“วสิษฐ” เชื่อคลิปเสียงฉาวของจริง ทำทั้งคู่เหมือนโดนหมัดน็อก ชี้ชัดแผนยึดสยามไปไกลกว่าที่คิด ถ้าสำเร็จกองทัพอยู่ในมือ ส่อรั้วของชาติอ่อนแอ หวังทหารชั้นผู้น้อยไม่ยอมแปดเปื้อนมลทิน เย้ยรัฐบาลใบ้กินพาดพิงพม่า คาดหวังสูงนั่งที่ปรึกษาทรัพย์สินฯ ด้าน “แก้วสรร” ซัดเลวบัดซบดึงเจ้าเพื่อประโยชน์ตน
วันนี้ (10 ก.ค.) พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร แกนนำกลุ่มไทยสปริง กล่าวในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ไทยสปริง ว่า ตนเชื่อว่าคลิปเสียงสนทนาคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เป็นของจริง มีผลกระทบรุนแรง และอาจทำให้คู่สนทนาสองคน ถึงกับเซ่อไปเลยเหมือนนักมวยโดนหมัดน็อกโดยไม่ตั้งท่า กรรมการนับแล้วแต่ยังไม่ฟื้น เพราะเกินกว่าที่เขาจะคาดและเราคาด ตนรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะกำลังทำร้ายบ้านเมืองของเรา พ.ต.ท.ทักษิณและคณะกำลังชำเราประเทศไทยอยู่ โดยข้อความจากคลิปเห็นชัดว่าแผนยึดครองประเทศไทยไปไกลกว่าที่เรานึกมาก แผนที่สองคนสมคบคิดกันหลุดมาถึงเราได้ เกี่ยวข้องกับกองทัพ ถ้าเป็นไปตามแผนที่เราได้ยินในคลิป เขาทำสำเร็จปี 57 ตั้ง ผบ.เหล่าทัพเองตั้งใครก็ได้ แปลว่ากองทัพที่เป็นรั้วของชาติจะอยู่ในกำมือของเขาใช้ทำอะไรก็ได้ เมื่อฟังดูแล้วก็เป็นแบบ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ผบ.ที่กำลังเกษียณเขาก็เอาตำแหน่งมาล่อหลังเกษียณ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ว่ามีทหารที่เกษียณแล้วมีตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจต่างๆ เป็นอันตรายร้ายกาจกับบ้านเมือง เพราะรั้วของชาติ ทัพบก เรือ อากาศ ภารกิจคือปกป้องอธิปไตยของชาติ ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าทำแบบนี้แปลว่ารั้วของเราอ่อนแอ เขาจะใช้งานอย่างไร ที่ไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นที่มีผู้ตีความว่า กำลังจะรัฐประหารตัวเองหรือเปล่า ที่จริงถ้ายึดสามกองทัพได้ไม่ต้องทำรัฐประหารตัวเอง จบสมบูรณ์เลย
พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าไม่ต้องวิตกจนนอนไม่หลับ เพราะยังมีความศรัทธาในทหารแม้แต่ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ เราได้ยินแต่เสียงที่บอกว่าจะทำอะไรกับคนเหล่านี้ แล้วก็อ้างว่าเอาอยู่แล้ว แต่เรายังไม่ได้ยินจากคนเหล่านี้ และตนก็มีความศรัทธาต่อผู้บังคับบัญชาชั้นรองลงไปด้วย ท่านเหล่านี้เป็นนายทหารที่อายุราชการน้อยจะเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า ตนไม่เชื่อว่าท่านเหล่านี้จะยอมให้ตัวเองแปดเปื้อนมีมลทินกับการทุจริตแบบนี้ได้ การคิดล่วงหน้าไปไกลๆ ศาสนาพุทธเราเรียกว่า “สังขาร” เราอย่าปรุงแต่งนัก พยายามอยู่กับปัจจุบันจะได้ไม่ขวัญเสีย ไม่บ้าเร็วเกินไป เราอย่าให้คนบ้าคนหนึ่งนอกประเทศที่มีตังค์มากๆ ทำให้เราบ้าตามมันไปด้วย
สำหรับระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายนั้น พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า สุดท้ายทุกคนจะท่องว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ทั้งนั้น ตนเห็นว่าการทำลายประเทศไทยทำได้อย่างศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คือการทำลายข้าราชการประจำ ถ้าเขาคิดว่าทำสำเร็จจะปกครองบ้านเมืองเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทยได้ ตนคิดว่าเข้าใจผิด เพราะเขาต้องใช้ความผุพังของระบบราชการเป็นเครื่องมือ ซึ่งจะใช้ไม่ได้เพราะกลายเป็นระบบพรรคพวกหมด เหมือนเอาหัวหน้าโจรกับสมุนมาบริหารงาน ก็คิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรถึงจะปล้นให้ได้มาก ๆ เท่านั้น ส่วนเรื่องพม่าที่มีการพาดพิงถึงจากในคลิปนั้น ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คงกำลังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
พล.ต.อ.วสิษฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความจำนงอยากเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ว่า น่าจะมีวาระซ่อนเร้น เพราะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นส่วนราชการ ประธานกรรมการคือ รมว.คลัง ที่ตนอยากให้สนใจคือ เมื่อเป็นการบริหารส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ใช่ส่วนพระองค์ ธุรกิจของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นไปเพื่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอยู่หัวเป็นเรื่องของแผ่นดิน ถ้าอยากกลับมาแล้วไม่เล่นการเมืองสิ่งที่ทำได้คือมาสู้คดีแล้วก็ติดคุกกี่ปีก็ได้ เพราะคนขนาด พ.ต.ท.ทักษิณ ติดคุกสบาย อย่างกำนันเป๊าะ เวลานี้อยู่บ้านสบายดี ถ้าหากยอมสู้คดีติดคุกจะเป็นการประกันดีที่สุดว่าจะไม่เป็นพิษเป็นภัยกับบ้านเมือง
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ สนับสนุนความคิดของ พล.ต.อ.วสิษฐ ว่า หากทำได้อย่างที่พูดในคลิปจริงก็ไม่ต่างจากการทำรัฐประหาร และการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เนื่องจากในหลวงอยู่เหนือการเมือง ใครก็ตามที่ดึงท่านลงมาเพื่อประโยชน์ส่วนตนไม่ว่าจะในลักษณะไหนก็แล้วแต่เป็นคนทำลายต้นทุนนี้ของพวกเรา บอกตามตรงว่าเลวบัดซบ กองทัพก็เหมือนกันต้องอยู่เหนือฝักฝ่าย ถ้าบ้านเมืองยิงกันฉิบหายแบบอียิปต์เข้ามาเป่านกหวีดก็โอเค ดูเขาคิด เขาคิดถึงขั้นจะเอากฎหมายเข้าสภากลาโหม ถ้าผ่านได้อ้างเป็นพระราชกำหนด พอกราบทูลฯขึ้นไปก็มีทั้ง ทหารและ ครม.เป็นการชัดเจนว่าใช้กองทัพ และในหลวง ไม่เห็นคุยเรื่องภาคใต้ว่าจะทำยังไง มีแต่บอกว่าจะเอากลับบ้าน อายุมากแล้วไปเรียกเขาว่าท่านแถมจะชวนรุ่นน้องมาสวามิภักดิ์ ไม่ได้คิดถึงราชการแผ่นดินเลย ตนยังสงสัยว่าเรามีรัฐบาลหรือเปล่า
"คลิปนี้มันฟ้องว่าเราไม่มีรัฐบาลมีแต่การยึดอำนาจมาเป็นของตนให้ได้ ถ้าขวางมากก็ไปอยู่ประเทศอื่นซะ นอกจากนี้ศาลฎีกาฯ ได้ตัดสินคดีซุกหุ้นไปแล้ว เสียง 9 ต่อ 0 เพราะฉะนั้นการขึ้นครองตำแหน่ง รมต.โดยแจ้งทรัพย์สินเป็นเท็จ ถือครองหุ้นสัมปทาน 13 กระทง กระทงละ 3 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแน่นอน จะเล่นการเมืองต่อได้อย่างไร ถ้ากลับมามีการพิจารณาเรียงกระทงลงโทษก็ 39 ปี” นายแก้วสรร กล่าว
ขณะที่ นายขวัญสรวง อติโพธิ กล่าวว่า จากที่ฟังคลิปนี้ที่เราบอกว่าไม่อยากให้เขากลับบ้าน ไม่ให้คนทรยศกลับมา ความจริงมันนั่งว่าราชการอยู่ มันยึดไว้หมดแล้ว ตนขนลุกเลยนึกว่าจะกันไม่ให้เข้า ความจริงเขาอยู่แล้ว ตนเคยนึกเทียบฮิตเลอร์กับระบอบทักษิณซึ่งตนดูหมิ่นมากเพราะมันชั่วเป็นกลุ่มๆ ไม่มีภาพใหญ่ว่าเป็นยังไง แต่มันอันตราย เรื่องชั่วเยอะ สภายกมือไม่รู้ว่ามีผลอะไร ชั่วเป็นกลุ่มๆ แต่เกิดผลใหญ่