“สุริยะใส” บ่นเสียดาย “วสันต์” ลาออก ระบุเป็นตุลาการที่ดีคำวินิจฉัยส่วนตนมีมาตรฐาน จี้ “ชัช ชลวร” พิจารณาตัวเอง เหตุเคยอ้างว่าจะลาออกเมื่อเป็นประธานครบ 2 ปี ห่วงขบวนการคุกคามองค์กรอิสระได้ใจ ถามรัฐบาลถือหางหรือไม่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า การประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ คงทำให้หลายคนสงสัยไม่น้อยว่าเหตุผลลึกๆ ที่แท้ใจริงคืออะไรกันแน่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นองค์กรสำคัญและมีส่วนชี้ขาดในสถานการณ์วิกฤต และในขณะนี้ก็มีคำร้องสำคัญที่ทุกฝ่ายรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เช่น คำร้องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และกรณีสถานภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
รวมทั้งคำร้องที่อาจมีการยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่น ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณากันในสภาเดือนหน้านี้
นายสุริยะใสกล่าวว่า เหตุผลในการออกของนายวสันต์ ที่บอกว่าได้ปรับวางโครงสร้างสำนักงานเรียบร้อยแล้ว และให้สัญญากับตุลาการว่าจะทำหน้าที่แค่ 2 ปีแล้วลาออกนั้น คงต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน แต่ก็น่าเสียดายเพราะเป็นคนดี มีความรู้ ตรงไปตรงมา และคำวินิจฉัยส่วนตนของนายวสันต์หลายกรณีมีมาตรฐานและบรรทัดฐานชัดเจนคนหนึ่ง
“เพราะปัญหาที่ศาลรัฐธรรมนูญเผชิญอยู่ในขณะนี้เป็นปัญหานอกองค์กรทั้งนั้น โดยเฉพาะขบวนการกดดันและทำลายความน่าเชื่อถือจากเครือข่ายระบอบทักษิณ มีการข่มขู่คุกคามทั้งใต้ดินบนดิน และไม่ได้รับการห้ามปรามจากรัฐบาลเหมือนรู้เห็นเป็นใจไปด้วย และที่น่าเป็นห่วงก็คือการลาออกของนายวสันต์ครั้งนี้อาจส่งผลให้ขบวนการกดดันคุกคามองค์กรอิสระได้ใจและขยายผลมากขึ้น”
นายสุริยะใสกล่าวว่า ในกรณีเดียวกันนี้นายชัช ชลวร ตุลาการอีกคนก็ควรพิจารณาตัวเองเพราะมีข่าวว่าเคยให้สัญญาว่าเป็นประธานครบ 2 ปีจะลาออก แต่อยู่เลยมาจน 3 ปี และมีเหตุคลิปหลุดของเลขานุการส่วนตัวนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ จัดฉากวิ่งเต้นในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ นายชัช จึงลาออกจากประธาน แต่ไม่ยอมลาออกจากตุลาการด้วย