ดีเอสไอเดินหน้าเจรจาพ่อแม่ “เณรคำ” ยอมตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์เด็กชายวัย 11 ปี เป็นลูกเณรฉาวหรือไม่ ขณะที่พี่ชายต่างมารดายอมให้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอแล้ว ยันสามารถตรวจความเชื่อมโยงได้เช่นกัน ขณะเดียวกันเล็งตรวจสอบ “เณรคำ” โยงใยรถหรูที่ถูกไฟไหม้ 6 คันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางเข้าเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอหาความเชื่อมโยงกัน ถ้าผลออกมามีความเชื่อมโยงกันจริงของ น.ส.หญิง (นามสมมติ) ที่ระบุว่ามีความสัมพันธ์กับเณรคำ จนมีลูกชายวัย 11 ขวบ ซึ่งได้ให้ความร่วมมือด้วยดี ขณะที่นายรัตน์กับนางสุดใจ สุขผล พ่อแม่ของเณรคำ ซึ่งพักอยู่บ้านเลขที่ 999/10 ม.10 บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี กลับปิดบ้านไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อตรวจพิสูจน์
ล่าสุด นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กล่าวว่า ขณะนี้นายจำนงค์ สมเทพ พี่ชายต่างแม่ของเณรคำยอมให้ทางเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ตรวจเยื่อบุแก้มเพื่อหาดีเอ็นเอความเชื่อมโยงพิสูจน์ว่า ด.ช.อายุ 11 ปี เป็นบุตรของพระเณรคำตามที่มารดาเด็กกล่าวอ้างหรือไม่ ทั้งนี้ แม้ว่าไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องโดยสายเลือดโดยตรงก็ยังสามารถตรวจสอบดีเอ็นเอได้ โดยทางนิติวิทยาศาสตร์ระบุว่าสามารถหาดีเอ็นเอได้เช่นกัน แต่วิธีการก็จะไม่เหมือนกับความสัมพันธ์โดยสายเลือดทางตรง แต่ก็มีความแม่นยำเช่นกัน คาดว่าใน 1 วันก็จะทราบผลตรวจ
นายอังศุเกติ์กล่าวว่า ดีเอสไอยังคงเจรจากับพ่อแม่ของพระเณรคำให้มาตรวจดีเอ็นเออีกครั้งในวันนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจ เพราะยังเกรงกลัวอยู่
ด้านการตรวจสอบรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ 22 คัน ที่เณรคำนำเงินบริจาคไปซื้อนั้น พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษภาค ดีเอสไอ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงรถเบนซ์ 22 คัน ที่พระเณรคำซื้อมาในราคาเกือบ 100 ล้าน เบื้องต้นรถขายให้กับโชว์รูมไปหมดแล้ว แต่ทางดีเอสไอจะตรวจสอบว่า พระเณรคำโยงใยเกี่ยวข้องกับรถหรู 6 คันที่เกิดไฟไหม้ด้วยหรือไม่ เพราะมีที่หมายที่ จ.ศรีสะเกษ แหล่งพำนักของพระเณรคำ
