รมช.พณ. เผย นายกฯกำชับฟื้นฟูความเชื่อมั่นข้าวไทย ดูตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงโรงสี รับข้าวถุงปัญหาหลัก ย้ำต้องมีมาตราฐาน พณ.ตั้งศูนย์จัดการค้าข้าวเสื่อม รับยังไม่เห็นข้อเสนอเพิ่มเติมของ ป.ป.ช.แนะทบทวนแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรที่เน่า ย้ำ รบ.กำจัดจุดอ่อนตลอด ยันฟังทุกฝ่ายศึกษาสรุปราคาข้าวต่อตัน แต่พร้อมลดต้นทุน ส.ค.ชงรบ.ตัดสินใจ
วันนี้ ( 19 ก.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยบูรณาการกันเพื่อที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่น และทำให้ข้าวไทยมีคุณภาพมาตรฐานดีขึ้น โดยให้ดูตั้งแต่กระบวนการผลิตขั้นตอนแรกไปจนถึงกระบวนที่โรงสี ส่วนที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ ข้าวถุงเป็นหลัก ซึ่งนายกฯได้ให้ผู้ผลิตข้าวถุงทำตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชื้น และเรื่องของสารเคมีต่างๆ ที่ตกค้าง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้าข้าวเสื่อมคุณภาพขึ้น มีหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวถุงเป็นกรรมการ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมการค้าข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กระทวงพาณิชย์ และยังมีสถาบันวิจัยต่างๆเข้ามาช่วยอีกด้วย ศูนย์ดังกล่าวจะทำทั้งในเชิงป้องกันและปราบปรามเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพข้าวไทย
นายยรรยง กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เสนอแนะมาตรการป้องกันให้รัฐบาลทบทวนการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรที่เน่าเสียนั้น ตนเข้าใจว่าทางป.ป.ช.เสนอมานานแล้ว ถึงอย่างไรก็ตามรัฐบาลก็พยายามกำจัดจุดอ่อนตลอด เพราะมีคณะทำงานตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในขณะนี้ที่มีกระแสเพิ่มขึ้นก็เป็นโอกาสของฝ่ายปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ไปมุ่งให้เกิดความรัดกุม อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นข้อเสนอเพิ่มเติมของป.ป.ช.
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การทำนโยบายเรื่องข้าวต้องรับฟังทุกฝ่าย โดยเฉพาะชาวนา ซึ่งเขาก็มีข้อเสนอที่ดีขึ้นคือ มีความยืดหยุ่นจากเดิมที่จะเอาแต่ตันละ 15,000 บาท ซึ่งขณะนี้เรากำลังทำการศึกษาอยู่ว่าราคาที่เหมาะสมอยู่ที่เท่าไร แต่ถึงอย่างไรรัฐบาลก็ต้องหาวิธีช่วยลดต้นทุน แต่มาตรการช่วยลดต้นทุนของชาวนาจะออกได้เมื่อไรนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดู เพราะมีปัจจัยเยอะ เช่น ในแต่ละช่วงเวลา อาทิ ข้าวนาปีต่อไปเราจะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนส.ค. โดยเราจะต้องมีข้อเสนอให้รัฐบาลตัดสินใจได้ภายในเดือนส.ค.นี้
