โพลเผยประชาชน 73% เชื่อ “ปู” ประกาศต่อต้านการทุจริตไม่ช่วยแก้คอร์รัปชันได้ เช่นเดียวกับรัฐสภา องค์กรอิสระ ชนชั้นนำทางสังคม หรือแม้แต่การรัฐประหาร ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาโกงได้ ขณะที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการประกาศการใช้จ่ายงบประมาณให้คนทั้งประเทศรู้ว่าใช้จ่ายเงินกระจายไปให้ใคร เพื่อ ปชช.ตรวจสอบจะแก้ปัญหาการทุจริตได้ เอแบคโพลล์ ระบุความไว้วางใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันต่อคำพูดนักการเมือง กลุ่มคนในสังคมอยู่ในขั้นวิกฤตต้องเร่งแก้ไข
น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวทางการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน” สำรวจประชาชน 17 จังหวัดของประเทศ
ผลสำรวจแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.5 คิดว่าการประกาศต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ร้อยละ 26.5 คิดว่าช่วยแก้ไขได้
เช่นเดียวกับตัวอย่างเกือบ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 65.8 คิดว่ารัฐสภาไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ร้อยละ 34.2 คิดว่าช่วยแก้ไขได้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือร้อยละ 51.2 คิดว่าองค์กรอิสระไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ร้อยละ 48.8 คิดว่าช่วยแก้ไขได้ รวมทั้งกลุ่มตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 57.1 คิดว่าผู้ใหญ่ชนชั้นนำในสังคมไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ ร้อยละ 42.9 คิดว่าช่วยแก้ไขได้
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.5 คิดว่าการทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ร้อยละ 21.5 คิดว่าช่วยแก้ไขได้ รวมทั้งกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.3 คิดว่าการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้เช่นกัน มีเพียงร้อยละ 19.7 เท่านั้นที่คิดว่าช่วยแก้ไขได้
นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 59.0 คิดว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้ ในขณะที่ร้อยละ 41.0 คิดว่าช่วยแก้ไขได้
น.ส.ปุณฑรีก์ กล่าวว่า ที่น่าพิจารณาคือ มีเพียงประเด็นเดียวที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.8 คิดว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้ คือ การประกาศการใช้จ่ายงบประมาณให้คนทั้งประเทศรู้ว่ารัฐบาลใช้จ่ายเงินกระจายไปให้ใคร องค์กรใด บริษัทใด เพื่อประชาชนทั้งประเทศจะได้ช่วยกันตรวจสอบในรายละเอียด ในขณะที่ร้อยละ 41.2 คิดว่าวิธีนี้ไม่สามารถช่วยแก้ไขได้
น.ส.ปุณฑรีก์ กล่าวว่า ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เห็นด้วยกับการประกาศการใช้จ่ายงบประมาณให้คนทั้งประเทศรู้ถึงสาเหตุของรัฐบาลที่ไม่ติดประกาศการใช้จ่ายงบประมาณให้คนทั้งประเทศรู้ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่คิดว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้นั้น พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 50.8 ระบุไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรัฐบาลไม่เปิดเผย รองลงมาได้แก่ ร้อยละ 33.7 ระบุรัฐบาลกลัวถูกตรวจสอบ ร้อยละ 13.5 ระบุนักการเมืองกลัวเสียผลประโยชน์ และร้อยละ 2.0 ระบุสาเหตุอื่นๆ อาทิ ประชาชนและสาธารณชนทั่วไปอ่อนแอ ไม่เข้มแข็งเพียงพอ/คนที่ต่อต้านโกงแท้จริงมีน้อยเกินไป เป็นต้น
น.ส.ปุณฑรีก์ กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในความคิดเห็นของประชาชนกำลังเข้าขั้นวิกฤต ไร้ซึ่งความเชื่อมั่น ไว้วางใจจากประชาชนต่อคำพูดและการประพฤติปฏิบัติตนของนักการเมืองและกลุ่มคนในหลากหลายภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารประเทศ
ดังนั้น ถึงเวลาที่รัฐบาลและฝ่ายการเมืองต้องเร่งสร้าง “ความไว้วางใจของสาธารณชน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ มีการชี้แจงรายละเอียดให้ประชาชนได้รับรู้ มีโอกาสร่วมตรวจสอบ ประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณทุกเม็ดเงินของรัฐบาล ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ว่าถูกจัดสรรไปที่ใดบ้าง เปิดอกพูดคุยกับประชาชนและสังคมด้วยความจริงใจ และลดการพูดชักจูงเสมือนการเล่นขายของ แต่ต้อง “ปฏิบัติ” ให้เห็นเป็นรูปธรรม จับต้องได้ เพราะพวกท่านคือความหวังของประชาชนตาดำๆ หลายสิบล้านคนที่อยากจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี นอนหลับสบายไร้ความกังวล มีผู้นำที่น่าเคารพศรัทธา ที่สามารถพูดถึงด้วยความภาคภูมิใจ