เลขาฯ สมช.แจงคลิปฉาว “นช.แม้ว-ยุทธศักดิ์” จ้อถึง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมผ่าน สมช. ยันไร้แนวคิด ไม่สอบผู้เกี่ยวข้องอ้างแจงแล้ว ยันความมั่นคงยังปกติ ยึดแนวทางจุฬาราชมนตรีดูแลช่วงรอมฎอน พร้อมฟังข้อเสนอบีอาร์เอ็น และส่งการดำเนินการกลับ เผยตกลง 10 ก.ค.ป่วนลดลง พร้อมประสานไม่เกิน 48 ชม.หากมีป่วน รอพบอีกครั้งหลังศีลอด แจงกลุ่มเล็กที่ป่วน เพื่อนบ้านไม่ได้หนุน
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาคล้ายกับเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ระบุว่าอาจมีการเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมผ่าน สมช.ว่า ในข้อเท็จจริงยังไม่มีการรับรู้ในเรื่องประเด็นเหล่านี้ และยืนยันว่าไม่มีแนวคิด เพราะในเรื่องดังกล่าว สมช.ยังไม่มีความเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมช.ตรวจสอบได้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้ปล่อยคลิป พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการชี้แจงไปแล้ว คงไม่ต้องตรวจสอบ ส่วนที่ยังไม่กระจ่างคงเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมองว่าเรื่องดังกล่าวกระทบต่อความมั่นคง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า คงเป็นทัศนะของฝ่ายค้าน แต่ในชั้นต้นยังอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ตนฟังเนื้อหาแล้วถือเป็นเรื่องปกติ ไม่เป็นปัญหาประการใด
พล.ท.ภราดรยังได้เปิดเผยถึงแนวทางการวางมาตรการป้องกันเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอนว่า ต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยได้ยึดหลักแนวทางของจุฬาราชมนตรีที่ได้ส่งมาว่าพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ส่วนแนวทางการลดเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นส่งมานั้น มีทั้งข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ โดยเรารับฟังและนำมาพิจารณาหารือกัน ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายรัฐไทยเองได้ส่งการดำเนินการของเราผ่านผู้อำนวยความสะดวกฝ่ายมาเลเซียไปให้ฝ่ายขบวนการเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ตามข้อตกลงกันตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไป เหตุการณ์จะต้องลดลง แต่ก็ต้องดูข้อเท็จจริงกันต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของกลุ่มบีอาร์เอ็นรับข้อเสนอของไทยหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เบื้องต้นน่าจะรับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไปหากยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นการสืบสภาพข้อเท็จจริงจะค่อยปรากฏชัด เพราะมีการหารือร่วมกันว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะมีการแจ้งซึ่งกันและกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝ่ายไหนเป็นผู้กระทำ โดยหากมีเหตุเกิดขึ้นจะประสานกันผ่านมาเลเซียภายในไม่เกิน 48 ชั่วโมง ซึ่งหากทราบแล้วว่ากลุ่มใดลงมือจะต้องมีการถามว่าเหตุใดเขาจึงไม่สามารถควบคุมได้ และหากไม่สามารถควบคุมได้จะมีข้อแนะนำเรามาอย่างไรว่าจะดำเนินการกับพวกที่ก่อเหตุอย่างไร
เมื่อถามว่า กรอบในการพิจารณาว่าพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นต่อไปหรือไม่ จะมีการประเมินอย่างไร เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ประเมินตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไป จะดูว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แล้วเมื่อหมดเดือนรอมฎอนจะมีการตกลงวันเวลาที่จะพบกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่า มีรายงานว่ากลุ่มที่ยังก่อเหตุเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่เหตุใดยังก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เป็นกลุ่มเล็กแต่มีความเข้มข้น แต่เบื้องต้นไม่มีประเทศเพื่อนบ้านให้การสนับสนุน