“ภราดร” ชี้ศีลอดป่วนไม่เลิก เจอเชิงรุกเด็ดขาด แต่ไม่ล้มโต๊ะเจรจา ปัดลูกไล่บีอาร์เอ็น

เลขาฯ สมช.แจงหลังมาเลย์แถลงไทย-บีอาร์เอ็นลดป่วนรอมฎอน เชื่อสถานการณ์ดีขึ้น ชี้แถลงตรงใจไทยหวังลดรุนแรง ย้ำพูดคุยนำสู่ทางออก เผยใช้สถิติเป็นเกณฑ์วัด พร้อมมีมาตรการเชิงรับหากมีเหตุและมีเชิงรุกไว้ปฏิบัติ แจงดึง ปชช.ช่วยดูแลมีป่วนพร้อมประณาม ปัดเป็นลูกไล่ รับป่วนเพิ่มก็ไม่หยุดคุย แต่ต้องแจงเหตุ พร้อมใช้เชิงรุกเด็ดขาด มั่นใจเกินครึ่งป่วนลด ย้ำไม่ประมาท

วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการเจรจาสันติภาพระหว่าง สมช.กับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นแถลงลดเหตุรุนแรงใน 4 อำเภอ จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในช่วงเดือนรอมฎอนว่า มีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะดีกว่าที่ผ่านมามากๆ แน่นอน โดยมาเลเซียแถลงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนเหมือนกับที่ฝ่ายไทยประสงค์ให้ลดเหตุรุนแรง และแจ้งความตั้งใจชัดเจนว่าจะต้องลดเหตุความรุนแรงลงให้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดมีการเสนอว่าการพูดคุยกันจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้มีหลักเกณฑ์อะไรในการวัดระดับความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน พล.ท.ภราดรกล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ใช้วัดคือ สถิติของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และท้ายที่สุดหากสถิติไม่เป็นที่พอใจ แต่เรายังมีมาตรการในรักษาความปลอดภัยเชิงรับที่ยังเต็มที่อยู่แล้วตามเดิม และหากเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าขึ้นมามาตรการเชิงรุกของเราที่เตรียมไว้จะนำมาปฏิบัติการอย่างเข้มข้นต่อไป เมื่อถามว่า เงื่อนไขของบีอาร์เอ็นระบุว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามเงื่อนไขจะต้องมีการประณาม พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ในระยะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จะเฝ้ามองอยู่แล้วว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝ่ายไหนระหว่างรัฐไทยกับขบวนการบีอาร์เอ็น แน่นอนในส่วนของเราคงไม่เกิดแน่ เพราะตอนนี้ได้ดึงประชาชนมาช่วยกันดูแลและช่วยประณามหากมีเหตุการณ์รุนแรง

เมื่อถามว่า เหมือนเรากำลังเป็นลูกไล่บีอาร์เอ็น เพราะเหตุการณ์จะสงบหรือไม่เหมือนขึ้นกับอยู่กับฝ่ายขบวนการเป็นหลัก พล.ท.ภราดรกล่าวว่า คงไม่ เมื่อถามว่าช่วงเดือนรอมฎอนหากมีการก่อเหตุมากขึ้น จะยุติการเจรจากลางคันหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ในเมื่อเจตนารมณ์ดีอยู่แล้วคงไม่หยุดจะพูดคุย เมื่อถามว่าหากบีอาร์เอ็นยังมีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ แต่ลับหลังยังมีการปฏิบัติการ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ต้องมีการพิสูจน์ทราบพูดคุยกันว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเกิดขึ้น ชี้แจงมาเป็นการกระทำของกลุ่มไหน จะร่วมดำเนินการกับกลุ่มที่ก่อเหตุอย่างไร เมื่อถามว่าจากนี้หากเหตุการณ์ยังไม่เบาบางจะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เด็ดขาดแน่นอน ทำให้เห็นว่าไม่สามารถดำเนินการให้เราได้ตามที่พูด เราจะต้องหยิบยกปัญหาไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นต่อไปที่เป็นปัญหา ประเมินอย่างไรหลังจากบีอาร์เอ็นออกมาแถลงจะยุติความรุนแรง และก้าวต่อไปเราจะดำเนินการอย่างไร

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า นโยบายเราคือต้องไม่ประมาทเช่นเดิม เพราะเมื่อเลยจากเดือนรอมฎอน ในช่วงนี้เขาอาจจะหยุด แต่หลังจากนี้ไปแล้วเรายังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร แต่ระหว่างตรงนี้ก็คงต้องดูสถานการณ์กันต่อไป เมื่อครบเดือนรอมฎอนสองฝ่ายก็จะมีการหยิบยกเหตุการณ์ที่ผ่านมาขึ้นมา เมื่อถามว่ามั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ว่าจะลดความรุนแรง กล่าวว่า ตอนนี้เราให้เกณฑ์ความมั่นใจสูงเกินครึ่ง แต่จะต้องเฝ้าดูเหตุการณ์จริงต่อไป ซึ่งนายกฯ ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และได้ย้ำให้ว่าต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุฝ่ายดังกล่าวมักจะอ้างว่าเป็นกลุ่มเล็ก เราไม่คิดจะไปเจรจากับกลุ่มย่อย กล่าวว่า นี่ไง แต่ต้องหาให้โอกาสกลุ่มใหญ่เขาก่อน