ดีเอสไอเข้าพบเจ้าคณะศรีสะเกษ และอุบลราชธานีวันนี้ เพื่อสรุปขับ “เณรคำ” พ้นสมณเพศ คาดไม่เกิน 15 ก.ค.ถูกจับสึกได้แน่นอน จากนั้นจะขอออกหมายจับ พร้อมดำเนินการในคดีต่างๆ 8 ข้อหา ส่วนการตรวจดีเอ็นเอแม้มารดาไม่ให้ความร่วมมือ แต่ได้เนื้อเยื่อพี่ชายต่างมารดามาพิสูจน์เป็นพ่อเด็กวัย 11 ปีจริงหรือไม่
การตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อหาความเชื่อมโยงว่าบุตรชาย น.ส.หญิง (นามสมมติ) ที่ระบุว่ามีความสัมพันธ์กับเณรคำ จนมีบุตรชายวัย 11 ปี โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เดินทางไปเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากบุตรชายวัย 11 ปีของ น.ส.หญิง จากนั้นได้ไปเก็บเนื้อเยื่อดีเอ็นเอของนายจำนงค์ สมเทพ พี่ชายต่างมารดาของเณรคำ เพื่อนำมาพิสูจน์ดีเอ็นเอ เนื่องจากบิดามารดาของเณรคำไม่ยอมให้ความร่วมมือในการจับเก็บเนื้อเยื่อเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ
นายอังศุเกติ์ วิสุทธิวัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่าแม้มารดาของเณรคำ ไม่ยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกของ ด.ช.วัย 11 ขวบ ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่กังวลในประเด็นนี้ เนื่องจากได้ตรวจดีเอ็นเอของญาติเณรคำไปแล้ว ซึ่งในวันที่ 13 ก.ค.จะทราบผลตรวจและทุกอย่างจะชัดเจน โดยไม่ต้องรอตรวจมารดา ที่ไม่ยอมให้ตรวจอีกแล้ว
นายอังศุเกติ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดกับเณรคำ ในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี แล้ว ส่วนการขอศาลออกหมายจับ ในฐานความผิด 8 ข้อหาเณรคำ ที่ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น ต้องรอให้จัดการทางสงฆ์ให้เรียบร้อยก่อน โดยต้องให้พ้นจากความเป็นสมณเพศสมบูรณ์ก่อน ซึ่งในวันนี้ (12 ก.ค.) จะเข้าพบเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี เพื่อสรุปในการขับพ้นสมณเพศ คาดว่าวันที่ 15 ก.ค.นี้ พระเณรคำจะถูกจับสึกได้อย่างแน่นอน ต่อจากนั้นจึงจะได้ขอศาลออกหมายจับเพื่อไม่ให้กระทบต่อพระพุทธศานาต่อไป