“ปลอด” ปัด “ปู” สั่งเคลียร์ “เติ้ง” ย้ำร่วมมือ ก.เกษตรฯ ดี รับอุทธรณ์จัดการน้ำ เชื่อศาลฟัง

“รองปลอดปากดี” แจงคุยเรื่องงาน “บรรหาร” ถกตั้ง รมว.เกษตรฯ เป็น คกก.กบอ. ปัด นายกฯ สั่งเคลียร์ใจ ย้ำไม่โกรธกัน โวประวัติเยี่ยม จัดการน้ำไร้ปัญหา ยัน กบอ.-ก.เกษตรฯ ร่วมงานกันดี เชื่อรับฟัง ปชช.โครงการจัดการน้ำทั่วถึง 3 เดือนเสร็จ รับอุทธรณ์ทางเทคนิคแล้ว มั่นใจศาลรับฟัง

วันนี้ (19 ก.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกให้เข้าพบเพื่อเคลียร์ใจกันกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ว่าไม่ได้เคลียร์ แต่คุยเรื่องงาน นายบรรหารมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับพื้นที่ภาคกลางว่าควรทำอย่างไร และพูดถึงประตูน้ำหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคลองขุดที่เชื่อมระหว่างเจ้าพระยากับท่าจีน เรื่องระบบสูบน้ำ และพูดเรื่องที่จะตั้งนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาเป็นคณะกรรมการ กบอ.อีกคน เนื่องจากช่วงนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานเยอะจึงต้องเอารัฐมนตรีมา

“ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่ได้เคลียร์อะไรเลย คนรู้จักกันคุยกัน ส่วนข่าวออกมาก็เป็นเพียงข่าว นายบรรหารเป็นผู้บังคับบัญชาผม เมตตาช่วยเหลือมาโดยตลอด ตั้งผมมาตั้งหลายกรม ท่านนายกฯ บรรหารไม่โกรธปลอดประสพหรอกและไม่ติดใจอะไร” นายปลอดประสพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการชี้แจงหรือไม่ว่าแม้จะทำงานด้านประมงแต่มีความสามารถบริหารจัดการน้ำไม่แพ้กัน นายปลอดประสพกล่าวว่า ต้องไปอ่านประวัติตน ท่านไม่ได้ติดใจอะไร ตนต้องทำได้ ทำไม่ได้ได้อย่างไร เมื่อถามว่ากระทรวงเกษตรฯ และกบอ.ทำงานร่วมกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน นายปลอดประสพกล่าวว่า ดี ทำไมจะไม่ดี กรมชลประทานส่งคนมาหลายสิบคน

ประธาน กบอ.ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการรับฟังคิดเห็นของประชาชนในการทำโครงการบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทว่า จะเริ่มกลางเดือน ส.ค.นี้ โดยจะมีคณะอนุกรรมการของกบอ.กำกับ รองปลัดทั้งหมดเป็นประธาน ผู้ปฏิบัติจะเป็นมหาวิทยาลัยโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มมหาวิทยาลัยด้านวิชาการ คือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนภาคปฏิบัติคือ มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับคน 2-3 แสนคน ซึ่ง 3 เดือนเสร็จ รับรองว่าทั่วถึง โดยจะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนการยื่นอุทธรณ์นั้นตนได้ส่งเอกสารทางเทคนิคไปแล้ว มั่นใจว่าศาลจะรับฟัง