xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” กังขารัฐยอม “บีอาร์เอ็น” หยิบ “สะเดา” พื้นที่ไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (ภาพจากแฟ้ม)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แสดงความแปลกใจ หลังรัฐยอมให้บีอาร์เอ็นเพิ่ม อ.สะเดาเป็นพื้นที่ไฟใต้ ทั้งที่จากเดิมสงขลามีเพียง 4 อำเภอ ร้องรัฐบาลแจง



วันนี้ (15 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแถลงการณ์ลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอนที่ไม่ปรากฏการลงนามของกลุ่มบีอาร์เอ็นร่วมกับฝ่ายไทยและมาเลเซียว่า เดิมกลุ่มบีอาร์เอ็นจะแถลงแต่มีการเลื่อนออกไป เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารออกมาฝ่ายกลุ่มบีอาร์เอ็นก็ไม่ได้ลงนามรับรอง แต่ก็คงต้องพิสูจน์ว่าเหตุการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ไปว่าจะลดความรุนแรงได้จริงหรือไม่ ถ้าลดความรุนแรงไม่ได้แล้วเขาบอกว่าเขาไม่ได้ร่วมลงนามด้วยก็จะเป็นเรื่องตามมา เพราะกลายเป็นว่ากระบวนการพูดคุยขาดการประสาน ความเข้าใจระหว่างกันและกัน ดังนั้นเบื้องต้นจึงต้องดูพื้นที่ก่อนว่าเหตุการณ์ดีขึ้นจริงหรือไม่

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องชี้แจงคือเหตุใดจึงมีการรวมเอา อ.สะเดา จ.สงขลา เข้าไปเพิ่มเป็นอำเภอที่ 5 ของ จ.สงขลา จากเดิมมี 4 อำเภอ คือ อ.จะนะ อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย และ อ.เทพา ซึ่งเดิม อ.สะเดา ไม่ใช่พื้นที่ที่มีปัญหา เมื่อมีการรวมเข้าไป ต่อไปนี้กลุ่มที่มาเจรจาก็อาจจะรวมเอา อ.สะเดา เป็นพื้นที่ที่ต้องเจรจาด้วย แต่จริงๆ แล้วพื้นที่นี้ไม่มีปัญหาเราพูดถึง3 จังหวัด 4 อำเภอมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับมีการเพิ่มเป็นอำเภอที่ 5 ซึ่งตนก็กังวลว่าทำไมเรื่องแบบนี้รัฐบาลจึงมองไม่เห็นความอ่อนไหวและความละเอียดอ่อนที่จะเกิดขึ้น

“ผมอยากให้รัฐบาลชี้แจงถึงที่มาว่าทำไมจึงมีการระบุ อ.สะเดาเข้าไปด้วย เพราะหากดูจากสภาพที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับว่าการเจรจาต่อจากนี้พยายามจะมีการเอา อ.สะเดาบวกเข้าไปด้วย จึงต้องถามรัฐบาลว่าทำไมยอมรัฐบาลต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะถ้าบอกว่ามีความจำเป็นต้องใส่พื้นที่นี้เพิ่มเข้าไปก็ต้องบอกว่าเพราะอะไรจะได้พิจารณาเหตุผลกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าตามสภาพความเป็นจริงของพื้นที่จะมีปัญหาอยู่ที่ 4 อำเภอเท่านั้น แต่เวลากลุ่มแบ่งแยกดินแดนทำแผนที่จะพยายามรวมเอาสะเดาเข้าไปด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า ปัญหากำลังถูกยกระดับมากขึ้น และรัฐบาลถลำลึกมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราเตือนมาตั้งแต่ต้นว่าถ้าการพูดคุยไม่รัดกุม และไม่ควบคุมขอบเขตวิธีการปฏิบัติก็มีความเสี่ยงต่อการยกระดับ จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญ คำนึงถึงความละเอียดอ่อนของประเด็น ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ ตนก็เป็นห่วงว่ารัฐบาลจะถลำลึกลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่ทุกคนสนับสนุนให้การพูดคุยเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่ไม่ใข่ว่าพูดคุยอย่างไรก็ได้ต้องคำนึงถึงความละเอียดอ่อนของประเด็นมากกว่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น