ป.ป.ช.ให้คิดกันเองขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่จ่ายเช็คกันแค่ใบละ 8 หมื่นบาท เตรียมขอศาลสั่งธนาคารให้ความร่วมมือ ป.ป.ช.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตั้งเป้าสรุปผลสอบก่อน กล้านรงค์" พ้นวาระกันยาฯนี้ เล็งใช้ กม.คุ้มครองดูแล “สุภา” ไม่ให้ถูกฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้ง หลังเปิดข้อมูลทุจริตจำนำข้าว
วันนี้ (10 ก.ค.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนการทุจริตโครงการจำนำข้าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเช็คที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 1,460 ฉบับ ไปยังธนาคารทั้ง 6 แห่ง ส่วนใหญ่ธนาคารให้ความร่วมมือดี แต่ธนาคารบางแห่งยังไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้อาจต้องประสานไปยังผู้ใหญ่ในธนาคารหรือหากจำเป็นก็ต้องขอไปยังศาล
“ขณะนี้เช็คที่ต้องสงสัยมีจำนวนมากถึง 1,460 ฉบับ จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ เท่าที่ทราบมีเช็คบางฉบับมีวงเงินไม่กี่หมื่นก็เซ็นเช็คกันออกมาแล้ว” นายวิชากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบพบพิรุธเช็ค 1,460 ฉบับบ้างหรือยัง นายวิชากล่าวว่า มีที่ไหนที่ทำการค้าแบบรัฐต่อรัฐ แต่จ่ายเช็คแค่ 8 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ไปคิดกันเองว่า เป็นจีทูจีหรือไม่ รัฐที่ไหนจะจ่ายเช็ค 8 หมื่นบาท ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะพยายามตัดสินคดีนี้ให้เสร็จทันก่อนที่นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.จะหมดวาระในเดือน ก.ย.นี้
นายวิชากล่าวว่า ส่วนการให้การของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ก็มาให้ข้อมูลครบถ้วนต่อ ป.ป.ช.แล้วถึงการทำรายการต่างๆ ในฐานะเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว และยืนยันถึงตัวเลขการขาดทุนในโครงการจำนำข้าวตามที่เป็นข่าว ส่วนที่ น.ส.สุภากำลังจะถูกตั้งคณะคณะกรรมการสอบสวนจากการให้ข้อมูลเรื่องโครงการจำนำข้าวนั้น ก็สามารถร้องขอต่อป.ป.ช.ให้ความคุ้มครองได้ เพราะ ป.ป.ช.มีกฎหมายคุ้มครองพยานให้การคุ้มครองอยู่แล้ว
“ถ้าข้าราชการถูกข่มขู่ คุกคาม เราก็คุ้มครองได้อยู่แล้ว โดยสามารถแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีว่าห้ามย้ายจากตำแหน่งเดิมหรือห้ามกลั่นแกล้ง แต่ขณะนี้ น.ส.สุภายังไม่ร้องขอเข้ามา แต่เราพร้อมคุ้มครองตามมาตรการที่มีอยู่” นายวิชากล่าว
