนี้ใช่ไหมน้องนุก

กรองทอง - ใช่ การ์ตูนบัญชา คามินวันนี้ แหลมเรียกพี่

จินดารัตน์ - มีไหมมีภาพไหม ขอให้ท่านผู้ชมได้ดูก่อน

กรองทอง - เป็นของฉบับเช้าวันนี้เลยคะ คือประมาณว่าเป็นการ์ตูนที่หน้าคล้าย ผบ.ตร.เรียกคนที่หน้าคล้ายแจ๊ด ชื่อแจ๊ดเรียกกันเข้าไป และแจ๊ดมีเขียนอยู่ที่หน้าผากเลยนะ รอยสักอยู่ที่หน้ากากเลย ขี้ข้าทักษิณ ไอ้ที่หน้าเหมือน ผบ.ตร. วีนใส่เลยปรี้ดเลยบอกว่า เขียนไปแบบนี้ใครเห็นมันไม่ดีนะ แจ๊ดเลยทำหน้า อ่อหรอ ผบ.ตร.ก็เลยถอด

จินดารัตน์ - ปลดกระดุมเสื้อ

กรองทอง - ต้องอย่างนี้ ขี้ข้าทักษิณตัวใหญ่กว่าอยู่ที่แผงอก

สนธิ - แต่มีเสื้อคลุมไว้

กรองทอง - แต่มีเสื้อคลุมไว้ ยังเหนียมอยู่ ไม่ใช่เหนียมจริง ก็ยังรู้ว่า

สนธิ - คือผมว่าอย่างนี้.....

กรองทอง - นี่ มันต้องอย่างนี้

จินดารัตน์ - ตัวเบ้อเริ่มเลย

กรองทอง - แจ๊ดหงอเลย

จินดารัตน์ - ตัวใหญ่กว่าด้วย

กรองทอง - ใหญ่กว่า มิน่าล่ะ .. ผบ.ตร.เลย

จินดารัตน์ - คุณบัญชา คามิน นี่แกเข้าใจหลายคน เข้าใจเรื้อนหลายเรื้อนนะคะ เพราะคุณสนธิบอกว่า เนี่ย จะเอาการ์ตูนมาให้ดูด้วย ของคุณบัญชา คามิน ตั้งแต่ต้นเดือนมา

สนธิ - มีมั้ยฮะ ลองไล่การ์ตูนหน่อย

กรองทอง - ที่ชอบมากคืออันนี้ เครื่องแบบของ ผบ.ทบ. เดี๋ยวนี้ทหารไม่ใส่ลายพรางทหารแล้วนะ ต้องลายพรางโมโนแกรมหลุยส์จ้ะ หมวกก็ต้องเป็นชาแนลนะ

จินดารัตน์ - ผบ.ทบ.พยายามปรับตัวเข้ากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่

กรองทอง - หมวกชาแนล เสื้อลายหลุยส์โมโนแกรม เข็มขัดแอร์เมส หัวขัดเงาด้วยมั้ง เพราะแอร์เมสมันจะมีขัดด้านกับขัดเงา

จินดารัตน์ - อ๋อ แล้วรองเท้าอะไร

กรองทอง - คอมแบต ทอปบู๊ต ต้องลายเบอร์เบอรี่นะจ๊ะ

จินดารัตน์ - เหมือนที่เคยใส่ไปลุยน้ำ เหมือนที่ผู้หญิงเคยใส่ไปลุย

กรองทอง - แต่ยังพยายามทำหน้าเหี้ยมเหมือนเดิม

จินดารัตน์ - อันนี้คือวันที่ 4 ที่ผ่านมา มีเครื่องบินเจ๊ต 2 ลำ บินสวนทางกัน "นมัสการท่านเณรคำ" "สวัสดีโยมทักษิณ" เขาบอก "ต่อไปนี้ทั้งคู่คงสวนกันบนอากาศบ่อยขึ้น" ภาพต่อไป วันที่ 8

กรองทอง - อันนี้ก็เจ็บนะ

จินดารัตน์ - "สำหรับนโยบายของผม ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพคลิกเข้าไปฟังเอาเองจากคลิปเสียงสนทนาของชาย 2 คน ในเว็บผู้จัดการออนไลน์" อันนี้คือรัฐมนตรีช่วยฯ กลาโหมคนใหม่ให้นโยบายต่อผู้บัญชาการเหล่าทัพ

สนธิ - จะรับทราบนโยบายก็ไปฟังคลิปเอาเอง

กรองทอง - ใช่ จะได้ไม่ต้องพูดหลายรอบ

จินดารัตน์ - แล้วหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมนะ ผบ.เหล่าทัพ ทำไมเจี๋ยมเจี้ยมขนาดนั้น / อันนี้เด็ด! "เขาทำอะไรกันน่ะ" มีเสื้อผ้าหลุดรุ่ยเลยนะ มีทั้งสีเขียว สีกากี

สนธิ - ภาษาอังกฤษเขาเรียก ORGY เซ็กซ์หมู่ไง

จินดารัตน์ - อ๋อ "เฮ้ย! มีคลิปพวกเราโผล่ว่ะ" แหมข่าวร้ายของพวกแอบเล่นเซ็กซ์หมู่ กลาโหมโฮเทล / วันที่ 10 นะคะ หนูผอมๆ แก่ เหี่ยว ผอมเชียว

สนธิ - หนูถั่งเช่าเหรอ

จินดารัตน์ - "ขอไปกินถั่งเช่าสัก 2-3 ตัวก่อนนะ หมดแรง" นี่บอกกับราชสีห์เฒ่า ใช้บริการหนูแก่ ราชสีห์ต้องรอนานหน่อยนะคะ / ไปวันที่ 11 ค่ะ "ไอ้นี่ฆ่าทหารไทยได้ทีละ 4-5 คนนะ" เขาหยิบระเบิดขึ้นมา ความรู้ใหม่เป็นแผ่นซีดีใช่ไหมนุ๊ก อาจเป็นแผ่นแบบ คลิปเสียงฆ่ามันให้หมดทั้งกองทัพเลยวันที่ 12 คะ หน้าเหมือนๆ มีวันนี้เพราะพี่ไว้ใจ เพิ่งรู้ว่าตู่ก็มีป้ายเหมือนกัน

สนธิ - หลังจากที่แจ๊ด มีแล้ว มีวันนี้เพราะพี่ให้ไอ้ตู่เขาก็มีวันนี้เพราะพี่ไว้ใจ

จินดารัตน์- อันนี้วันที่ 15

สนธิ - อันนี้คลาสสิกที่สุดเลย

จินดารัตน์ - เรื่องความกล้า 2 คนนี้ควรจะแลกเครื่องแบบกัน จำได้ไหมผู้หญิงหน้าตาคล้ายๆคุณสุภา ปิยะจิตติคะ ยืนแบบเข้มแข็งมาก คุณผู้ชายใส่ชุดกระโปรง

สนธิ - คุณสุภา แกเป็นคนที่กล้าหาญมาก การที่เอาเครื่องแบบให้คุณสุภาใส่ไม่ผิด โดยลักษณะของทหารเครื่องแบบบอกถึงความไม่กลัว กล้าหาญ แล้วก็เป็นคนซึ่งพูดจาตรงไปตรงมาของทหารที่พูดความจริงไม่โกหก สุภาเป็นตัวอย่างตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศไทยนี้มีคนคิดแบบสุภาไม่น้อย แต่ไม่มีความกล้า สุภาเป็นคนซึ่งไม่สนใจอะไร ถูกก็ถูก อะไรผิดคือผิด แล้วนี้เป็นลักษณะของคนกระทรวงการคลังยุคเดิม ซึ่งปัจจุบันหาไม่ได้แล้ว เพราะข้าราชการส่วนใหญ่โดยเฉพาะกระทรวงการคลังจะกลัวนักการเมือง การที่ท่านปลัดกระทรวงการคลัง คุณอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ตั้งคณะกรรมการมาสอบคุณสุภาในกรณีคุณสุภาพูดความจริง แล้วคุณสุภาแกไม่ได้ไปพูดโกหก แกไปพูดในกรรมาธิการ เมื่อแกให้การที่กรรมาธิการแกต้องให้การตามความจริงที่แกเชื่อ ตามหลักฐานที่แกมี แต่ดันให้คณะกรรมการสอบแก ว่าแกให้ข้อมูลออกสู่สาธารณะ ทำให้เสียชื่อ ถ้าไม่จริงอาจทำให้เสียหาย ตรงนี้คุณอารีพงศ์ผิดนะ เพระาเวลาข้าราชการถูกเชิญไปให้การ เขาต้องให้การเต็มที่ แล้วจะไปเอาคำให้การของเขาในคณะกรรมาธิการมาเล่นงานไม่ได้ คุณอารีพงศ์คงอยากเป็นปลัดต่อ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเป็นคนโบราณเขาเรียกว่าหน้าตัวเมีย คุณสุภา ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าตัวผู้ ก็ยังเป็นตัวเมียเหมือนเดิม แต่เป็นตัวเมียที่มีความกล้าหาญมากกว่าตัวผู้ที่เป็นหน้าตัวเมีย
ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เห็นชัดๆเลย คุณสุภาเป็นคนที่กล้า และทำไมอีกคนซึ่งเป็นทหารแต่แต่งตัวเป็นผู้หญิงหรือจริงๆแล้วผมคิดว่าการ์ตูนทำได้ถูกต้องหมด เสียอยู่นิดเดียวคือผู้หญิงไม่ใช่เป็นคนไม่กล้าหาญ จริงๆแล้วคนทางขวาไม่ควรจะแต่งชุดผู้หญิง

กรองทอง - มันเสียเกียรติผู้หญิง

สนธิ - เพราะผู้หญิงที่ดีๆก็มีเยอะ เพราะคุณสุภาคือผู้หญิง ผู้หญิงที่กล้าหาญมีเยอะ ผู้หญิงที่รักชาติรักบ้านเมืองก็มีเยอะ อย่างน้อยที่สุดก็ผู้หญิงพันธมิตรฯไง ใจถึง ซื่อสัตย์ ไม่คดโกงใคร รักชาติบ้านเมือง คุณสุภาก็เลยสะท้อนให้เห็นว่า ลำพังแค่คุณสุภาคนเดียวเองนะที่กระทรวงการคลังยังทำเอาวุ่นขนาดนี้เลย ถ้าข้าราชการส่วนใหญ่มีความกล้าหาญพอที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดบนความถูกต้อง นักการเมืองมันทำอะไรไม่ได้หรอก

จินดารัตน์- ผู้ชายที่ยืนข้างขวาควรจะจับมันแก้ผ้า แล้วเอาหนังสือพิมพ์มาปิด

กรองทอง - หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการหรือเปล่า

สนธิ - แต่ก็คงไม่ใช่หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ เป็นเรื่องที่อัปมงคล

กรองทอง - นึกว่าแสลงใจเขาตอนนี้ เพราะว่าจริงๆหลายคนอยากจะเก็บตกกับสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยนะคะที่คุณสนธิพูดถึงประเด็นเหมือนกับมาเปลือยทหาร ผบ.ทั้งหลาย และมิวสิควิดีโอที่ยอดวิวทะลุแสนนะ

สนธิ - 110,000 กว่าแล้ว อาจจะถึง 120,000

จินดารัตน์- ก่อนไปถึงตรงนั้น แอนยังชอบการ์ตูนอีก

สนธิ - ดีฮะ เอาเลยฮะ

จินดารัตน์- ที่เหลืออีก 3 อันน่ะค่ะ อยากให้คุณผู้ชมได้ดู เผื่อว่าบางคนพลาด อย่างอันนี้ "มีคันนี้เพราะเณรให้" วงการสงฆ์ก็เป็นเรื้อนเหมือนกัน

สนธิ - เหมือนกันฮะ เรื้อนเช่นกัน

จินดารัตน์- อันต่อไปนะคะ "หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอจับกุมข้อหาปล้นทรัพย์" ไอ้โจรหันมาถามว่า "ถามแม่มายังเนี่ย" แล้วดูปืนสิ

สนธิ - ปืนเหี่ยวเลย

จินดารัตน์- ห้อยเชียว / สุดท้าย โอ้โห อันนี้ ...

สนธิ - อันนี้คลาสสิคมาก

จินดารัตน์- ชอบมาก "เอ็งไปทำอะไรมา ทำไมเขาสั้นลงไปแยะเลยวะ" อีกตัวบอกว่า "ไปฟังคลิปลับมา" เห็นมั้ย เขาเลยหด

กรองทอง - เขาเลยหด แล้วตาสว่างเลย

จินดารัตน์ - ฉลาดขึ้น ชอบอ่ะ...ชอบอันนี้

สนธิ - คือวันนี้พวกที่ชอบทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักวิชาการซ้ายจัด อกหักกันเป็นแถวเลย พวกนี้คิดที่จะใช้ทักษิณเพื่อมาล้มสถาบันหลักๆ ของประเทศไทย แต่วันนี้พวกตัวเองเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกทักษิณใช้ก่อน ทักษิณพร้อมจะถีบหัวพวกนี้ส่ง ทักษิณเคยถีบมาแล้วครั้งหนึ่ง จำได้มั้ย ตอนนั้นที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แล้วบอกตอนนี้ถึงฝั่งแล้ว กำลังจะขับรถขึ้นเขาแล้ว

กรองทอง - พี่น้องไม่ต้องแบกผม

สนธิ - พี่น้องไม่ต้องแบกผมแล้ว ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ทางใครทางมัน มึงไปทางมึงได้แล้ว

จินดารัตน์ - จะไปตายที่ไหนก็ไป

สนธิ - จะไปตายที่ไหนก็ไป

กรองทอง - ถีบหัวเรือส่ง

สนธิ - ตอนนั้นนะ โห กระจองอแงเลย คือพูดง่ายๆ เหมือนกับควายโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงมา ตาเหลือก มอง-คิดอะไรไม่ออก มันเกิดอะไรขึ้นวะ ที่มึงพูดแปลว่าอะไร กูขอเรียบเรียงเป็นคำต่อคำอีกทีได้มั้ย ฟังแล้วฟังอีกๆ ตอนหลังทักษิณถึงรู้ว่าตัวเองเริ่มเสียทางการเมือง ก็เลยต้องมาแตะเอาไว้ เพราะฉะนั้นพวกเสื้อแดง พวกแกนนำเสื้อแดง ก็จะมีแบ่งเป็นหลายพวก อย่างเช่นหมอเหวง ธิดา ถาวรเศรษฐ หรือเต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พวกนี้คือพวกเลอะเทอะ พวกนี้คือพวกที่มีผลประโยชน์มาก็พร้อมจะพลิกไปตามผลประโยชน์นั้น เพราะฉะนั้นพวกนี้เป็นพวกซึ่งทักษิณให้ประโยชน์ พวกนี้ก็จะออกมาพูดจาปกป้องทักษิณ เพราะฉะนั้นแล้วณัฐวุฒิก็จะออกมา ระยะหลังเริ่มพูดเหมือนอำมาตย์พูดแล้ว เหมือนเป๊ะเลย ทำตัวเหมือนอำมาตย์เลย แดงอีกพวกหนึ่ง พวกแกนนำ คือพวกจตุพร คือพวกซึ่งเป็นคางคก แล้วเป็นพวกซึ่งไม่มีวันที่จะรู้ว่าเขารังเกียจ เขาแค่ใช้ คือ จตุพรนี่เหมือนคนใช้เขา เขาจ่ายเงินเดือนให้ทุกเดือน พอจังหวะดีหน่อย มีงานพิเศษให้ทำ ที่บ้านมีงานบุญ ต้องทำงานหนัก เช้าถึงกลางคืน เจ้าของบ้านก็ เอ้า เอาไป พิเศษให้อีกพันหนึ่ง วันนี้ เหมือนกับว่า เอ้าชุมนุมที่โน่นหน่อย พาใครมาขึ้นเวที อ่ะ เอาเงินก้อนนี้ไป เข้ากระเป๋าซะ พวกนี้ลืมตัว นึกว่าทักษิณจริงใจ

จินดารัตน์ - ให้ความสำคัญ

สนธิ - จริงๆ เขามองเห็นจตุพรเป็นคนใช้จริงๆ ไม่ได้พูดเล่นเลยนะ เขามองจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นคนใช้

จินดารัตน์ - เขาบอกว่ามันต่ำเตี้ยกว่าสุนัขรับใช้อีกนะคะ

สนธิ - คือมันก็เป็นในทำนองนั้น แต่ผมพยายามจะอธิบายว่า เหมือนกับจตุพรคือคนรับใช้ในบ้าน แล้วจตุพรทำงานให้เขาทุกอย่าง แล้วก็ลืมตัว พยายามจะตีเสมอ

จินดารัตน์- แล้วคาดหวัง อยากเป็นอำมาตย์บ้าง

สนธิ - คาดหวัง อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ แล้วเขาไม่ให้ เขาถือว่ากูให้เงินเดือนประจำมึง กูให้โบนัสมึงก็พอแล้ว เสือกอะไรด้วย หน้าที่มึงทำแค่นี้

จินดารัตน์ - ก็เลยกลายเป็นคางคกอกหัก 4 สมัย

สนธิ - จะกี่สมัยผมไม่รู้ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้

กรองทอง - เขายังหวัง "ปู 6" อยู่เลย

จินดารัตน์- ยังหวังอีกเหรอ

กรองทอง - ปู 6 ก็ได้นะ รอปู 6

จินดารัตน์- ทำไมเขาถึงเรียกตัวเองว่าคางคก รู้หรือยังน่ะ ยังไม่รู้อีกเหรอ

กรองทอง - วอยังไม่มีให้ขึ้นเลยนะตอนนี้ เขาว่าคางคกขึ้นวอ นี่ยังไม่มีวอให้ขึ้นด้วย

จินดารัตน์- แล้วสถานการณ์ที่มันบีบรัดเข้ามาว่าแดงมันแตกแยก เพราะคนมันอกหักเยอะ ทักษิณหลอกใช้พวกเขา มันไปถึงไหนแล้วคะคุณสนธิ

สนธิ - ส่วนใหญ่จะเป็นพวกซ้ายจัด อย่างเช่น นิธิ เอียวศรีวงศ์

จินดารัตน์ - พวกนักวิชาการ

สนธิ - สมศักดิ์ ...คนพวกนี้เริ่มรู้ แต่จริงๆ แล้ว คนที่รู้มานานแล้ว จริงๆ นั้นคือสมศักดิ์ สมศักดิ์นี่รู้มานานแล้ว

จินดารัตน์ - เพราะหลังๆ แรงขึ้น

สนธิ - แรงขึ้น แต่ว่าคนพวกนี้จะไม่มีผลกับมวลชนเสื้อแดง เพราะมวลชนเสื้อแดงเข้าใจว่าน่าจะฟังมาทางตู่ จตุพร หรือณัฐวุฒิ มากกว่า หรือก่อแก้ว พิกุลทอง แต่ไม่ใช่สมศักดิ์ ไม่ใช่แม้กระทั่งเหวง ไม่ใช่แม้กระทั่งธิดา ไม่ใช่นิธิ เอียวศรีวงศ์ คนพวกนี้ต้องการเป็นนักวิชาการที่เป็นเจ้าทฤษฎี แต่วันนี้ทฤษฎีของเขาโดนทักษิณถุยน้ำลายใส่หมดแล้ว จุดไฟเผาทฤษฎีเขา แล้วก็เยี่ยวรดเสียอีก เพราะว่าคลิปนี้ทำให้เขาช็อก เขานึกไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าทักษิณอยากเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหมือนกับว่า อ้าปากหวอ เฮ้ย มึงพูดงี้จริงหรือวะ ทำใจไม่ได้

จินดารัตน์ - นี่เด้งที่สองแล้วนะคะหลังจากครั้งนั้นช็อกมาหนหนึ่งแล้ว

สนธิ - ช็อกครั้งที่ 2 อีก ช็อกหนักเข้าไปอีก คือต่างฝ่ายต่างใช้ซึ่งกันและกัน ระหว่างทักษิณกับคนพวกนี้ พวกซ้ายจัดซ้ายอกหักก็พยายามใช้ทักษิณเพื่อโค่นล้มเจ้า โค่นล้มสถาบันต่างๆแล้วให้ทักษิณเป็นใหญ่ แล้วตัวเองก็จะหาโอกาสโค่นทักษิณอีกที หรือก็ร่วมร่ำรวยกับทักษิณไปเลย จบ

จินดารัตน์ - มันยังไม่พอนะคุณสนธิ ในสังคมเรามันมีแย่ไปกว่านั้นอีก มันมีอีกกลุ่มหนึ่งที่รออาศัยจังหวะรอเสียบตลอด

กรองทอง - คือพวกที่แบบรู้แล้วว่ามันต้องแตกแยกกัน เราดูว่ามันเห็นชัดเจน จากคนในรัฐบาลบอกว่าเปิดประชุมสภา เรื่องนิรโทษกรรมที่มันค้างอยู่ เดี๋ยวต้องขอมติพรรคก่อนนะ แต่ว่าแนวโน้ม พูดง่ายๆต้องเงินมาก่อนเสื้อแดง คอืตอ้งพิจารณาเรื่องกฎหมายการเงินทั้งหลายก่อน งบ 57 ก่อน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทต้องเอาให้ผ่านก่อน แล้วเรื่องของกฎหมาย มันยังมีเปิดสภาที ตั้ง 4 เดือน ยังไงก็ทัน เลยสะท้อนว่าเสื้อแดงก็ เฮ้ย นิรโทษกรรมเราก่อนสิ มีความเคลื่อนไหวของญาติ คือแม่น้องเกด ที่มาเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของประชาชนขึ้นมา อยู่อีกกลุ่มที่ไม่รีรอเข้ามาตะครุบเข้ามาทันทีเลยว่านี่คือแสงสว่างของประเทศชาติ

จินดารัตน์ - พอมีคนจับได้ไล่ทันคุณคำรูณ สิทธิสมาน เขียนบนเฟสบุ๊ก ว่าตั้งข้อสังเกตว่า ที่คุณไปสนับสนุนว่าเป็นทางออกแสงสว่าง คุณดูเนื้อหาหรือยัง มันมีบางข้อบางประเด็นที่มันไปเกี่ยวเนื่องกับ

สนธิ - คือทั้งหมดนี้ การซึ่งแม่น้องเกดเขายื่นมา แล้วเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา จริงๆมันมีผลพวงจากการที่คลิปมันออก มันก็เลยทำให้พวกเสื้อแดงส่วนหนึ่งไม่พอใจ เขาเลยเริ่มรุกทางการเมือง เพื่อให้รัฐบาล คือพรรคเพื่อไทย ตลอดจนทักษิณรู้ ว่าไหนๆแกจะจับมืออำมาตย์แกพิสูจน์ให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าแกยังจริงใจกับพวกเราอยู่หรือเปล่า เพราะคลิปบอกเลยว่าแกอย่าไปจับมือกับพวกอำมาตย์ เพราะฉะนั้นแล้วฉันจะเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันนี้กลับไป ซึ่งไม่ได้คลุมทักษิณ ไม่มีทักษิณเลย ไม่ได้มี พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเขียนโดยคณะนิติราษฎร์

กรองทอง - คือมันคือหลักการของนิติราษฎร์ เป๊ะเลย

สนธิ - หลักการเป๊ะ ซึ่งมีอยู่ 3 ข้อ ที่สำคัญที่สุดคือ มาตราม 3 อันแรกนี่จะต้องนิรโทษคนที่โดนมาตรา 112 ดา ตอร์ปิโด สมยศที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต้องถูกปล่อยตัวออกหมด ถูกไม่ถูก อันที่ 2 เรื่องเผาคนที่เผาจวน เผาศาลากลาง คนที่โดนจับโดยที่มีอาวุธอยู่ในมือ และทำอาชญากรรมนี่ต้องปล่อยหมด อันที่ 3 อันที่พันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุมที่สนามบินที่โดนดำเนินคดีต้องไม่ปล่อย

กรองทอง - ต้องผิด เพราะว่าเขาอ้างว่า มันเป็นกฎหมายสากล

สนธิ - เป็นกฎหมายสากล 3 ข้อตรงนี้ ทีนี้ 3 ข้อตรงนี้พอยื่นไปปั๊บ จริงๆ แล้วทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะ สันดานเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีแต่ผิด ข้อที่ 1 ชอบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คือคำว่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เป็นสโลแกนที่เขาด่าพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสิบปีแล้วนะ ไม่ใช่เพิ่งด่านะ ตั้งแต่นุกยังเด็กเลย สมัยคุณธรรมนูญ เทียนเงิน นี่แหละคือที่มาของเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น นี่คือสันดานของพรรคประชาธิปัตย์

กรองทอง - เสมอต้นเสมอปลายขนาดนั้นเลยหรอคะ

สนธิ - เสมอต้นเสมอปลาย คือพรรคประชาธิปัตย์นี่นะ ดีเอ็นเอแห่งความกระล่อน เหยียบคนอื่น

จินดารัตน์ - เห็นแก่ได้

สนธิ - เห็นแก่ได้ ดีเอ็นเอมันไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นนะ มันผ่องมาจากรุ่นต่อรุ่นเลยนะ

จินดารัตน์ - มันถึงเป็นแมลงสาบไงคะ

สนธิ - เออแปลก อันนี้ผมพูดเรื่องจริงแปลก แปลกจริงๆ เอาละยังคิดโง่ๆ เหมือนเดิมพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนสมัยชวนเป็นรัฐบาล คิดโง่ๆ ว่า ถ้าดำเนินนโยบายประนีประนอมกับเสื้อแดง เสื้อแดงจะรัก

กรองทอง - เหมือนตอนเป็นรัฐบาลเลย

สนธิ - ใช่ เหมือนกันเป๊ะเลย คิดอย่างนั้น เอาตัวจาติกวณิช กอบศักดิ์ สภาวสุไปนั่ง

กรองทอง - เจรจา

สนธิ - เอาอภิสิทธิ์มานั่ง เอาเหวงมานั่งตรงข้ามออกโทรทัศน์ เพื่อให้ภาพเขาเห็นว่า เออผมเป็นนักประชาธิปไตย ผมรักพวกคุณเพราะฉะนั้น อะไรที่ผมช่วยได้ผมยินดีจะช่วยบริการให้ ไปช่วยประกันตัวเสื้อแดง ส่งเสื้อแดงไปจำคุกริมทะเล ไปพักรีสอร์ทอย่างดีเรียบร้อย ฝีมือประชาธิปัตย์หมดเลย เพราะหวังว่าเสื้อแดงจะรัก เพราะประชาธิปัตย์มาแนวของสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นแนวของอนุพงษ์ เผ่าจินดา คือแดงกับเหลืองเป็นอันตรายต่อชาติบ้าน เมืองมันวุ่นวายปั่นป่วนทั้งคู่ประชาธิปัตย์จึงอยากเขามาตรงกลาง เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเหลืองกับผมโอเคนะ แดงควรโอเคกับผมด้วย แต่เราไม่มีไรกับแดง เราเพียงบอก เฮ้ย เอ็งหยุดจาบจ้วงสถาบัน เอ็งหยุดเผาบ้านเผาเมือง หยุดสนับสนุนเอาทักษิณกลับมาให้พ้นผิด เราสู้อยู่ประเด็นชัดเจน เราสู้เพื่อเขาพระวิหาร ไม่ให้ดินแดนไทยตกไปเป็นของเขาเท่านั้นเอง ไม่ได้สู้เพื่อตัวเองสักนิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วในขณะที่แดงสู้ทุกอย่างเพื่อเอาทักษิณกลับมา พี่น้องทักษิณ รัฐบาลทักษิณ อยากทำธุรกรรมเกี่ยวกับเขาพระวิหารแล้ว ยกผลประโยชน์ทางทะเลให้เขมร เสื้อแดงไม่ยอมเสื้อแดงไม่คุย แต่ว่าความขัดแย้งกลายเป็นพันธมิตรกับเสื้อแดง พันธมิตรกับทักษิณ ทำให้ประชาธิปัตย์ตอนนั้นพอเขาเปลี่ยนขั้ว ก็ต้องการโชว์ความเป็นพระเอก คล้ายๆว่าพวกมึงทะเลาะกันเหลือเกินนะ ฟังกู เลิกทะเลาะกันได้แล้ว กูคนกลางเลือกกูดีที่สุด ในที่สุดก็โดนเสื้อแดงมันเยี่ยวรดหมดเลย

กรองทอง - ถึงได้หัวบรรไดดีเอสไอไม่แห้ง เดินขึ้น เดินลงๆ

สนธิ - ที่นี้บทเรียนตรงนี้ยังเสือกไม่จำว่าเขาไม่รักมึงหรอก เขาเกลียดมึงอย่างกับขี้ ถ้าเขาไม่เกลียดมึงเขาจะเล่นงานมึงได้ยังไง ใช้ธาริต เพ็งดิษฐ์มาเล่นงาน สงสัยคงไปเชื่อข่าวลือว่าแดงแตกกันหมด เลยอยากมาโชว์ออฟเสียบเข้ามาเลย หารู้ไม่ว่าแดงแตกแล้วมันก็คือแดงซ้าจัดซึ่งไม่มีอิธิพลต่อมวลชนเลย มวลชนยังคงต้องรับเงินทักษิณอยู่ เข้าใจยัง พอมีกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาไม่ดูอีร้าค่าอีรมต้องการจะรีบทำคะแนนตามสันดานพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนเป็นกฎหมายนิรโทษฯฉบับประชาชน

กรองทอง - พูดเต็มปากเต็มคำเลยว่าฉบับประชาชน

กรองทอง - อะไรนะ เป็นทางออกของประเทศเหรอ

สนธิ - เป็นแสงสว่าง คือคงไม่ได้ดูรายละเอียด คือลืมไปว่า มันลอกเลียนของนิติราษฎร์มา แล้วมันมีมาตรา 3 ตรงนี้

กรองทอง - เขามีคำพูดอย่างนี้ค่ะ เขาบอกว่า คือประชาธิปัตย์เห็นด้วยในหลักการ แต่ไม่ได้มองในถ้อยคำในร่าง

สนธิ - ไม่ใช่ นี่ตอนหลัง ก่อนหน้านั้นเข้าใส่ รูดซิป วิ่งเข้าใส่ ถลก ดึงกระเจี๊ยวออกมา วิ่งชนทันทีเลย นี่คือประชาธิปัตย์ ไม่ดูอีร้าค่าอีรม ปรากฏว่า คำนูณ สิทธิสมาน เห็นเหตุการณ์ แล้วเขาบอกว่า เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน คุณสนับสนุนคุณดูเนื้อหาหรือยัง มันมีมาตรา 3 มันมี 3 ข้อ แสดงว่าตรงนี้ประชาธิปัตย์เห็นด้วยใช่ไหม กับที่จะยกเลิก 112 นิรโทษกรรมให้คนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เห็นด้วยใช่ไหมกับไอ้คนที่เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางที่ถูกจับได้แล้ว ถูกศาลพิพากษาจะไปยกฟ้องเขา แล้วก็เห็นด้วยใชไหมที่จะไม่ให้พันธมิตรฯ เรื่องคดีสนามบิน ปรากฏว่าพอประชาธิปัตย์ฟังตกใจ สงสัยทันทีเลย

กรองทอง - เขาพลาดจริงๆหรือไร้เดียงสา

สนธิ - เขาพลาดไม่ได้อ่านทันที ก็เลยรีบกลับมาตามสันดานเดิมของประชาธิปัตย์ คือบอกว่า ถ้าจะถอยก็เสียหน้า ถ้าจะบอกว่าขอโทษไม่ได้ดูเนื้อหาก็จะเสียหน้า ก็เลยต้องตีกิน แปลว่า โดยหลักการผมเห็นด้วย แต่เรื่องเนื้อหาต้องคุยกันอีกที

กรองทอง - มันเป็นวรรคทองเลยนะ บอกว่าประชาธิปัตย์เห็นด้วยในหลักการ แต่เราไม่ได้บอกที่ถ้อยคำในร่างนะ ทีนี้ในถ้อยคำเดี๋ยวไปแก้ในสภา

สนธิ - ก็นี่ไงเล่า มึงแก้ในสภาฯกี่ครั้งล่ะ มึงยกมือกี่ครั้งก็แพ้เขาไม่ใช่เหรอ

กรองทอง - ยกมือบวกเท้าด้วย ยังไงก็แพ้

สนธิ - ยกตีนไปก็แพ้เขา คือสรุปง่ายๆว่าตัวเองหน้าแตก แต่ต้องการจะรักษาหน้า ตัวเองยังไม่พูดเลย บอกขอโทษที คือประชาธิปัตย์มันขอโทษใครไม่เป็น

จินดารัตน์ - ไม่เคย

กรองทอง - คือจริงๆ ถ้าเขาออกมา ...

สนธิ - มันขอโทษใครไม่เป็น

กรองทอง - ถ้าเขาออกมาในรูปว่า ขอโทษเราไม่ได้อ่านจริงๆ แล้วเอาใหม่ จะดีกว่ามั้ยคะ

สนธิ - หรือไม่ อีกทีมันต้องออกมาอย่างนี้ มันต้องออกมาว่า ผมเห็นด้วยในหลักการ แต่ 3 ข้อนั้นต้องยกเลิกไป

กรองทอง - ชัดเจน มันต้องชัดเจนแบบนี้

จินดารัตน์ - ขนาดแก้ตัวยังไม่ฉลาดเลย

สนธิ - แก้ตัวยังไม่ฉลาดเลย ยังโง่ คือพรรคประชาธิปัตย์ กับสาวกมันนี่นะ มันโง่บัดซบพอๆ กันเลย

จินดารัตน์ - แล้วมันแถเก่งมากเลยนะ

สนธิ - มันแถหมด ทีนี้ผมก็เลยอยากจะพูดฝากถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพี่น้องเรา ให้เข้าใจอย่างหนึ่ง ไม่ต้องไปแคร์มัน มึงจะนิรโทษฯ กูหรือไม่นิรโทษฯ ผมไม่แคร์ ผมเป็นจำเลยอยู่ กูไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณมึง กูพร้อมจะขึ้นศาลตลอดไป มึงมีปัญญา มึงหน้าด้านพอที่จะเอาไอ้คนซึ่งเผาศาลากลาง แล้วตำรวจเขาจับได้ ดำเนินคดี แล้วศาลพิพากษาว่าผิดจริงแล้วปล่อย เรื่องของมึง แล้วมึงจะแกล้งกู ก็เรื่องของมึง แม้กระทั่งประชาธิปัตย์ พูดออกมายังพูดได้ไม่เต็มปาก บอก ในเรื่องของการนิรโทษฯ เราเห็นด้วยนิรโทษฯ ทุกฝ่าย แทนที่จะบอกว่า เราเห็นด้วย เราไม่เห็นด้วยที่จะไม่นิรโทษฯ พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมสนามบิน ไม่กล้าพูด ยังใช้คำว่า นิรโทษฯ ทุกฝ่าย มันเลวได้ใจ ผมก็เลยอยากถามพี่น้องพันธมิตรฯ ว่าพี่น้องทั้งหมด ถ้ายังรักประชาธิปัตย์อยู่ มีโอกาสไปคืนดีกับมัน เชิญ แต่ผมคนหนึ่ง ผมไม่เอามันจนตาย ไอ้พรรคส้นตีนนี่นะ ตราบใดถ้ายังอยู่ในสังคมไทยนะ ผมจะบอกให้ ไอ้พรรคนี้คือตัวการทำลายการเมือง ไม่ได้ต่างกว่าพรรคเพื่อไทย เพราะสันดานดิบมันโผล่ออกมาเลย สันดานดิบมันโผล่ออกมา หรือไม่จะเอาเทปมาดูกันก็ได้ ชวนนท์พูดยังไง ก่อนหน้านั้นพูดยังไง ก่อนหน้านี้พูดยังไง โกหก ผมไม่เอาด้วย นี่คือสันดานเดิมเลย ผมก็เลยจะบอกว่า ใครก็ตามที่เห็นด้วยกับผม ใครก็ตามคิดว่าสิ่งที่ผมพูดถูกต้อง อย่าไปสังฆกรรมกับมันเลย ไม่ต้องไปสนใจมันจะนิรโทษฯ เราหรือไม่นิรโทษฯ เรา ช่างมึง

จินดารัตน์ - อีกเรื่่องที่คนตั้งข้อสังเกตและเห็นชัดมาก เหมือนเดิมเลยนะคะ คือพวกนี้เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง กรณีคลิปเสียงทหาร ที่เขาฮือฮากันอยู่ บอกว่าประชาธิปัตย์ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ทหาร

สนธิ - อ่อ เขาไม่เคยวิพากษ์ เขาจะวิพากษ์ได้อย่างไร เพราะเขากะจะคอยเสียบ

จินดารัตน์ - เอาทหารเป็นพวก

สนธิ - เอาทหารเป็นพวก ของเราไม่มี ของเราถูกคือ ถูก ผิดคือผิด เขามามองว่า เขาได้ใช้สูตรเดิม สูตรไปหลับนอนกันในค่ายทหาร และไปทุบตีกันบอกว่า เฮ้ยถ้าไม่มาเปลี่ยนขั้ว มาอยู่ฝั่งนี้แล้ว เดี๋ยวจะปฏิวัตินะ เดี๋ยวจะเดือดร้อนนะ เข้าใจไหม นี่คือนิสัยพรรคประชาธิปัตย์ และผมจะบอกให้รู้นะ ผมจะบอกให้พ่อแม่พี่น้องให้เชื่อผม ประเทศไทยไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์บริหาร หรือพรรคเพื่อไทยบริหารเหี้ยเหมือนกัน เพียงแต่ไอ้พรรคนึงมันเหี้ยแบบโฉ่งฉ่าง อีกพรรคนึงแบบ เหี้ยแบบเนียบเนียน แต่ว่าเหี้ยเช่นกัน

จินดารัตน์ - ไม่มีใครเลวมากไปกว่ากัน

สนธิ - ไม่มีใครเลวมากกว่าใครเชื่อผม มันขี้โกงกันทั้งคู่

กรองทอง - นี่แค่เบรกแรกนะ

จินดารัตน์ - พักก่อนไหม

กรองทอง - หายใจหายคอกันก่อนละกัน เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง ช่วงหน้า

จินดารัตน์ - ช่วงหน้ากลับมาจะไปพูดถึงที่พรรคประชาธิปัตย์ เขาไม่กล้าแตะต้อง แต่เรานี่แตะมาแล้ว และความคืบหน้าล่าสุดไปหงุดหงิดวีนใส่หน้าข้าว ตาถลนใส่นักข่าว

กรองทอง - ตาโปนใส่นักข่าวอีกแล้ว

จินดารัตน์ - เรื่องอะไรอย่างไรพักกันก่อนค่ะ

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น