“หมอวิทิต” ฟ้องศาลปกครอง สั่งเพิกถอนคำสั่งเลิกจ้าง และขอคืนตำแหน่ง ผอ.องค์การเภสัชกรรม พร้อมเรียกค่าเสียหาย 49 ล้านบาท ขณะเดียวกันเล็งฟ้องแพ่ง-อาญาซ้ำ
วันนี้ (12 ก.ค.) นพ.วิทิต อรรถเวชกุล อดีตผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้เข้ายื่นฟ้ององค์การ คณะกรรมการ ประธานกรรมการ อภ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งและมติที่ประชุมคณะกรรมการอภ.เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ยกเลิกสัญญาจ้าง และให้ตนเองพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการ อภ. พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้ตนเองกลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ อภ.นับตั้งแต่วันที่ถูกคำสั่งเลิกจ้าง และให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 5 ชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49,653,600 บาท
โดยระหว่างศาลพิจารณาคดีขอให้ศาลมึคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวสั่งชะลอการบังคับใช้คำสั่ง อภ.ที่ให้ตนพ้นจากผู้อำนวยการ อภ. คำสั่ง อภ.ให้ น.ส.พิศมร กลิ่นสุวรรณ รักษาการในตำแหน่ง ผอ.อภ. และห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการ อภ.คนใหม่ รวมถึงสั่งห้ามมิให้ ปธ.อภ. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ข่าวหรือแถลงข่าวกล่าวหาว่าตนเองบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง จนเป็นเหตุให้ต้องมีคำสั่งให้ตนพ้นจากตำแหน่ง
นพ.วิทิตกล่าวว่า หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล และจะได้กลับเข้าไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อภ.อีกครั้ง เนื่องจากยังเหลือวาระการดำรงตำแหน่งตามสัญญาอีก 2 ปี โดยหลังจากนี้ก็จะยื่นฟ้องอาญาและฟ้องแพ่ง ต่อศาลยุติธรรมอีก เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของ คณะกรรมการ ประธานคณะกรรมการ อภ. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข พยายามจะหาประโยชน์โดยมิชอบจากองค์การ อภ.หลายประการ ทั้งในเรื่องการโอน หรือการกระทำที่มุ่งแสวงหาประโยชน์จากงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านบาท การจะใช้เงินสะสมของ อภ.4 พันล้านบาท การแปรรูป อภ. ซึ่งหากมีการสรรหาผู้อำนวยการ อภ.คนใหม่ที่ยอมอยู่ในอำนาจโดยไม่โต้แย้งก็จะทำให้รัฐเสียหายยากจะเยียวยาได้
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาฟ้องศาลปกครองของ นพ.วิทิต ครั้งนี้ก็ได้มีกลุ่มชาวบ้านจาก อ.บ้านแพ้ว จ.สุมทรสาคร ประมาณ 50 คนเดินทางมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นพ.วิทิตกล่าวว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของ นพ.วิทิต ที่ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว