xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ชี้คลิปฉาวสะท้อนกองทัพถูก “แม้ว” ซื้อหมดแล้ว ถามยังเป็นทหารของในหลวงหรือไม่?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
“ปานเทพ” ชี้ “ทักษิณ” กลับไทยตามแผนยาก หาก พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภากลาโหมเมื่อไหร่ข่าวรั่วแน่ เพราะถูกจับตามองหนักหลังคลิปหลุด พร้อมตั้งคำถามกองทัพยังเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่หรือเปล่า จี้ ผบ.เหล่าทัพแสดงจุดยืนภายในสัปดาห์นี้ ด้าน “ชัชวาลย์” ระบุ “แม้ว” ไว้ใจ “ประยุทธ์” มาก แสดงว่าทำงานพิสูจน์มาหลายเรื่องแล้ว


 คลิกที่นี่ ฟังรายการ คนเคาะข่าว 


เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทวี โดยนายปานเทพกล่าวถึงคลิปเสียงของชาย 2 คนซึ่งคล้ายกับเสียงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่ามีการพบเจอกันและแอบอัดเทป ซึ่งคนอัดไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน เพราะงานนี้สำคัญกับเขามาก เหลือเพียงแต่ว่ามีคนแอบอัดอาจจะใต้โต๊ะ หรือมีบุคคลที่ 3 ที่นั่งอยู่ใกล้ พล.อ.ยุทธศักดิ์มากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจากคลิปนั้นเสียงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ชัดกว่า นอกจากว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์นั่งอยู่คนเดียว ถ้าไม่ถูกอัดก็คงอัดเอง เพื่อเอาไปให้ใครสักคนฟังว่าเป็นผลงานของตัวเอง แล้วคลิปหลุดออกมา

นายปานเทพกล่าวต่อว่า ถ้า พล.อ.ยุทธศักดิ์เป็นตัวเลือกที่ดีจริง ทำไมไม่เป็น รมว.กลาโหมตั้งแต่คราวนั้นและต่อเนื่องมาถึงตอนนี้ แล้วที่เคยพ้นตำแหน่งไปด้วยเงื่อนไขอะไร ข้อสังเกตคือในคลิปมีการพูดถึงบุคคลที่ถูกดูดเสียงออก โดยชายคนที่ 2 (เสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ) บอกว่า “ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก” ชายคนที่ 1 (เสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์) บอกต่อว่า “ไอ้ตู่ เขาให้ความจริงใจนะครับ จริงใจมากเลย ตอนแรกกับผมมันก็ระวังมากเลย แต่หลังจาก XXXX เรียกมันไป แล้วเรียกผมไปให้รักกันนะครับ ให้ทำงานด้วยกัน ทุกอย่างมันก็เลยเรียบร้อยหมด ... วันที่ 16 นี้ ผบ.สูงสุดจะเลี้ยงนายกฯ ครับ ที่ บก.กองทัพไทย และก็จะเชิญ ผบ. รอง เสธ.ทุกเหล่าทัพมาร่วมรับประทานข้าว คุยกันเป็นส่วนตัวกับนายกฯ ด้วย”

ตั้งข้อสังเกตว่า XXX เรียกไปให้จับมือกัน เวลานั้นอาจทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ถูกไม่ไว้วางใจ เลยหลุดจาก รมว.กลาโหม แต่ทำไมคราวนี้เอากลับมาเป็น รมช.กลาโหม การที่จะกลับมาได้ต้องพูดอย่างที่ว่า คือ สามารถเอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศได้ มีสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ คุยกับ พล.อ.เปรมได้ เป็นการพูดโน้มน้าวให้เห็นว่าเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

นายปานเทพกล่าวอีกว่า มีข้อสงสัยว่าท่าทีที่สังคมเข้าใจว่า ผบ.สูงสุด เหมือนยืนข้างประชาชน แต่ในคลิปเหมือนกับว่ามันจบไปแล้ว การที่ชายคนที่ 2 บอกว่า “มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ” แล้วชายคนที่ 1 ก็บอกว่า “ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุดมาพบกับนายกฯ ได้เรื่องนี้ด้วย” ตกลง ผบ.สูงสุดไม่ติดใจเรื่องแม่แล้วใช่หรือไม่ ตนต้องตั้งคำถามนี้ แล้วการที่ไว้ใจตู่มาก มันต้องมีเงื่อนไขอะไร ทำไมถึงมั่นใจได้ขนาดนี้

เมื่อย้อนไปดูเทปนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคยพูดบนเวทีสนามหลวงว่าในหลวงไม่เหลือใครแล้ว จึงตั้งคำถามว่าตอนนี้กองทัพยังยืนเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่หรือเปล่า เมื่ออ่านข่าวย้อนหลังเช่นวันที่ 24 ต.ค. 2555 ข่าวม็อบ เสธ.อ้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์บอกว่าไม่น่ากลัว นักข่าวถามว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำและเสี้ยมให้กองทัพปฏิวัติรัฐประหารจะทำให้ทหารหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ใช้ความอ่อนไหวนี้มาทำงาน เท่าที่คุยความมั่นใจของ ผบ.ทบ.ยังมีอยู่ ก็คุยกันตลอดเวลา แล้ว ผบ.ทบ.ก็ออกมาบอกว่าไม่ให้คนของกองทัพร่วมม็อบเสธ.อ้าย

วันที่ 27 พ.ค. 2556 พล.อ.ประยุทธ์บอกให้นายกฯ สบายใจอย่ากังวลเรื่องการปฏิวัติ อีกประการหนึ่งที่ถือว่าเปราะบางมาก คือ ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไต่สวนคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงตอนปี 53 ก่อนนี้คิดว่าระดับสูงของกองทัพจะยอมไม่ได้ แต่ก็ยอม รวมถึงการรับอำนาจศาลโลก หลายเหตุการณ์เหล่านี้นำไปสู่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์มาก และอาจมากกว่านั้น อีกทั้งมีช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณบินไปอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปที่เดียวกัน ใครจะเชื่อได้ว่าไม่ได้จอกัน ในเมื่อไว้ใจกันมากขนาดนี้ ต่อมาคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เมื่อ 1 ก.ค. หลัง น.ส.ยิ่งลักษ์มาเป็น รมว.กลาโหม โดยบอกว่าผบ.เหล่าทัพแฮปปี้ มั่นใจไม่ล้วงโผทหาร

เมื่อโยงไปยังคลิปที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า “การแต่งตั้งโยกย้ายทหารเที่ยวนี้ ก็ต้องดูว่าอย่างไร ก็ คือเราก็ไม่อยากคาน ไม่อยากคาน เพียงแต่ว่าอย่าให้เขาไปทำพวกเดียวกันเองเสียขวัญในกองทัพเท่านั้นเอง” ที่ไม่ต้องคานเพราะไว้ใจมาก ไม่ต้องเอาคนเข้าไปแทรกเลย เดิมทีคนเข้าใจว่าสภากลาโหมจาก 6 คน เป็น 7 แสดงว่ารัฐบาลเริ่มไม่ไว้ใจกองทัพ แต่เมื่อเป็นอย่างนี้แสดงว่าเขาอยู่ข้างเดียวกัน แล้วเสียงออกมาคงเป็น 7-0 เพราะพอไล่ดู ผบ.สส. (พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ไม่ติดใจเรื่องแม่แล้ว ผบ.ทบ. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) พ.ต.ท.ทักษิณก็ไว้ใจอย่างมากๆ ผบ.ทร. (พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์) พอเกษียณ ก็วางตัว พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง มาแทน ส่วน ผบ.ทอ. (พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง) ก็กลายเป็นเครื่องมือให้บีบ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี นับแล้วสภากลาโหมไม่เหลือใครแล้ว ซึ่งก็ตรงกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยให้เหตุผลการมานั่งกระทรวงกลาโหมว่าเพื่อเอกภาพและความรวดเร็วของงานความมั่นคง

จริงๆ แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องมาเป็น รมว.กลาโหมก็ได้ แต่นั่งไปเพื่อให้เกิดความเกรงใจในเรื่องอื่น เช่น อาศัยสภากลาโหมประทับตราเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลังจากนั้นก็นำเข้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วอ้างความเห็นชอบของกองทัพ เสนอเข้า ครม.อนุมัติ ออกเป็น พ.ร.ก. เพื่อความไม่วุ่นวาย นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กลับมากลาโหมใหม่

นายปานเทพยังกล่าวด้วยว่า ผบ.เหล่าทัพรู้แล้วใช่ไหมว่ามีขบวนการเหล่านี้เกิดขึ้น ตกลงพวกท่านมีจุดยืนอย่างไร ต้องแสดงตน ถ้าไม่แสดงตน อาจคิดได้ว่าพวกท่านถูกซื้อตัวไปแล้ว ถึงไม่กล้าปฏิเสธ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงอำนาจต่อรองตัวเอง คือได้กลับบ้านโดยไม่มีความผิด และพร้อมเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จงรักภักดีแบบมีเงื่อนไขต่อรอง ถ้ามีขบวนการเหล่านี้ ผบ.เหล่าทัพ ยืนอยู่ได้อย่างไร เรื่องนี้จะบอกว่าทหารไม่เกี่ยวการเมืองไม่ได้แล้ว

แล้วที่บอกว่าวางตัว พล.ร.อ.อมรเทพ มาเป็น ผบ.ทร. คนในกองทัพเรือยินยอมหรือ แล้วตกลงเรื่องที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์ พร้อมพูดกับ พล.อ.เปรม หรือประการถัดมา เรื่องที่จะใช้ ผบ.สูงสุดของพม่าเดินเกมที่ทวาย จะนิ่งเงียบหรือ ที่คนสงสัยโครงการน้ำทำไมถึงลงทุนมหาศาล แล้วทำทางฝั่งตะวันตกใกล้พม่า ล้วนแต่เพื่อประโยชน์ในการคมนาคมกับโครงการทวาย คนไทยจะยอม พม่าจะยอมหรือไม่ สังคมทุกส่วนภาคต้องตอบ รวมถึงเสื้อแดงด้วย

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวตอนท้ายว่า สัปดาห์นี้เราจะได้เห็น ผบ.เหล่าทัพ ว่ามีการแสดงจุดยืนหรือไม่ การไม่แสดงว่าคิดหนักมาก เพราะถ้าเป็นจริงเขาจะไม่กล้าแสดงจุดยืน แล้วหลังจากนี้ประชาชนต้องจับตาใกล้ชิดในขั้นตอนเสนอกฎหมายเป็น พ.ร.บ.เข้าสู่สภากลาโหมเมื่อไหร่เมื่อนั้นข่าวรั่ว ตนเชื่อว่าคนในกลาโหมยังมีความจงรักภักดี ทุกคนเตรียมตัวแล้วหลังคลิปหลุด ขอให้ตระหนักไว้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าประชาชนไม่ยินยอม กระบวนการนี้ทำยาก ผู้นำเหล่าทัพต้องแสดงจุดยืน หากไม่แสดงจุดยืนแสดงว่าไร้จุดยืน ไร้ความรับผิดชอบ อีกทั้งต้องจับตาโครงการน้ำให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะทางทวาย คลิปนี้น่าสะเทือนแผนที่ พ.ต.ท.ทักษิณคิดไว้ไม่มากก็น้อย เพราะทหารและประชาชนที่รักชาติยังมีอยู่มาก

ด้านนายชัชวาลย์กล่าวว่า คลิปนี้คลาสสิกมาก ตนมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเสียง พ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ เพราะหลายอย่างเป็นเรื่องลับเฉพาะ คลิปนี้เผยให้เห็นขบวนการของคนที่ไม่เคยรักชาติบ้านเมือง พูดแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตัว ที่สำคัญทำชาติเสียหายกรณีพูดเรื่อง เอา ผบ.สส. พม่าเป็นพวกและบีบรัฐบาลพม่าในโครงการทวาย

ตนพอรู้มาว่า XXX ที่ถูกดูดเสียงออก คือเบื้องสูงท่านหนึ่งที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง แต่ไว้ใจ พล.อ.ยุทธศักดิ์ แล้วการที่ชายคนที่ 2 (เสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ) พูดถึง ผบ.สูงสุด ว่า “มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ” คำว่าแม่หมายถึงใคร ส่วนที่บอกว่าจะเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็เป็นขบวนการลิงหลอกเจ้า หลอกประชาชนว่าจงรักภักดี

นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า ทั้งหมดจึงเป็นตัวพิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และทหารบางคนเป็นคนทำลายชื่อเสียงของกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชายคนที่ 2 บอกว่า “ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก” แล้วยังคอนเฟิร์มโดยชายคนที่ 1 ว่า “ไอ้ตู่ เขาให้ความจริงใจนะครับ จริงใจมากเลย” กรณีนี้ “ไอ้ตู่” คงหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถ้า ผบ.ทบ.จริงใจต่อประเทศ ต่อในหลวง บ้านเมืองจะไม่เป็นอย่างนี้ เพราะรัฐบาลทำขนาดนี้ถ้าเป็นทหารรุ่นเก่าไม่ปล่อยไว้แล้ว การที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไว้ใจใครได้ ถ้าไม่เป็นญาติก็ต้องพิสูจน์แล้วว่าทำงานให้แล้วหลายเรื่อง ถึงไว้ใจที่สุดได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณระแวงคนที่สุด

คำต่อคำ "คนเคาะข่าว" 8 ก.ค.2556

เติมศักดิ์- สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556 นะครับ วันนี้เราสนทนากันเรื่องคลิป คลิปสนทนาของชาย 2 คนที่ฟังแล้วสังคมก็เชื่อว่าเป็นเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ล่าสุดมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม คลิปสนทนาของชายสองคนนี้จะสะท้อนความจริงและแนวโน้มของการเมืองไทยและกองทัพไทย แนวโน้มของระบอบทักษิณอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ สนทนากัน และองค์กรต่างๆ ที่ถูกพาดพิง ที่ถูกพูดถึง บุคคลต่างๆ ที่ถูกพาดพิงที่ถูกพูดถึง ควรจะต้องออกมาพิสูจน์ตัวเองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นที่เคลือบแคลงต่อสังคมไทยต่อไป วันนี้คุยกับ 2 ท่านครับ ท่านแรกโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ครับ สวัสดีครับ อ.ปานเทพ

ปานเทพ- สวัสดีครับ

เติมศักดิ์- ท่านที่สองนักวิชาการ คอลัมนิสต์ของเอเอสทีวี ผู้จัดการ คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย สวัสดีครับ

ชัชวาลย์- สวัสดีครับ

เติมศักดิ์- ทั้งสองท่านมีข้อสังเกตต่อคลิปที่ดังกระหึ่มเมืองไทยนี้อย่างไรบ้าง

ปานเทพ- ผมจะเริ่มต้นอย่างนี้ก่อนแล้วกันนะครับว่า มักจะมีคนสนใจที่มาของเทปมากนะครับ ผมจะพูดสั้นๆ ไม่มาก เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่สาระสำคัญ มีคนตั้งข้อสังเกตแรกๆ ว่า สงสัยจะถูกดักฟังในลักษณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เปิดเทป ที่นักข่าวโทรเขาหา แล้วหลังจากนั้นก็คุยกับทักษิณอีกที่หนึ่งแล้วลืมปิดมือถือ คล้ายๆ อย่างนี้นะครับ ผมคิดว่าทฤษฎีนี้ก็มีสิทธิ์จะคิดได้ แต่ผมคิดว่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าในทางความเป็นจริงไม่ค่อยมีนักข่าวโทรไปสัมภาษณ์คนที่ไม่มีตำแหน่งแล้วเตรียมอัดเทปไว้ก่อน อันนี้โดยสัญชาติญาณเท่าที่เราคุยกับนักข่าวนะครับ แล้ว พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2556 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ยังไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยในรัฐบาล ไม่มีเหตุที่นักข่าวจะต้องโทรไปเพื่อเตรียมสัมภาษณ์ แต่ว่าผมเข้าใจว่ามันต้องมีเรื่องแบบนี้ ว่าให้มีนักข่าวโทรไปแล้วก็รับเรื่องนี้มาอีกชั้นหนึ่ง มันจำเป็นในสถานการณ์แบบนี้ ไม่อย่างนั้นจะรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ประการที่สองที่ผมคิดว่า เราพอจะเห็นจากสื่อว่าเขาน่าจะเจอกัน ที่ผมว่าเขาน่าจะเจอกันเพราะว่ามี 2 ประโยคสำคัญนะครับ เช่น ประโยคเรื่องของเครื่องบิน ที่บอกว่าพวกเขามีการมาเจอกันในลักษณะที่บอกว่า ... เอาเป็นว่าสมมุติเป็นคุณทักษิณแล้วกันนะครับ เราจะเรียกชายคนที่ 2 ว่า สมมุติเป็นคนชื่อทักษิณ อย่างที่หลายคนเข้าใจ สมมุติว่าเป็นอย่างนี้นะครับ ชายคนที่ 2 บอกว่า "เดี๋ยวเจอผมเร็วขึ้น ก็กลับเร็วได้ เครื่องมันออกกี่ทุ่ม หรือตั้งใจจะชอปปิ้งต่อ" ถาม ที่คนสงสัยว่าจะเป็น พล.อ.ยุทศักดิ์ ศศิประภา ถ้าเป็นไปตามจริง พล.อ.ยุทศักดิ์ ก็จะบอกว่า "ผมเปลี่ยนเครื่องไม่ได้แล้วครับ พอท่านบอก 5 โมง ผมก็คอนเฟิร์มมาเลย"

เติมศักดิ์- พอท่านบอก 5 โมง ผมก็คอนเฟิร์มมาเลย

ปานเทพ- ทีนี้พอเจอก่อน ก็เลยต้อง กับไม่ได้แล้ว ต้องกลับเวลาเดิม ประโยคนี้เราคิดได้ว่าเขาน่าจะเจอกัน ไม่ใช่เป็นการดักฟังทางโทรศัพท์แบบเปิดมือถือแล้วคุยอีกสายหนึ่งอย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ แล้วจริงๆ คนสองคนก็ต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นั่งกันอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็มีใครนั่งร่วมโต๊ะอยู่หรือเปล่า

ชัชวาลย์- มีเสียงถ้วยชาม

ปานเทพ- มีเสียงถ้วยชาม มีเสียงเครื่องบิน ชัดเจนมาก

เติมศักดิ์- ไม่ใช่บทสนทนาทางโทรศัพท์

ปานเทพ- ไม่ใช่บทสนทนาทางโทรศัพท์นะครับ แล้วก็ประโยคสุดท้าย คนที่เสียงเหมือนคุณทักษิณบอกว่า "โอเคพี่ กลับบ้าน ขอบคุณพี่มากนะ ถ้ายังไงใกล้ชิดนายกฯ มีอะไรโทรศัพท์คุยกันได้ ไม่ต้องเขียนรายงาน ไม่ต้องรอมอบรายงาน เรียบร้อย พี่จะกลับเที่ยวทุ่มนึงเลยก็ได้" พูดถึงการกลับอีก เห็นมั้ยครับ การพูดถึงกลับบ้าน เวลาชัดเจนอย่างนี้นะครับ คนที่เสียงเหมือน พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่า "ครับ เดี๋ยวดู ครับๆ" แสดงว่าเขาเจอกันน่ะครับ เพราะฉะนั้นตัดทิ้งเรื่องว่านักข่าวโทรไป โทรอีกสายหนึ่งแล้วอัด ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้
เมื่อเป็นวันที่ 24 มิถุนายน 2556 ก็แปลว่าทั้งคู่น่าจะเจอกัน และการเจอกันก็ต้องมีการอัดเทป ไม่ใช่ฝั่งคุณทักษิณ ผมเชื่อว่าไม่ใช่ เพราะว่าผลที่ได้ เพราะว่าแผนมันพัง มันเปิดออกมาก่อน มีความเสี่ยงที่จะพังก่อน โดยเฉพาะแผนการออกกฎหมายเรื่องพระราชกำหนด โดยหลอกสภากลาโหม ที่จะออกเป็นพระราชบัญญัติก่อน ไม่ควรจะมีใครได้ยินก่อน เป็นเดิมพันชีวิตของ นช.ทักษิณ ที่จะกลับมาประเทศไทยโดยอาศัยพระราชกำหนด โดยผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยอาศัยการประทับตรารับรองที่สภากลาโหมจะถูกหลอกเป็นพระราชบัญญัติ การเผยตัวก่อนเป็นผลเสียต่อ นช.ทักษิณ

เติมศักดิ์- เขาไม่ต้องการให้ปืนลั่น เพราะว่านัดนี้สำคัญ ปืนนัดนี้สำคัญ

ปานเทพ- สำคัญมากครับ ผมก็เลยคิดว่าไม่ใช่อย่างนี้อีก ก็เหลือแต่เพียงว่า เหลือแต่เพียงว่า มีใครดักฟังทางโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เช่น มีคนดักฟังใต้โต๊ะ รู้ล่วงหน้า หรือสอง อาจจะเป็นใครสักคนที่นั่งติดกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา มากกว่า นช.ทักษิณ เพราะเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ชัดกว่าที่จะเป็นคุณทักษิณ นี่อีกแบบหนึ่งนะครับ

เติมศักดิ์- เสียงคุณทักษิณค่อนข้างจะแผ่วๆ ไกลๆ

ปานเทพ- ครับ เพราะฉะนั้นต้องรู้ว่าใครนั่งอยู่ ยกเว้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นั่งอยู่คนเดียว ถ้านั่งอยู่คนเดียว แปลว่า ถ้าไม่ถูกอัดอยู่ใต้สถานที่อะไรสักอย่าง ถ้ายิ่งไปต่างชาติ ยากมากที่จะควบคุม จะนั่งโต๊ะนี้พอดี รู้ก่อนล่วงหน้า หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ท่านก็อัดเทปเอง

เติมศักดิ์- เป็นไปได้มั้ย

ปานเทพ- ก็ไม่ตัดชอยส์ ไม่ตัดทางเลือกนี้ แล้วก็อาจจะเอาไปให้ใครสักคนเอาไปฟัง เพื่อเป็นผลงานของตัวเองว่า เมื่อรับตำแหน่งมาแล้ว แล้วก็เอามาให้ฟัง แล้วก็บอกว่านี่ไงเป็นผลงาน เขาจะไม่ล้างแค้น เขาจะนั่น เขาจะนี่ จะมีเงื่อนไขอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็คลิปอาจจะหลุดออกมา อันนี้ก็เป็นอีกทฤษฎีหนึ่งนะครับ แต่ที่น่าสนใจก็คือว่า เมื่อคลิปหลุดออกมาแล้ว มันก็ย่อมเป็นผลร้ายต่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นในฐานะคนที่สะเพร่าอย่างใหญ่หลวง หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ ผมเคยเล่าถึงสถานการณ์ ขออนุญาตยาวหน่อยนะครับ ผมเล่ามาตั้งแต่ปลายปี 2544 นะครับ สถานการณ์การยันระหว่างฝ่ายที่คนเสื้อแดงเรียกว่าอำมาตย์ กับฝ่ายทักษิณ มันจะมี 4 สถานการณ์ทางเลือก ผมพูดตั้งแต่ปลายปี 2544 มาแล้ว แล้วปี 2555 มาจนถึง 2556 ทบทวนกันอีกทีนะครับ แบบที่ 1 ก็คือเป็นโมเดลที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กินอีกฝ่ายจนเรียบเลย ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารสุดๆ หรือไม่ก็จะเป็นการยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ แก้รัฐธรรมนูญแบบเบ็ดเสร็จทุกอย่าง กินหมดทุกอย่าง ทางใดทางหนึ่ง แล้วตัดสินใจกวาดล้างอีกฝั่งหนึ่งแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่เนื่องจากมีมวลชน และตัวเองเป็นเผด็จการ ไม่กระจายอำนาจสู่ประชาชน จะเกิดแรงลุกขึ้นมาต่อต้านทันที แล้วก็จะเป็นการรบยืดเยื้อยาวนาน
แบบที่ 2 ก็คือว่า แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนกัน แต่ว่าตัดสินใจเสียสละอำนาจของตัวเองในอนาคต เอาประโยชน์ให้กับประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ได้ใจคนส่วนใหญ่ อาจจะมีการปะทะดุเดือด สูสีกันในช่วงแรก แต่สุดท้ายสังคมสงบ อาจจะใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่ง แบบที่สองนะครับ
แบบที่ 3 ก็คือเป็นโมเดลที่เขาเรียกว่า จับมือกัน ระหว่างฝ่ายที่คนเสื้อแดงเรียกว่าอำมาตย์ กับฝ่าย นช.ทักษิณ จับมือกัน ประคอง อย่างภาพที่เราเคยเห็นกันก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือคล้ายๆ เชิญ พล.อ.เปรม มางานดนตรี มีการเจรจา มีความพยายามในการสร้างบรรยากาศคล้ายๆ อย่างนั้น ผมเคยพูดในข้อ 3 ว่า ในประเด็นที่ 3 หมายความว่า จะมีการยื้อสถานการณ์ให้นานที่สุด ฝ่ายใดคิดว่าตัวเองยื้อสถานการณ์ไว้ได้เปรียบกว่า ฝั่งนั้นก็จะเดินหน้าต่อไป ฝ่ายใดที่ตระหนักว่าตัวเองเสียเปรียบ เมื่อเวลาผ่านไปนานมากขึ้นก็จะรีบชิงดำเนินการในข้อ 1 หรือข้อ 2 ก่อน
และประการสุดท้ายก็คือ ไม่มีใครเห็นว่าจะชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ แต่ก็เห็นว่าสถานการณ์จับมืออย่างนี้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ จึงเห็นประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งก็เกิดยากมาก คือการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่
ภายใต้โมเดล 4 แบบนี้ สถานการณ์ยันมาแบบนี้มาเรื่อย จนกระทั่งถึงปี 2556 ที่จริงสถานการณ์การยัน จุดเปลี่ยนมันจะอยู่ 2 จุด หนึ่ง ภาคประชาชนออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าการขาดกำลังพันธมิตรที่หวาดระแวงฝ่ายตรงกันข้ามระบอบทักษิณที่เข้าสู่อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอดีตคณะรัฐบาลรัฐประหาร หรือฝ่ายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง เอาประโยชน์การพลิกขั้วอำนาจของตัวเองเท่านั้น มันทำให้พลังในการเคลื่อนไหวมวลชนถูกลดทอนไปโดยปริยาย เว้นแต่ว่าคนจะเข้าสู่อำนาจถัดไป เปลี่ยนใจ คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง แล้วมาตกลงกับภาคประชาชน ซึ่งถึงวันนี้ยังไม่เกิดนะครับ
ประการถัดมาก็คือว่า เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนการตุลาการ ซึ่งผมก็ออกรายการคราวที่แล้วว่า มันจะไม่จบแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะว่าพ้นจากนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ถูกชี้มูลโดย ป.ป.ช. หรือศาลฎีกาตัดสินให้มีความผิด สมมุตินะครับ ศาลฎีกานี่ก็ยาวมาก เอาแค่ ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิด ก็พ้นจากตำแหน่งทันที แต่ก็ไม่เกิดสุญญากาศ เพราะรัฐสภาก็จะเลือกนายกฯ คนใหม่อยู่ดี ตอนนี้ก็เตรียมสำรองไว้แล้ว หรือ ส.ส. สภา ส.ว.จำนวนมาก กระทำความผิด และถูกชี้มูลความผิด ฐานไม่ว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญ หรืออะไรก็สุดแท้แต่ ก็ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมอยู่ดี มันก็ไม่จบในคราวเดียวกัน นายกฯ ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนการที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ได้ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ตุลาการไม่ใช่คำตอบ ณ ชั่วโมงนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เหลือแต่กองทัพอันเดียวที่จะมีโอกาสทำให้รัฐบาลมีความสั่นคลอนที่สุด และทำให้กองทัพกลายเป็นองค์กรที่มีอำนาจต่อรองสูงสุดที่อยู่กับรัฐบาล รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องทำให้กองทัพกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดรัฐประหารได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่ปัญหาบานปลายในบ้านเมืองนี้เกิดขึ้นอย่างมากในเวลาตอนนี้
ถ้าจะถามท่าทีในการโยกย้ายครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คุณยิ่งลักษณ์ เขาเรียกว่านั่งควบ นั่งคร่อม 2 ตำแหน่ง ทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ มาเป็นรัฐมนตรีช่วย ทำให้คณะกรรมการโยกย้ายตำแหน่งอัตรานายพล ตาม พ.ร.บ.กระทรวงกลาโหม จาก 6 คน กลายเป็น 7 คน ตรงนี้มีความสำคัญ เพราะว่า 2 เสียง คนของรัฐบาล ผมได้ยินชัดเจนนะครับว่า ในเสียงคลิปนี้เขาชื่นชมคน 2 คนอย่างมาก คือ ผบ.บ. บอกว่าไว้ใจมาก แล้วคนที่พูดว่าไว้ใจมาก คือ นช.ทักษิณ ผบ.สูงสุด บอกว่าเมื่อก่อนไม่ค่อยไว้ใจ แต่ว่าเรียบร้อยแล้ว เป็นที่ไว้ใจ เป็น 4 แล้วครับคุณเติมศักดิ์ ไม่ต้องพูดถึง ผบ.ทร. หรือ ผบ.ทอ.ที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา บอกว่าสามารถควบคุมได้ โดยการให้คนนี้ไปบีบต่อถึงท่านองคมนตรีท่านหนึ่ง
กระบวนการนี้ ถามว่าบทสนทนานี้คุยเพื่ออะไร บทสนทนานี้ ก่อนที่เราจะพูดถึงประโยคนี้ ก่อนที่เราจะมาวิเคราะห์กันว่าใครได้ ใครเสีย ใครที่ต้องได้รับผลกระทบต่อไป ผมอยากตั้งข้อสังเกตว่า ถ้า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นตัวเลือกที่ดีจริง ทำไม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ถึงไม่เป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่คราวนั้น และเป็นมาต่อเนื่องถึงชั่งโมงนี้

เติมศักดิ์- ทำไมต้องมีสุกำพลมาคั่น

ปานเทพ- ใช่ ทำไมต้องมี พล.อ.อ.สุกำพล มาคั่นกลางคัน แล้วชื่อที่มีก่อนหน้านี้ล่ะ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต หรือว่า พล.อ.อ.สุกำพล หรือใครก็สุดแท้แต่ ทำไมถึงได้เอา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว กลับมานั่งตำแหน่งนี้ แล้วเขาพ้นด้วยเงื่อนไขอะไร

เติมศักดิ์- อันนี้จะทำให้เราได้รับคำตอบว่าทำไมเขาถึง ..

ปานเทพ- ต้องพูดอย่างนี้

เติมศักดิ์- พูดอย่างในคลิป

ปานเทพ- เหตุผลที่ผมจะจับตั้งข้อสังเกตก็คือว่า ผมว่าประโยคหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเลยนะครับ ก็คือการพูดถึงชื่อที่พูดถึงไม่ได้

เติมศักดิ์- อ๋อ ...

ปานเทพ- คุณเติมศักดิ์ครับ ถ้าเราพูดถึงชื่อที่พูดถึงไม่ได้ ในคลิปยูทิวบ์ส่วนใหญ่ที่เปิดเผยในเวลาตอนนี้เขาดูดออกนะครับ ฟังให้ดีนะครับ บอกว่า ชายคนที่ 1 ก็คือเสียงที่คล้ายๆ พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่า "ผมก็บอกมันนะครับ ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ. ผมเพิ่งบอก เฮ้ย ปี 57 เนี่ย อย่างอั๊วเลือกทำงานนะ อั๊วคิดว่าอั๊วทำงานเสร็จแล้ว เอาเจ้านายอั๊วกลับบ้านแล้ว คราวนี้ต้องตาลื้อบ้างสิ เพราะฉะนั้นลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น" พูดกับ 2 คนนะครับ ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ. จริงหรือเท็จไม่ทราบนะครับ "แต่วันนี้ลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น แล้วพอปี 57 เอ็งจะได้มีงานทำต่อ ไม่ต้องอยู่แก่เหมือนคนอื่นๆ เขา เพราะมันว่าผมไม่แก่ ผมบอก จะได้ทำงานอย่างนี้ต่อเนื่อง มันก็แฮปปี้ครับ มันไม่ได้บอก No คือปฏิเสธเลย มันก็ เออๆ มันก็เริ่มมองเห็นว่าหลังจากเกษียณไปแล้วมันอาจจะมีอนาคต" สำคัญ ชายคนที่ 2 บอกว่า "ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก" ซึ่งไม่มีทางเป็นตู่จตุพร พรหมพันธุ์ ในประโยคนี้

เติมศักดิ์- ในบริบทนี้ ต้องเป็น ผบ.ทบ.

ปานเทพ- ไว้ใจ แล้วเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดว่า ไอ้ตู่เนี่ย ถ้าฟังอีกนิดเดียวนะครับ พอหลังจากประโยคไว้ใจมาก เสียงที่คล้ายคุณทักษิณพูดสำทับว่า "ใช่ ไว้ใจมาก" ผมจะบอกว่า ในรายละเอียดปลีกเล็กๆ ที่ผมฟัง มันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมากๆ บอกว่า "ไอ้ตู่เขาให้ความจริงใจนะครับ" เสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ "จริงใจมากเลย ตอนแรกกับผมมันก็ระวังมากเลย แต่หลังจาก xxx เรียกมันไป แล้วเรียกผมไปให้รักกันนะครับ ให้ทำงานด้วยกัน ทุกอย่างมันก็เลยเรียบร้อยหมด วันที่ 16 นี้ ผบ.สูงสุด จะเลี้ยงนายกฯ ครับ ที่ บก.กองทัพไทย ก็จะเชิญ ผบ. รอง เสธ.ทุกเหล่าทัพ มาร่วมรับประทานข้าว คุยกันเป็นการส่วนตัวกับนายกฯ ด้วย"

เติมศักดิ์- ตรงนี้บอกอะไรบ้าง

ปานเทพ- ผมกำลังจะบอกว่า เท่าที่การข่าวผมทราบมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า xxx และมามีการพูดคุยกัน พ้นจากนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ถูกย้ายไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ไม่ให้คุมกระทรวงกลาโหม

ชัชวาลย์- อ๋อ

ปานเทพ- ซึ่งพี่ชัชอาจจะพูดรายละเอียดได้ในประเด็นนี้ เท่าที่ได้นะครับ ผมจะตั้งข้อสังเกตอย่างนี้นะครับว่า ถ้าเหตุผลแบบนี้ สัญญาณที่ให้จับมือกัน ตกลง ณ ชั่วโมง ณ เวลาตอนนั้น ที่ไม่ไว้ใจ จนกระทั่งถึงขนาดโยก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไปเป็นรองนายกฯ และหลังจากนั้นไม่มีตำแหน่งอะไรเลยในคณะรัฐมนตรี มันเป็นสัญญาณบวกหรือลบต่อรัฐบาล โอเค ผมก็ต้องสันนิษฐานว่า มันน่าจะไม่ใช่สัญญาณเป็นบวกสักเท่าไรต่อรัฐบาล เพราะฉะนั้นที่บอกว่ารักกัน มันรักกันเพื่อวัตถุประสงค์ฝั่งไหน
เอาล่ะ แต่ทำไมเที่ยวนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กลับมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้

ชัชวาลย์- หลังจากที่เคยถูกเอาออกมาเพื่อให้ พล.อ.อ.สุกำพล เข้าไปแทน

ปานเทพ- ประการแรกก่อน ก็คือท่าทีของ พล.อ.อ.สุกำพล ค่อนข้างรุกเร้า และมีการดำเนินการยุทธวิธีในการยึดกองทัพค่อนข้างออกหน้าออกตา ดูจากการพูดคุยครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนนะครับ ถึงอาจจะลักไก่บ้าง จะไม่บอกกล่าว ไม่พูดคุยเป็นการล่วงหน้าบ้าง ล้วนแล้วแต่เป็นการปรึกษาหารือน้อยกับกองทัพ และจะเล่นลักไก่บ่อยๆ แล้วก็อาจสร้างความร้าวฉาน หรือความไม่ลงตัว เพราะฉะนั้น การที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ศศิประภา จะกลับมาได้ ก็ต้องพูดแบบนี้ พูดอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือพูดว่า ความสัมพันธ์ที่เขามีกับกองทัพ เขาสามารถบรรลุภารกิจ เอา นช.ทักษิณ กลับมายังประเทศไทยได้ ในวงเล็บที่ผมพูดทั้งหมดตั้งแต่ต้นรายการนะครับ เพราะว่าเดี๋ยวจะมีการฟ้องร้องกันอีก ผมอยู่บนสมมติฐานว่า สมมุติว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของทักษิณ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นเสียงอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กำลังพูดเพื่อโน้มน้าวให้เชื่อมั่นว่า เขานี่ล่ะคือคำตอบ เขามีกลวิธีในการจัดการกับกองทัพได้ทั้งหมดแล้ว

ชัชวาลย์- ต้องไม่ลืมว่าบริบทที่คุย วันที่คุยคือ 24 มิถุนายน

ปานเทพ- 24 มิถุนายน

ชัชวาลย์- ซึ่งวันนั้นก็กำลังจะมีการปรับ ครม.

ปานเทพ- รู้ว่ามีข่าวว่าจะปรับ ครม. สถานการณ์รัฐบาลไม่ค่อยดี

ชัชวาลย์- ตอนนั้นก็คงจะเป็นการเขย่าโผกันอยู่ล่ะ

ปานเทพ- ใช่ครับ ไอ้ตอนเขย่าโผ ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2556 อยู่ในสถานการณ์ที่สั่นคลอนอย่างมาก ปัญหาข้าว กลุ่มหน้ากากขาว สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ศาลโลก และอะไรต่อมิอะไรที่กำลังจะออกมาอีกเรื่อยๆ มันมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น จนในที่สุดก็ตัดสินใจเอาภารกิจที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ (ถ้าสมมุติพูดกับทักษิณจริง) เอามาเป็นเกณฑ์ว่า คนๆ นี้ล่ะจะเป็นคำตอบที่พาทักษิณกลับประเทศได้ แต่ก็สำทับด้วยการให้ผู้หญิง 1 คน ทำให้บรรยากาศซอฟต์ลง ตามคำพูดนี้ ก็คือคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมควบด้วย ก็ทำให้ทุกอย่างมันดูลื่นไหลกับเนื้อหาที่พูดอยู่ในขณะนี้มาก
ถ้าเราเห็นชัดเจน เราก็จะนึกต่อว่า วันที่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดถึงสถานการณ์การมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำ 2 คำที่มีความหมาย และผมจะพูดว่าเชื่อมโยงกันด้วย คือ 1. พูดว่า ต้องการให้งานความมั่นคงเป็นเอกภาพ ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจคำว่าเอกภาพคืออะไร ประการที่ 2 ต้องการความรวดเร็ว มีสองคำนะครับ แต่ว่าการที่มี จากเดิมคณะกรรมการ 6 คน เป็น 7 คน หมายถึงเพิ่มตำแหน่งทางการเมืองขึ้นมา 2 ตำแหน่ง คนจะเริ่มคิดเลยว่าฝ่ายการเมืองต้องการจะทำอะไรสักอย่างกับโผกองทัพ ที่มีโอกาสอาศัยมติเสียงข้างมากขึ้นมาได้ นั่นเป็นท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ปรับ ครม.ใหม่ๆ บอกว่า ที่จริงนายกฯ ก็เป็นประธานในทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ไอ้ประโยคสั้นๆ เล็กๆ ที่มีการพูดนี่มันสะท้อนให้เห็นว่า เขารู้ว่าไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริง และอาจกำลังจะเริ่มระแวงว่า มันอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างหรือเปล่า ที่อาจถูกล้วงลูก หรือตำแหน่งที่เกษียณของ ผบ.สูงสุด จะถูกโยกมา มีการเคลื่อนย้ายต่อไปหรือไม่ จึงมีปฏิกิริยานิดหน่อยจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่าที่ผมสังเกตนะครับ
ทีนี้ ถ้าสมมุติว่าเป็นเช่นนั้น คำตอบเราก็จะมาดูต่อว่า ด้วยเหตุผลนี้เอง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงดูเหมือนว่า คลิปที่มีการอัดวันที่ 24 มิถุนายน 2556 ทิ้งช่วงถึง 14 วัน ถึงจะเริ่มปล่อยออกมา

เติมศักดิ์- จาก24 ถึงวันนี้ 14 วัน 2 สัปดาห์

ปานเทพ- ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าเป็นฝีมือนักข่าวจริง ไม่ต้องรอถึง 14 วันหรอกครับ มันหลุดมาตั้งแต่วันแรก เพื่อช่วงชิงว่าใครชิงธงนำ ว่านำเสนอได้ก่อนไปแล้ว ข่าวใหญ่ขนาดนี้ เอ็กซ์คลูซีฟที่สุด ถูกไหมครับคุณเติมศักดิ์ อันนี้โดยสัญชาติญาณนักข่าวอยู่แล้ว แต่การที่รอ 14 วัน รออะไร

เติมศักดิ์- รออะไร

ปานเทพ- รอปรับ ครม.เสร็จจริงๆ

เติมศักดิ์- เพื่อ ?

ปานเทพ- พล.อ.ยุทธศักดิ์ มานั่งตำแหน่งจริงๆ เมื่อนั่งจริงๆ จะมีการมอบหมายภารกิจเตรียมดำเนินการถัดไป ถึงปล่อยออกมาในวันอาทิตย์ ในยูทิวบ์ เราอาจจะไวหน่อยครับ เราก็เอามาลง เพราะว่าที่จริงเราก็พอได้ระแคะระคายก่อนหน้านี้ ว่าจะมีคลิปนี้อยู่ แต่ผมคิดว่าคนปล่อยคลิปคงร้อนใจ กลัวว่าทางค่ายเราจลงหรือไม่ลง จึงลงยูทิวบ์ เพียงแต่เราตาไว หูไว ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ก็เลยเอามาลงข่าวในเว็บไซต์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ เร็วกว่าคนอื่นเขา
ทีนี้ เมื่อถึงสถานการณ์นี้ พอเสียงคลิปออกมาปั๊บ สิ่งที่เราเห็นมันจะเกิดคำถาม 4-5 ประการที่ผมคิดว่าน่าคิดตาม แต่ว่าผมจะยังไม่พูดตอนนี้ เอาเป็นว่าคร่าวๆ เป้าหมายคือพรีเซนต์ตัวเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าฉันทำได้ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ มีกลเม็ดเด็ดพรายเตรียมหลอกเอาไว้แล้ว และพาทักษิณกลับบ้าน และสามารถคุยกับป๋าได้ เพราะฉะนั้นฉันนี่ล่ะคือคำตอบ เพราะอาศัยความสัมพันธ์ที่ดี

เติมศักดิ์- เดี๋ยวจะกลับมาถาม อ.ปานเทพ ว่า คำถามที่ตามมาหลังจากคลิปนี้เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว คืออะไร คุณชัชวาลย์ล่ะครับ มีข้อสังเกตต่อคลิปสนทนานี้อย่างไรบ้าง

ชัชวาลย์- คลิปนี้ผมว่าเป็นคลิปที่คลาสสิคมาก เวลา 30 กว่านาที มันแบ่งเรื่องออกมาเป็นเรื่องใหญ่ๆ และเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ กับต่างประเทศ อยู่ในนี้ครบ มีบุคคลที่เป็นตัวละครในนี้ ผมคิดอย่างนี้ เรื่องที่มี มันมีตั้งแต่จะใช้กองทัพทำประโยชน์ให้ตัว แล้วจะยึดกองทัพ มันมีอยู่ในนี้เต็มครบถ้วน นี่ก็เป็นเรื่องที่หนึ่ง แล้วก็มีการที่จะหาประโยชน์จากพม่าในลักษณะไปครอบงำเขา แบบเดียวกันเลย จะใช้ทหารเหมือนกัน ก็คือต้องไปเอาทหารไว้ก่อน ผบ.สูงสุดของพม่า อีกอันหนึ่งที่เราได้เห็นคือว่า มันสะท้อนถึงความที่คุณทักษิณ .. ในคลิปนี้ ความที่เขาเหลิงในอำนาจ เพราะฉะนั้นเขาจะแสดงอาการ ... เขาเรียก ... อธิบาย จะแสดงความกร่าง ความใหญ่โต ซัดองคมนตรี คนนั้นคนนี้ แล้วก็แสดงให้เห็นคล้ายๆ กับว่ายิ่งคุณยุทธศักดิ์ หรือคุณอ๊อด ถั่งเช่า แกบอกในทำนองว่าป๋ากลัว ผบ.กลัว แกคุยกับ ผบ.บางคนไว้แล้วนะเรื่องนี้ ผบ.ที่คุยไว้ เชื่อว่าน่าจะเป็นคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเขามีการพูดต่อ ว่าในการประชุมสภากลาโหมจะคุย ผบ.คนอื่น เพราะก่อนหน้านี้เขามีการพูดถึงว่า เขากับประยุทธ์ลงใต้ ลงไปแล้วประยุทธ์ดีใจ ได้ลงไปกระซิบกับนายกฯ ปูตลอด เรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง กระซิบรัฐบาล บอก คุณยุทธศักดิ์ ฉะนั้นตรงจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า มันมีวิธีที่เขาเรียก จะหาทางออกให้กับคุณทักษิณ ผมใช้คุณทักษิณนะ ผมจะต่างกับคุณปานเทพ ถ้าจะฟ้อง ฟ้องผม ไม่เกี่ยวกับคุณปานเทพ ยุทธศักดิ์กับทักษิณแน่นอน ในคลิปนี้ ล้านเปอร์เซ็นต์

เติมศักดิ์- ไม่มีข้อสงสัยแล้ว

ชัชวาลย์- ไม่ๆ ผมไม่สงสัยเลย เสียง 1. เรื่องราวทั้งหมดนี่เป็นเรื่องเฉพาะนะ ทางเทคนิคเลย ใครจะรู้บ้างว่า เสธ.แอ๊ว ผ่าตัดสมอง ขาลาก เล่นรัมมี่อยู่กับพญาไม้

ปานเทพ- มีเลขาฯ คนหนึ่ง ดูแลอยู่ เป็นผู้หญิง

ชัชวาลย์- เท่านั้นไม่พอนะ ในนั้นมีบอกเลยนะ บอกว่ายังเป็นผู้บริหารนวนครอยู่นะ ยังทำนวนครอยู่ นายกฯ เคยไปเยี่ยม ดีใจใหญ่เลย เท่านั้นไม่พอ ในนั้น หลายเรื่องของคุณทักษิณก็เป็นเรื่องเฉพาะ เช่น เรื่องคุณสุรยุทธ์ จุลานนท์

ปานเทพ- ไม่มีใครรู้

ชัชวาลย์- ไม่มีใครรู้ ผมรู้ แต่ยังไม่อยากบอก แต่ใช่เลย บอกได้เลย วันนี้ออกมาชัดเจนแล้ว ใครพูดรู้มั้ย เพื่อนคุณทักษิณเอง คุณปุระชัย ออกมาบอกเลยเรื่องนี้มันเกิดตั้งนานแล้ว ทำไมมาพูด แล้วนี่คือเรื่องจริง คลิปนี้คุณยุทธศักดิ์ไม่ปฏิเสธแล้ว เป็นเพียงแต่บอกว่าตัดต่อ ก็ตัดต่อเป็นหลายคลิปเท่านั้น

เติมศักดิ์- ไม่ปฏิเสธว่าเป็นเสียงตัวเอง เพียงแต่บอกว่ามันตัดต่อ

ชัชวาลย์- แรกๆ บอกไม่ใช่ เอาล่ะ เมื่อเป็นแบบนี้เรามาดูต่อว่า ในคลิปทั้งหมดมันเผยให้เห็นถึงกระบวนการของคนที่ไม่เคยได้รักชาติ รักบ้านเมืองเลย เพราะในคลิปมีแต่เรื่องที่จะพูดแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตัว พูดแต่เรื่องจะมีอำนาจ พูดแต่เรื่องจะทำยังไงที่จะทำให้ผลประโยชน์ของตัวได้ และความผิดของตัวหลุดพ้นโดยใช้กองทัพมาทำ พ.ร.บ. , พ.ร.ก.ให้ ใช้สภาความมั่นคง แต่กองทัพเริ่มก่อน เพราะเขาบอกเอาทหารให้อยู่ก่อน ถ้าทหารอยู่แล้วจบ เพราะฉะนั้นทั้งหมดในคลิปนี้มันจะมีกระบวนการทำให้คนเชื่อได้ว่าคนที่เกี่ยวข้องในคลิปนี้มีทั้งคนดี คนเลว คนเลวนั้นผมไม่บอกว่าใคร แต่ฟังแล้วจะรู้เลย ว่าเฮ้ย มันเหมือนกับว่าหลายคนอยู่ในกำมือคุณทักษิณไปแล้ว

เติมศักดิ์- เขายึดได้แล้ว

ชัชวาลย์- เขายึดได้แล้ว อันนี้ก็เป็นอันหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือว่า เกมนี้ทำให้ชาติเสียหายมาก กรณีที่พูดเรื่องพม่า เพราะว่าแบบนี้พม่าเขาจะทำยังไง คุณบอกเลยนี่ ถ้าเอา ผบ.สูงสุดพม่าได้ กับรัฐมนตรีกีฬาอีกคนหนึ่ง พม่าอยู่ในกำมือเลย ยุทธศักดิ์พูด แล้วทักษิณไม่ได้ปฏิเสธนะ ทักษิณแถมบอกอีกรู้จักกับ ผบ.สูงสุด แล้วได้ที่ดินในร่างกุ้งมาด้วย เพราะฉะนั้นทั้งหมดของคลิปนี้ มันเป็นคลิปคลาสสิคที่สะท้อนให้เห็นว่าคนระดับเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นมหาเศรษฐีที่รวย และอีกคนหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหม แล้วตอนนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ กลาโหม ไม่ได้พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ชาติบ้านเมืองและประชาชนเลยแม้แต่คำเดียว นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อนะ ถ้าไม่ใช่กมลสันดาน มีนิสัยแบบนี้นะ มันต้องพูดเรื่องอื่นบางสิ คุณดูในคลิปนี้มีอะไรบ้างล่ะ ในคลิปนี้มีตั้งแต่เรื่องจะใช้กองทัพ จะยึดกองทัพ ลงมาแม้กระทั่งถั่งเช่ามันยังพูดกัน แต่ไม่มีเรื่องดีเลยนะ
เอาล่ะ ผมอยากให้มาดูตรงนี้ด้วยว่า เรื่องใหญ่คือเรื่่องความมั่นคง เพราะว่าพม่าเขาก็มีเครือข่ายเขา เขามีทูตอยู่ในนี้ คำพูดพวกนี้ไม่ได้เป็นความลับ คลิปนี้เปิดกันทั่วหมด เท่ากับว่า คุณทักษิณเคยทำสิ่งเหล่านี้มาแล้ว กรณีที่ให้เงินกู้กับพม่าไปซื้ออิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับโทรคมนาคม แล้วเอากลับมาซื้อสินค้าของตัวเองนั่นล่ะ แล้วสุดท้ายถูกรัฐประหาร คนที่ทำเรื่องนี้กับคุณทักษิณยังติดคุกติดตะรางอยู่เลย ถูกจับอยู่ เพราะฉะนั้นตรงนี้เราจะเห็นเลยว่าคุณทักษิณสันดานไม่เปลี่ยน แถมลงท้ายยังเสนออีกนะ ให้ยุทธศักดิ์ คล้ายๆ ว่าเอาไปเป็นที่ปรึกษาของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์สิ จะได้พิงวัง หนีบเอาไว้เลยตรงนี้ จับเอาไว้เลย ในคลิป ซึ่งความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่แย่มากๆ แย่ตรงไหน แย่ตรงที่ว่า ไม่ได้รู้เลยว่าอะไรมันถูก อะไรมันผิด ในคลิปนี้น่าเสียดายว่าคน 2 คน ซึ่งถือว่าเป็นระดับผู้ใหญ่นะ แต่ในนั้นจริงๆ มากกว่า 2 คนนี้ เพราะมันยังมีทหารบางคนอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งทำให้เราดู ฟังจากคลิปทั้งหมดแล้ว เหมือนกับทหารใหญ่หลายคนอยู่ในกำมือทักษิณหมดแล้วนะ

ปานเทพ- หมดแล้ว

ชัชวาลย์- หมดแล้วด้วย

เติมศักดิ์- อยู่ในขบวนการเดียวกัน

ชัชวาลย์- อยู่ในขบวนการที่จะทำ พ.ร.ก. , พ.ร.บ. จะทำสารพัดเรื่อง แล้วไม่เท่านั้นนะ ถ้าเราดูในคลิปให้ดี เราจะเห็นเลยว่า ที่คุณปานเทพบอก มันมีเรื่องเกี่ยวกับสถาบันอยู่ในนั้น ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้ากันทั้งนั้นเลย ทั้งขบวนการเลย เอาง่ายๆ ผมพอจะรู้ได้มาบ้าง ว่า xxx นั้น ที่คุณปานเทพบอก คือใช่เลย เบื้องสูงทั้งหมด ซึ่งหวังดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างยิ่ง อยากให้บ้านเมืองนั้นไปในทิศทางที่ถูกต้อง แล้วก็ไว้ใจยุทธศักดิ์ แต่วันนี้ยุทธศักดิ์มาพูดสิ่งเหล่านี้ นี่มันทำลายบ้านเมือง แสดงว่าลิงหลอกเจ้าสิ ไปพูดอันนั้นน่ะ แล้วที่คุณปานเทพพูด ถูก ตรงนั้นล่ะครับที่ทำให้เขาต้องออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะทักษิณไม่ไว้ใจ แล้ววันนี้กลับมาทำไมล่ะ กลับมาเป็นรัฐมนตรีช่วยยังเอาเลย คำว่าศักดิ์ศรีไม่มีนะ มาเพราะอะไร เพราะหวังไง ไม่ใช่ว่าคุณไปเที่ยวบอกกับ ผบ.ทบ.ว่า เฮ้ย มึงทำดีกันสิวะ ข้างหน้ามึงอาจจะได้เป็นรัฐมนตรีช่วยเหมือนกูก็ได้ เพราะกูจะเลิกแล้ว แต่ไม่ใช่ ตัวเองก็หวังว่าข้างหน้ากูอยากได้อะไรที่มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงทำให้มารับใช้คุณทักษิณแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเลย

เติมศักดิ์- เขาบอกเขาจะเป็นหนูมาช่วยราชสีห์

ชัชวาลย์- ประเด็นคือ ราชสีห์ตัวนั้นเป็นราชสีห์ชั่วๆ หรือเปล่า คือมนุษย์ ขนาด 76 ปีอย่างคุณยุทธศักดิ์ มนุษย์แบบนี้มันควรจะรู้จักชั่วดี แต่ทำไมจึงไปคบกับคนชั่ว และไปช่วยคนชั่ว แล้วเป็นความภูมิใจในชีวิตด้วยนะ ในวงตระกูลอีกนะ ผมว่าบ้าแล้ว ผู้ชายคนนี้ เพราะฉะนั้นที่ผมเคยมีความรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ ท่าทางจะซื่อ ท่าทางจะใจเย็น ท่าทางจะใจเย็น แต่ดูจากการกระทำเขา คุณเป็นคนปลิ้นปล้อนกระล่อน ขบวนการลิงหลอกเจ้าจริงๆ นี่คือยุทธศักดิ์ ทักษิณน่ะไม่ต้องพูดถึง ไอ้คนๆ นี้เครดิตไม่มีแล้ว
ทีนี้ สุดท้ายผมอยากจะมาตรงนี้สั้นๆ นิดหนึ่งว่า ในนี้มีคนเยอะเลย องคมนตรีก็มี xxx ก็มี และอีกหลายอันอยู่ในนี้ ผมจะให้ดูอันหนึ่ง เขาพูดถึง ผบ.สูงสุด เขาใช้คำนี้เลย เขาบอกว่า "ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่า เมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนทุกเรื่อง" นี่คือหมายถึง ผบ.สูงสุด อ๊อด ถั่งเช่า "ผมก็ชื่นใจ" ไอ้อ๊อดมันชื่นใจ ผมจะบอกให้ มีคำนี้อีกคำ ชายคนที่ 2 หรือทักษิณ พูดมาออกมาอยู่คำ ชายคนที่ 2 พูดอย่างนี้ พูดถึง ผบ.สูงสุดนะ บอก "มันหูเบาน่ะ ติดฟังเรื่องแม่บ้าอะไร บ้าบอ" ผมถามหน่อย คำว่า "แม่" นี่หมายถึงใคร มาได้ยังไง เพราะไม่เกี่ยวเลย

ปานเทพ- ที่เรียกว่า "แม่บ้าอะไร"

ชัชวาลย์- ที่เรียกว่า "แม่บ้าอะไร บ้าบอ" คำนี้มีความหมายมากนะ นี่เป็นคำพูดของไอ้คนที่เขาบอกเสียงเหมือนทักษิณ แต่ผมบอกได้เลยว่ามันคือไอ้ทักษิณนั่นล่ะ เพราะฉะนั้นคำนี้พูดถึง ผบ.สูงสุด ก็คือนี่ไง ชายคนที่ 1 หรือยุทธศักดิ์ บอกว่า "ผบ.สูงสุด ก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุด มาพบกับนายกฯ ได้ เรื่องนี้ด้วย" ชายคนที่ 2 หรือทักษิณบอก "มันหูเบาน่ะ ติดฟังเรื่องแม่บ้าอะไร บ้าบอ" ผมถามซิ "แม่" นี่คือใคร แม่ทำไมโผล่มา คุณจะเห็นเลยนะ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าจะมาเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินฯ มันคือขบวนการหลอกเจ้า ขบวนการหลอกคนเสื้อแดง ขบวนการหลอกคนทั้งประเทศ มันบอกชัดเจน "หลังพิงวัง" ไม่ได้มีจิตใจหรอกที่จะจงรักภักดี ผมถึงบอกว่าคุณทักษิณไม่ได้มีความจงรักภักดี ถ้าจงรักภักดีจะไม่ทำอย่างนี้ มีคนที่ซวยอีกคนหนึ่ง แต่จริงๆ วิชิตซวยนะ เป็นพลเรือนธรรมด เพราะปกติมีองคมนตรี 3 คนในนี้ องคมนตรีคนแรกก็คือป๋าเปรม ประธานองคมนตรี ชลิต พุกผาสุข แล้วก็มีอีกท่านหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่มีอีกคนที่เป็นพลเรือนโผล่มาเฉยเลย เจ๊กลิ้ม
คือสะท้อนให้เห็นอยู่อันหนึ่งว่าไอ้หมอนี่เป็นคนที่แค้นฝังลึกกับแป๊ะลิ้ม ฝังลึกยังไง เพราะว่ามันบอกเลย มันพูดคำนี้นะ อันนี้น่าพูดนะ ผมจะพูดเพราะว่าเราต้องคุยกันให้รู้เรื่องระหว่างทหารกับประชาชน มันบอกอย่างนี้ "มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน แม่ง ไม่จงรักภักดี ใช่ไหม" ยุทธศักดิ์บอก "ไม่มีฮะ ปฏิญาณทุกเช้า เย็น" ทักษิณบอก "ปรากฏว่าไอ้เจ๊กแม่ง จงรักภักดีมากกว่านักเรียนนายร้อยอีก ไอ้เจ๊กลิ้มน่ะ จงรักภักดีกว่านายร้อยอีก" นี่ ทักษิณย้ำอันนี้" ผมอยากจะบอกกับทหารด้วย และทักษิณด้วย ว่า นักเรียนนายร้อยส่วนใหญ่ และทหารใหญ่น้อยในกองทัพที่จบ จปร. ส่วนใหญ่ไม่ได้มีสันดานชั่วเหมือนทักษิณกับพี่อ๊อด เพราะเขาจงรักภักดี เขารักชาติบ้านเมือง เขารักสถาบัน นี่คือความจริงนะ กองทัพอยู่ได้ 2 แสนกว่าคน ส่วนใหญ่จะต้องจงรักภักดี รักชาติ รักประชาชน แต่ถามว่าอย่างทักษิณกับพี่อ๊อด หรือนายอ๊อดเนี่ย ทำแบบนี้ พูดแบบนี้ จะทำกองทัพแบบนี้ เฮ้ย เอ็งรักชาติ รักศาสนาจริงหรือ เพราะว่าจอมทัพคือพระเจ้าอยู่หัวนะ มึงจะยึดกองทัพกันแบบนี้ บอกว่าปี 57 เรียบร้อยเลย ถึงปี 57 เกษียณหมด ถ้าคุณเป็นคนที่รักพระเจ้าแผ่นดิน รักในหลวง ท่านเป็นจอมทัพ ก็ต้องปรึกษาหารือ ไม่ใช่จะทำตามใจชอบ ถูกมั้ยครับ กองทัพไม่ใช่ของพวกคุณนะ
ทีนี้ ตรงเจ๊กลิ้มอยู่ไหนล่ะ มันบอกว่าความรักในหลวง รักชาติ รักประชาชน มันไม่แยกนะว่าจะเป็นทหารหรือประชาชน แล้วบางครั้งต้องบอกได้เลยว่า ประชาชนรักพระเจ้าอยู่หัว รักชาติบ้านเมืองมากกว่าไอ้ทหารบางคน โดยเฉพาะทักษิณ กับยุทธศักดิ์
ลองมาดูสิว่าเจ๊กลิ้ม และเจ๊กอีกเยอะแยะเลยในประเทศไทย รวมทั้งคนไทยที่รักชาติ รักบ้านเมือง เขาต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว เขาต้องเสียภาษีเพื่อให้พวกทหารเขามีเงินเดือน แล้วคนเหล่านี้ไม่เคยได้เครื่องราชฯ สักชิ้นหนึ่ง เจ๊กลิ้มนี่ไม่เคยได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัวนะ แบบพวกทหารบางคนที่บางคนกำลังเล่นลิงหลอกเจ้ากับสถาบัน แต่เจ๊กลิ้มและเจ๊กทั่วประเทศ รวมทั้งคนไทยทั้งหมด เมื่อเห็นว่าทักษิณมีการโกงชาติบ้านเมือง เพราะในหลวงท่านตรัสสอนพวกเรามาว่าอย่าโกงชาติบ้านเมือง ให้เป็นคนดี เมื่อเป็นแบบนี้ โกงชาติบ้านเมือง แล้วยังแถมตั้งขบวนการล้มเจ้า อันนี้ชัดเจน เพราะไอ้คนล้มเจ้าบางคน ชื่อเจ๊เพ็ญ มันเป็นรัฐมนตรีเครือข่ายทักษิณ แล้วยังมีอีกหลายคนที่อยู่ในขบวนการทักษิณ เมื่อเป็นแบบนี้ถามว่านายร้อยอย่างมึง อดีตน่ะ รักเจ้าต้องไม่ไปเลี้ยงพวกล้มเจ้า ทำไมไปตั้งให้เขาเป็นรัฐมนตรี นั่นทำให้ประชาชนเขาทนไม่ไหว ถ้ามึงเป็นรัฐบาลที่ดี ถ้าเขาเป็นรัฐบาลที่ดีนะคุณเติมศักดิ์ คุณสนธิ หรือใคร คุณปานเทพ พวกผม ไม่มีใครไปไล่เขาได้ แต่เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่ไม่ดีไง เมื่อเราเปิดโปงเขา เมื่อเราพูดความจริงเขาก็โกรธ แล้วก็มาทำร้ายเรา เพราะฉะนั้นประชาชนนี่ ถามว่าเขารักพระเจ้าอยู่หัวน้อยกว่าทักษิณหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่า มึงไม่ได้รักด้วยซ้ำ แต่เราสิ เสียชีวิต มีอะไรตอบแทน? ไม่มี เจ๊กลิ้มวันนี้เจ๊งก็เจ๊ง ตายเป็นตาย ถูกยิงไป 200 กว่านัดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้มันจึงเป็นตัวที่พิสูจน์ว่าทักษิณ กับพี่๊อ๊อด กับพวกทหารบางคน ที่เป็นขี้ข้าทักษิณนั่นล่ะ เป็นตัวทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนนายร้อย จปร. เป็นคนทำลายชื่อเสียงของกองทัพ แล้วคนแบบนี้แหล่ะที่ไปหลอกลูกน้องด้วยนะ
เอาง่ายๆ คุณเติมศักดิ์ วันนี้ทหารจากที่เขาทำให้บ้านเมืองสงบ ในกรณีที่ทักษิณเผาบ้านเผาเมือง และเป็นผู้ก่อการร้าย ฆ่าทหาร ยิงร่มเกล้าเสียชีวิต พล.อ.ร่มเกล้า วกนี้กลายเป็นฆาตกร แล้วผมถามว่า ผบ.ทบ.ที่ทักษิณไว้ใจที่สุด ทักษิณพูด ไว้ใจๆ ประยุทธ์นี่เยอะเลย

เติมศักดิ์- ไว้ใจตู่

ชัชวาลย์- ไว้ใจไอ้ตู่นี่ล่ะ ผมไม่รู้ ไอ้ตู่นี่มันต้องไม่ใช่จตุพร ถ้าเป็นจตุพร จตุพรต้องเป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ไอ้ตู่นี่คือ ผบ.ทบ.

เติมศักดิ์- ไว้ใจที่สุด

ชัชวาลย์- ไว้ใจที่สุด แล้วประยุทธ์นี่ บอกเลย ไอ้ตู่มันจริงใจนะ

ปานเทพ- คอนเฟิร์ม 2 คนเลย

ชัชวาลย์- คอนเฟิร์ม 2 คน

เติมศักดิ์- ยุทธศักดิ์บอก

ชัชวาลย์- ยุทธศักดิ์พูดเลย "ไอ้ตู่นี่มันจริงใจ มันจริงใจนะท่าน" จริงใจสิ ก็เพราะจริงใจไง ลูกน้องถึงเป็นเจ้าภาพแบบนี้ไง ถ้าเผื่อว่าจริงใจกับประเทศชาติ จริงใจต่อในหลวง บ้านเมืองไม่เป็นอย่างนี้นะ เรื่องมันไม่เป็นอย่างนี้นะ เพราะรัฐบาลทำแต่ละเรื่อง ถ้าเป็นทหารรุ่นเก่าที่เขารักชาติบ้านเมือง รุ่นเก่านะ เขาไม่ปล่อยรัฐบาลนี้ไว้แล้ว ที่ไม่ปล่อยนี่ไม่ใช่เพราะอะไร ไม่ใช่เขาอยากทำอะไร แต่เพราะรัฐบาลมันทำตัวมันเอง ก็คือทั้งโกง โกงแบบชนิดเรียกว่า ไม่เคยมีครั้งใด ในโลกนี้มีใครจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ในขณะที่ประเทศมีรายได้เพียงแค่นี้ ไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นยังไง จำนำข้าวโกงกันขนาดนี้ เพราะฉะนั้นผมก็สรุปได้สั้นๆ ว่า ในคลิปนี้มันเป็นคลิปคลาสสิคมาก ที่ทำให้เห็นว่าคนชั่วมันกำลังทำงานกันแบบเป็นระบบ เป็นทีม เป็นขบวนการ โดยเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นตัวตั้ง
คราวนี้เราจะต้องพิสูจน์ ถ้าทหารหลายคนที่บิ๊กอ๊อดกับทักษิณชม แล้วก็กำลังดำเนินการอยู่ ถ้าเผื่อบอกว่า ฉันไม่ใช่คนอย่างที่อ๊อดบอก ฉันไม่ใช่คนอย่างที่ทักษิณพูด เฮ้ย ฉันเป็นทหารพระราชา-พระราชินี

เติมศักดิ์- ต้องพิสูจน์ออกมา

ชัชวาลย์- ฉันเป็นทหารของประชาชน พิสูจน์สิ ไม่ใช่พิสูจน์ด้วยคำพูดวันนี้นะ ที่บอกว่าเราทำงานกับรัฐมนตรีช่วยคนนี้ได้ ถ้าแบบนี้ คุณปานเทพตั้งคำถามเมื่อวานแล้ว ถ้าอย่างนี้แสดงว่าพวกคุณเห็นด้วยกับเขาใช่มั้ย เพราะนี่เขาจะยึดกองทัพคุณ เขาจะใช้กองทัพคุณไปแก้ปัญหาส่วนตัวของเขา กองทัพทั้งกองทัพเสียหาย เสียชื่อ พวกคุณไม่สนใจ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า อย่าพูดแต่ปาก อย่ามาทำเป็นปากเก่ง คุณประยุทธ์นี่เวลาเดิน ท่าทางเหมือนทหารหาญ ทุกคนฝากความหวังไว้ที่คุณประยุทธ์นะ คิดว่าโห คราวนี้ทหารเสือมาจริงแล้ว บ้านเมืองใครมายุ่งกับแกไม่ได้ ที่ไหนได้ คุณประยุทธ์แก้ตัวให้รัฐบาลไม่รู้กี่เรื่อง เพราะฉะนั้นมันจึงแสดงว่า คุณเห็นมั้ยในนี้ ไว้ใจ ไว้ใจมี 2 อย่างนะ ผมจะบอกให้ ไว้ใจ 1. ต้องเป็นญาติไอ้ทักษิณ กับอันที่ 2 ต้องพิสูจน์มาแล้ว คือทำงานให้ทักษิณมาแล้วหลายเรื่องจนทักษิณไว้ใจ

เติมศักดิ์- พร้อมรับใช้

ชัชวาลย์- นี่ไง เพราะฉะนั้นทักษิณถึงบอกไว้ใจไอ้ตู่ ไว้ใจที่สุด ผมจะยกตัวอย่างคนที่ทักษิณเกลียด แต่เสือกไปเป็นผัวน้องสาวทักษิณ แล้วทักษิณเกลียดนะ แต่สุดท้าย เกลียดก็เกลียด แต่เป็นผัวน้องสาว สุดท้ายก็ต้องคบกันไว้ ได้เป็นใหญ่ในแบงก์แห่งหนึ่ง เหตุผลเพียงเท่านั้นเอง ก็เพราะเป็นญาติไง กับไอ้คนอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นธาริต สารพัด มึงต้องมีผลงานทำให้กูเต็มที่ หรืออัยการแบบชัยเกษม อย่างนี้รับใช้ ไม่ได้เป็นญาติไม่เป็นไร แต่รับใช้ เฮ้ย ได้ดี พิสูจน์แล้ว ผมไม่รู้ว่า ผบ.ทบ. ผบ.ไหนพิสูจน์อะไรกันไปแล้วหรือยัง

เติมศักดิ์- เพราะฉะนั้นกว่าที่ทักษิณจะหลุดคำว่าไว้ใจใครสักคน

ชัชวาลย์- ไม่มี ไอ้หมอนี้มันเป็นคนระแวงคนที่สุด

เติมศักดิ์- หนึ่ง ญาติ หรือบางคน ญาติบางคนยังไม่ไว้ใจเลย

ชัชวาลย์- ญาติบางคนมันก็ไม่ไว้ใจ แต่ว่าต้องเป็นญาติที่เขาเรียก เหมือน เสธ.แดง

เติมศักดิ์- หรือสอง ต้องรับใช้

ชัชวาลย์- ต้องรับใช้ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่ารับใช้ ผมถึงยังสงสัยไง ผมถึงเป๋ๆ อยู่เหมือนกัน เพราะว่าผมก็รักคุณประยุทธ์นะ แต่ผมก็เป๋ๆ ว่าประยุทธ์ทำไมบางทีเข้ามาช่วยรัฐบาลในเรื่องที่ไม่ควรช่วย เปลืองตัว ไม่เกี่ยวกับแกด้วย คือบางเรื่องไม่เกี่ยวกับทหารเลย แต่ประยุทธ์ .. ถ้าภาษาชาวบ้านเขาบอก เสือกออกมา แล้วกองทัพเสียหาย เท่านี้ครับ

เติมศักดิ์- เราพักก่อน ช่วงหน้ากลับมาดูว่าคำถามที่จะตามมาหลังจากนี้ไป ทั้งในแง่ของการเมืองไทย กองทัพไทย ระบอบทักษิณ ภาคประชาชน ภายใต้บริบทของคลิปสนทนานี้จะเป็นยังไงต่อไป สักครู่ครับ

ช่วงที่ 2

เติมศักดิ์- เข้าสู่ช่วงที่ 2 คนเคาะข่าว วิเคราะห์คลิปเสียงสนทนาของชาย 2 คน สะท้อนการเมืองไทย สะท้อนกองทัพไทย และสะท้อนแนวโน้มของสถานการณ์ในประเทศ ในอนาคตข้างหน้าอันใกล้นี้อย่างไรบ้าง เมื่อสักครู่นี้ค้างไว้ที่เรื่อง คำถามที่ตามมาหลังคลิปนี้ออกมา

ปานเทพ- คือผมเริ่มมีข้อสงสัยว่า ท่าทีที่สังคมภายนอกเข้าใจ อาจจะเข้าใจว่าท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านแสดงออกเหมือนยืนข้างประชาชน แต่ว่าท่วงทำนองที่ทักษิณ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดคุยกัน ราวกับว่ามันจบไปแล้ว อย่างที่คุณชัชวาลย์พูดถึง ว่า การที่ทักษิณพูดว่า "มันหูเบาน่ะ ติดฟังเรื่องแม่บ้าอะไร บ้าบอ" แล้วถ้าประโยคเดียวกันนี้ แล้วบอกว่า ผบ.สูงสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดนะครับ "ผบ.สูงสุด ก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุด มาพบกับนายกฯ เรื่องนี้ด้วย" พูดก่อนหน้านี้อีก ไอ้ ผบ.สูงสุด "ไอ้" นะครับ "ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่า เมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้..." ระหว่างนั้นทักษิณก็พูดอีกเรื่องหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง อาจจะเป็นโทรศัพท์ อะไรสักอย่างเกี่ยวข้องกับมาเก๊า แล้วถึงกลับมา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็อยากจะย้ำอีกว่าฝีมือตัวเองทำให้ทุกอย่างมันสามารถคลี่คลายลงได้ นั่นหมายความว่า ผมก็ต้องตั้งคำถามว่า เอ๊ะ ตกลง "มันหูเบาน่ะ ติดฟังเรื่องแม่บ้าอะไร บ้าบอ" ที่ทักษิณพูด ตกลงท่าน ผบ.สูงสุด ไม่ติดเรื่องนี้แล้วใช่หรือไม่

ชัชวาลย์- ไม่ติดใจเรื่องแม่แล้ว

ปานเทพ- ไม่ติดใจเรื่องแม่แล้ว

ชัชวาลย์- ไม่ฟังแม่แล้ว

ปานเทพ- เป็นอย่างนั้นมั้ย ผมต้องตั้งคำถามนะครับ เป็นคำถามตัวโตๆ "หรือเปล่า" ความสัมพันธ์ที่ดีที่ถึงขนาดบอกว่าไว้ใจตู่มาก ไว้ใจมาก จากทักษิณ แล้วก็สำทับด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ มันต้องมีเงื่อนไขอะไร ทำไมคนถึงจะไว้ใจได้มากขนาดนี้

เติมศักดิ์- เงื่อนไขอะไรที่ทำให้เขามั่นใจ

ปานเทพ- ทำไม ทำไมมั่นใจได้ขนาดนี้ ผมมานั่งทบทวนดูว่าอะไร คือย้อนกลับไปที่เทปที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดบนเวทีที่สนามหลวง

เติมศักดิ์- ที่เปิดตอนต้นเมื่อกี้

ปานเทพ- เราไม่เหลือใครแล้ว วันนั้นเป็นวันที่พันธมิตรฯ โดนระเบิดยิงจากทางกระทรวงกลาโหม ยิงมา แล้วโดนสายไฟ แล้วก็มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย คิดดูนะครับว่า จริงๆ แล้วกองทัพยังยืนอยู่กับหลักการในการเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่หรือเปล่า นี่คือข้อสำคัญนะครับ ประการถัดมาก็คือว่า ผมเริ่มอ่านข่าวย้อนหลังว่าตกลงท่าทีของแต่ละคน ความสัมพันธ์ระหว่าง ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ. ในช่วงที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่าได้รับไฟเขียว xxx แล้ว ตกลงเขามีความสัมพันธ์กันแบบไหน และคนเหล่านี้เขายืนข้างใคร เช่น วันที่ 24 ตุลาคม 2555 วันนั้นก็มีนักข่าวพูดถึงเรื่องม็อบ เสธ.อ้าย ตอนนั้นถือเป็นกระแสแรงมาก พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่า "ผมดูแล้วว่าไม่น่ากลัว รัฐบาลคงเฝ้าดูในส่วนของพรรคพูดกัน ส่วนเรื่องของความมั่นคง และจากที่ผมอยู่ใกล้ชิด และพูดคุยกับ ผบ.ทบ.ก็ไม่เห็นอะไรที่น่ากลัว ถ้าเป็นเรื่องทางการเมือง การชุมนุมทำได้ตามกฎหมาย ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เมื่อซักว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำ และเสี้ยมกองทัพปฏิวัติรัฐประหาร จะทำให้ทหารหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ในคราวนั้นบอกว่า คิดว่าคงไม่ใช้ความอ่อนไหวนี้มาทำงาน เท่าที่คุย ความมั่นใจของ ผบ.ทบ.ก็มีอยู่ คุยกันตลอดเวลา" เห็นมั้ยครับ

เติมศักดิ์- นี่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง

ปานเทพ- แล้วจำได้ไหมครับคนที่บอกว่า ห้ามคนในกองทัพเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบ เสธ.อ้าย

ชัชวาลย์- ใครเป็นคนออกมา

ปานเทพ- ไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดทางวินัย

ชัชวาลย์- อันนี้ผมเติมนิดเดียว แต่ที่สกลนคร แต่งชุดทหารยศพันเอก ประกาศชื่อ พันเอก พันโท ขึ้นเวทีคนเสื้อแดง ไม่เห็นทำอะไร

ปานเทพ- แต่มาตบเท้าที่หน้าเอเอสทีวี ผู้จัดการ ได้ โอเค ตรงนั้นท่านขอโทษแล้วก็แล้วไป ต่ออีกครั้งหนึ่งก็คื เมื่อมีการพูดถึงเรื่องการเคลียร์ใจ วันนั้นเป็นวันที่ 27 พฤษภาคม พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่า ... ตอนนั้นมีการสงสัยว่าจะมีเคลียร์ใจกับ ผบ.ทบ.หรือเปล่า ที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายท่านไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือปลัดกระทรวงกลาโหมหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่า นายกฯ ท่านก็ยืนยันว่าทางรัฐบาลไม่เคยคิดเรื่องย้าย ยังไม่คิด เพราะการปรับย้ายยังไม่ถึงเวลา อีกหลายเดือน ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พูดในฐานะ 3 เหล่าทัพว่า พวกเรา ... หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ พูดนะครับ "พวกเราขอให้นายกฯ สบายใจ เรื่องปฏิวัติอย่าไปวอร์รี่ ขอให้ทางรัฐบาลทำงานบริหารประเทศกันไป เพราะปัญหาการเมืองต้องแก้กันในระบบประชาธิปไตยกันไป" น่าไว้ใจมั้ยครับ น่าไว้ใจนะครับ แล้วก็แสดงท่าที แต่ผมคิดว่าอีกประการหนึ่งก็คือว่า จุดที่ถือว่าเป็นจุดเปราะบางมาก ก็คือเป็นจุดที่ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าสู่กระบวนการไต่สวนคดีคนเสื้อแดงเสียชีวิต และระบุว่าทหารฆ่าคนเสื้อแดง ให้เป็นตราบาป

เติมศักดิ์- คดีกระชับพื้นที่

ปานเทพ- คดีกระชับพื้นที่ ซึ่งผมเข้าใจว่ากระแสก่อนหน้านี้ ระดับสูงของกองทัพจะมีความรู้สึกอึดอัด ว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้ แต่เรื่องนี้ในที่สุดก็ยอมได้ แต่ผมคิดว่ามันมีบริบทหลายครั้ง รวมถึงการรับอำนาจศาลโลก ว่าทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ หลายกระบวนการเหล่านี้ทำให้ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าไว้วางใจมาก ในสายตา ...

เติมศักดิ์- คือด้วยท่าทีแบบนี้ มันนำไปสู่ความไว้วางใจ

ชัชวาลย์- อยู่ในกลางใจทักษิณเลย

ปานเทพ- อาจจะมีมากกว่านั้นที่หลายคนสงสัย ถ้าเกิดไม่มีข่าวเราอาจจะไม่รู้เลยว่า มันมีช่วงเวลาเหลื่อมที่ นช.ทักษิณ บินไปที่อเมริกา แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไปที่เดียวกัน เหลื่อมกันขาเข้า-ขาออก แหม.. ใครจะเชื่อได้ว่าเขาไม่เจอกัน ถ้าเขาไว้ใจกันมากขนาดนั้น

เติมศักดิ์- จำได้ว่า ตอนนั้นมีข่าวว่า ผบ.ทบ.ไปกินข้าวกับท่านทูต

ชัชวาลย์- ผมเติมนิดหนึ่ง แม้กระทั่งยุทธศักดิ์ กับทักษิณ ครั้งนี้ มีความน่าเชื่อถือได้ว่าอยู่ที่สนามบินนั่นล่ะ เพราะมีทั้งเสียงเครื่องบินขึ้น-ลง มีทั้งเสียงแก้ว เหมือนอยู่ในที่ๆ มันอยู่สนามบิน แล้วอเมริกาถนัดในการจัดให้คนเจอกัน เหมือนกับผมอยู่กับ พล.อ.ชาติชาย เขามีวิธีนัดหมายกันในที่ๆ อยากจะปิดลับ ก็มีที่ปิดลับ แค่แฉลบเจอกันนิดเดียว ที่สนามบิน ตรงไหน เขาจัดได้หมด เพราะฉะนั้นคุณจะรู้ได้ยังไงว่าประยุทธ์ไม่เจอกับทักษิณ ผมถามว่า ... ตั้งเป็นคำถาม ปุจฉา

ปานเทพ- ต่อมาก็คือคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม หลังจากที่คุณยิ่งลักษณ์มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเพิ่มโควตาตำแหน่งแล้ว และ ผบ.ทบ.แสดงอาการอึดอัดนิดหน่อยในช่วงแรก วันที่ 1 กรกฎาคม มันน่าจะชัดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าเหล่าทัพสบายใจได้หรือเปล่าว่านายกฯ จะไม่เข้ามาล้วงโผทหาร พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่ากองทัพมีความมั่นใจขึ้น เพราะเท่าที่คุยกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เมื่อเช้านี้ คือวันที่ 1 กรกฎาคม "ทุกคนแฮปปี้"

เติมศักดิ์- ทุกคนแฮปปี้? ใช้ประโยคนี้นะครับ?

ปานเทพ- แฮปปี้เลยนะครับ ก็แสดงว่าเขาคงมีความสุขกันดีกับบรรยากาศอย่างนี้ ผมจะโยงต่อนิดเดียว ก็คือว่า ทำไมถึงแฮปปี้รู้มั้ยครับ เพราะว่าถ้าเราพูดถึงคำสัมภาษณ์ การพูดคุยระหว่าง ข้อสงสัยว่าเป็นคุณทักษิณ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เขาจะพูดเลยว่า ในการโยกย้ายนั้น เขาจะไม่คาน

ชัชวาลย์- พูดชัดเจน

ปานเทพ- ไม่คาน แต่ว่าขอให้คนพวกเดียวกันอย่าเสียกำลังใจ

เติมศักดิ์- ทักษิณบอก "การแต่งตั้งโยกย้ายทหารเที่ยวนี้ต้องดูว่าอย่างไร คือ เราก็ไม่อยากคาน" อันนี้คนที่เสียงเหมือนทักษิณพูดนะ "เราก็ไม่อยากคาน เพียงแต่ว่าอย่าให้เขาไปทำพวกเดียวกันเองเสียขวัญในกองทัพเท่านั้นเอง" .. ไม่อยากคาน

ปานเทพ- ไม่อยากคาน มันมีความหมายก็คือว่า คือเขาไม่ต้องคาน ถ้าเขาไว้ใจมาก

ชัชวาลย์- ก็คือไม่ต้องค้าน ตามสบาย ก็เขาไว้ใจ

ปานเทพ- คือในเมื่อมันมีความไว้วางใจ ผมไม่รู้ว่า ไว้วางใจขนาดไหน ถึงขนาดว่าไม่ต้องคานเลย แค่อย่าให้พวกเดียวกันเสียใจ เสียขวัญ พอแล้ว ไอ้คำว่าไม่ต้องคาน และบวก สำทับกับที่มีบทสนทนาว่า "ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก" นี่นะครับ ผมเชื่อเลยว่ามันเป็น ...

เติมศักดิ์- คือคำว่าไม่ต้องคานนี่หมายถึงว่า ถ้าคานต้องเอา ....

ชัชวาลย์- ก็คือเขาไม่ไว้ใจคุณประยุทธ์ เขาต้องเอาคนของเขาเข้าไปคาน

ปานเทพ- ต้องแทรกเข้าไป เพื่อมีการปรับโผ ยันกัน วางำแหน่งกัน

เติมศักดิ์- คือเอาคนของตัวเองแทรกเข้าไปคาน เช่น เอาไปคาน ผบ.ทบ.ประยุทธ์ เพราะไม่ไว้ใจประยุทธ์ ก็ต้องหาคนไปคาน

ชัชวาลย์- ใช่ รอง ผบ.ของกู นี่ผู้ช่วยกู .. คานกันอยู่ในนั้น

เติมศักดิ์- อ๋อ หมายถึงว่าเอาคนของตัวเองไปอยู่ในไลน์ เพราะฉะนั้นเดิมทีที่คนเข้าใจว่าการเพิ่มจาก 6 คน ในคณะกรรมการมาเป็น 7 คน และเพิ่มรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม 2 ตำแหน่ง เป็นฝ่ายการเมือง เราเริ่มเห็นสัญญาณว่าเขาน่าจะไว้ใจ ผบ.ทบ. เดิมทีเขาอาจจะเข้าใจผิด นึกว่า ผบ.ทบ.อาจจะอยู่ข้างตรงกันข้ามกับรัฐบาล แต่ถ้าเขาอยู่ข้างเดียวกัน เขาเป็นเนื้อเดียวกัน บางคนบอกว่าเขาต้องการตำแหน่งอีกตำแหน่งหนึ่งคือรัฐมนตรีช่วย เพื่อให้เป็น 4 ต่อ 3 แต่ถ้าดูอย่างนี้ ผมว่า 7 : 0 แล้วฟังจากคำพูดเขา ถ้าเป็นอย่างนี้ ลองคิดดูนะครับ ไล่มาทีละตำแหน่งเลย ผบ.สูงสุด ไม่มีใครพูดถึง ไม่ติดฟังเรื่องแม่แล้ว เพราะว่าไว้ใจแล้ว อีกคนหนึ่งก็ไว้ใจมาก เพราะว่า ... ไว้ใจอย่างมากๆ จากทั้งทักษิณ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ หลังจากที่ xxx คุยกัน ไว้ใจแล้ว

เติมศักดิ์- ธนะศักดิ์ ประยุทธ์

ปานเทพ- ผบ.ทร.ก็เตรียมเกษียณ เตรียมหาคนใหม่เป็นคนที่รู้จักกันดีกับคนในครอบครัว

ชัชวาลย์- อมรเทพ

ปานเทพ- อมรเทพ ไม่น่ามีปัญหา ถึงแม้อาจจะขัดกันหน่อย ก็คงไม่กล้าขัดขืนอะไรมาก แล้ว ผบ.ทอ.ก็บอกว่า ... เอ๊ะ ผมไม่ได้คิดว่า ผบ.ทอ.น่าจะ อาจจะมีความขัดแย้งกันอยู่บ้าง แต่ดูจากคำสัมภาษณ์นี้ กลายเป็นเครื่องมือ ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ ...

ชัชวาลย์- ไม่รู้จริงหรือไม่นะ

ปานเทพ- ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ก็หมายความว่าเขาถูกเลือกข้างให้เป็นฝ่ายบีบรุ่นพี่

ชัชวาลย์- ก็อันนี้ชัดไง

ปานเทพ- พล.อ.อ.ชลิต

ชัชวาลย์- ประจินนี่เมื่อก่อนเป็นมือของชลิต แต่ดีแล้วที่เราได้ประจิน

ปานเทพ- คำว่าได้ ...

ชัชวาลย์- ก็คือได้อยู่ในมือไง ได้แล้ว ได้ประจิน แล้วเราใช้ไอ้ประจินไปบีบไอ้ชลิตข้างบนอีกที ซึ่งมันเป็นไอ้องคมนตรีนะครับ ไอ้ชลิต ถึงแม้มันจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปทำปฏิวัติคราวนั้น แต่มันก็ยังต้องพึ่งไอ้ประจินอยู่ เพราะฉเะนั้นเราคุมไอ้ประจินไว้ เพื่อให้ชลิตมันอ่อนยอมลง

ปานเทพ- อ่ะ หมดแล้วนี่ครับ นับแล้วมันไม่เหลือใครแล้ว

เติมศักดิ์- ผบ.ทบ. , ผบ.ทร. , ผบ.ทอ. , ผบ.สส.

ปานเทพ- ปลัดก็ไม่ได้คุมกำลัง ไม่มีอำนาจในมือ ผมว่ามัน 7 : 0

ชัชวาลย์- คือถ้าที่เขาพูดจากคลิปนะ มันควรจะ 7:0 ยกเว้นเขาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาลับลวงพราง

ปานเทพ- โอเค ทีนี้ 7:0 มันก็เปนเอกภาพนะครับ นี่ไง เขาบอกว่าต้องการเป็นเอกภาพ ต้องการรวดเร็ว ที่คุณยิ่งลักษณ์พูดบอกว่ามานั่งรัฐมนตรีควบ จริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีตัวเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้ เพราะมันเป็นเอกภาพอยู่แล้ว แล้วอะไรที่ต้องการเอกภาพ ผมว่าเขานั่งไปเพื่อให้เกิดความเกรงใจในเรื่องอื่น เรื่องอื่นที่ว่านี้ ที่ต้องการเอกภาพก็คืออาศัยสภากลาโหม ประทับตรา พ.ร.ก.

ชัชวาลย์- คือน้องมาคุมเอง

ปานเทพ- แล้วส่งเรื่องต่อ เป็นเอกภาพไง แล้วส่งเอกภาพที่ว่านี้ไปยังที่สภาความมั่นคงฯ แล้วให้สภาความมั่นคงฯ เสนอเป็นพระราชกำหนด โดยอ้างว่า ผบ.เหล่าทัพ เห็นชอบผ่าน พ.ร.บ. เป็นพระราชบัญญัติแล้วโดยหลักการย่อมถือว่าเห็นชอบด้วย เมื่อเห็นชอบด้วยแล้ว จึงเสนอเป็นพระราชกำหนด

ชัชวาลย์- เพื่อความไม่วุ่นวาย

ปานเทพ- เพื่อความไม่วุ่นวาย และเห็นว่าเป็นความมั่นคง

ชัชวาลย์- แล้วในสภาความมั่นคงฯ นายกฯ เป็นประธาน มีรัฐมนตรีหลายคน เสียงข้างมากเป็นของเขาหมด

ปานเทพ- ต้องการเอกภาพไง เมื่อเป็นเอกภาพแล้วใช่มั้ย คุณ 7:0 แล้วใช่มั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนแล้ว ไว้ใจมากแล้ว คนนั้นก็ดึงคนนั้นแล้ว ถ้าสมมมุติเป็นจริงแบบนี้ ก็หมายถึงว่าเขาคิดว่าสามารถดำเนินการได้ด้วยวิธีการแบบนี้ จึงสอดคล้องกับที่คุณยิ่งลักษณ์พูดว่า ที่ต้องการคือเอกภาพและความรวดเร็ว

ชัชวาลย์- ซึ่งไม่ใช่เรื่องบ้านเมืองนะ

ปานเทพ- ไม่เกี่ยวกับบ้านเมือง

ชัชวาลย- เป็นเรื่องของพี่ชาย

เติมศักดิ์- แสดงว่าเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายมันเป็นเรื่องรองแล้ว

ปานเทพ- ไม่ใช่ประเด็นแล้ว

เติมศักดิ์- การที่คุณยิ่งลักษณมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เพื่อเอกภาพนี่เอง

ปานเทพ- เอกภาพ

ชัชวาลย์- เรื่องนี้ โดยตรง

ปานเทพ- เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุด เกือบจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง รีเทิร์นได้มาอีกครั้งหนึ่งด้วยสายสัมพันธ์แบบนี้

เติมศักดิ์- ก็เป็นเหตุผลที่ว่า เหมือนเขาเจอซอยใหม่แล้ว สุดซอยของเฉลิม

ปานเทพ- ทำไม่ได้ วิธีนี้จะไม่มีเฉลิม เหตุผลเพราะว่าถ้าตราเป็นพระราชกำหนด โดยอ้างงานความมั่นคง ก็ต้องมาจากงานความมั่นคง เพราะถ้าเป็นคนอื่นมันไม่ฉุกเฉิน หรือปัญหาเศรษฐกิจร้ายแรง ก็ไม่ได้ มันก็ต้องเป็นปัญหาด้านความมั่นคงเป็นผู้เสนอ จึงอาศัยเหตุความมั่นคง ทั้งกองทัพ ทั้งสภาความมั่นคงฯ แล้วเสนอเป็นพระราชกำหนด และก็ต้องไปขอความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่งจากสภาผู้แทนราษฎร ถ้าสภาไม่เห็นชอบก็มีผลเป็นอันตกไป แต่ผลแห่งการกระทำนั้น เมื่อนิรโทษกรรมแล้ว สิ้นสุดทันที ได้ผลทันที ไม่สามารถไปทำอะไรได้อีกย้อนหลัง ดังนั้นกระบวนการนี้ถือเป็นการเล็งเห็นอยู่แก่ใจว่า ตั้งใจใช้เป็นพระราชกำหนด เพราะรู้ว่าถ้าเป็นพระราชบัญญัติ ประชาชนออกมา มีโอกาสประท้วง รู้ล่วงหน้าก่อนได้
เอาล่ะครับ สำคัญคือเวลานี้ที่ผมพูดออกอากาศตอนนี้ ท่าน ผบ.เหล่าทัพ หนึ่งในคณะกรรมการ 7 คนนี้ พวกท่านรู้แล้วใช่ไหมว่าจะมีกระบวนการดังกล่าว ตกลงจุดยืนของพวกท่าน

ชัชวาลย์- ว่าอย่างไร

ปานเทพ- จะเอายังไงกับเรื่องนี้ ข้อนี้ล่ะ ว่า ตกลงในเรื่องของแม่ ในเรื่องของไว้วางใจสูงสุด ในเรื่องของที่ท่านพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือให้เขาใช้สภากลาโหม และผ่านสภาความมั่นคงฯ ผบ.เหล่าทัพมีจุดยืนอย่างไร ต้องแสดงตนออกมา ถ้าไม่แสดงตน ผมก็อาจจะคิดเอาได้ว่าพวกท่านถูก

เติมศักดิ์- ถูกยึดไปแล้ว

ปานเทพ- ถูกซื้อตัวไปแล้ว ไม่รู้ใครนะครับ คนไหนก็ไม่รู้ ผมอาจจะคิดอย่างนั้นก็ได้นะครับ ว่าพวกท่านถูกซื้อตัวไปแล้ว ถึงไม่กล้าออกมาปฏิเสธ เพราะมันเป็นเรื่องที่เขารับเงื่อนไขกันไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าออกมาก็คือว่า จะกระเทือนรัฐบาล จะกระเทือนทักษิณจะไม่พอใจ ก็เลยไม่กล้าปฏิเสธ จะไปตอบรับ ก็คงไม่ได้ เพราะกลัวประชาชนจะรู้ หรือกลัวผู้ใต้บังคับบัญชาจะรู้ ดังนั้น นิ่งๆ เอาไว้ ไม่กล้าแสดงออก ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้เสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง จะใช้กองทัพเป็นเครื่องมือ และข้อสำคัญ ผมเห็นว่าที่กองทัพต้องแสดงออก ถ้าไม่แสดงออกแสดงว่าพวกท่านลืมจุดยืนไปแล้ว

เติมศักดิ์- จุดเปลี่ยนมันมาเกิดเพราะมีคลิปออกมา เราลองจินตนาการว่าถ้ามันไม่มีคลิป

ปานเทพ- เราจะไม่มีทางรู้เลยคุณเติมศักดิ์

ชัชวาลย์- เขาบอกสยามเทวาธิราชทำงาน

ปานเทพ- และที่สำคัญนะครับ กรณีการพูดถึงอำนาจต่อรองของตัวเอง ว่าตัวเองจะถูกเงื่อนไขให้มองว่าเป็นคนจงรักภักดี ก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขให้ฉันกลับบ้านในประเทศไทยโดยไร้ความผิด ภายใต้กระบวนการนี้ ถึงจะบอกว่าฉันจะจงรักภักดี ด้วยการเสนอให้ฉันไปเป็นที่ปรึกษาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กลายเป็นเรื่องส่วนตัว ผมยังบอกเลยว่า ไอ้คนแบบนี้ มันเห็นแก่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญที่สุด คือ 1. เอาแต่ได้ 2. ถ้าจะคิดว่าฉันจะจงรักภักดี ก็ต้องมีเงื่อนไขแบบนี้ใช่หรือไม่ ว่าให้ฉันกลับโดยที่ไม่มีความผิด และพลัส พร้อมจะไปเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ไม่ต้องมีกลุ่มเคลื่อนไหวมาต่อต้านสถาบัน คือถ้าผมพูดอย่างนี้ก็คือ เป็นการจงรักภักดีแบบมีเงื่อนไขต่อรอง ผมย่อมมีสิทธิตั้งข้อสงสัยแบบนี้ได้
ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเข้าใจว่า ถ้ามีกระบวนการแบบนี้ คำถามคือ ผบ.เหล่าทัพ พวกคุณยืนอยู่ได้ยังไง พวกคุณยืนอยู่ได้ยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ที่เขาจะมองสถาบัน เรื่องการจงรักภักดีกับกระบวนการทั้งหลาย พวกคุณยืนอยู่เฉยๆ โดยไม่แสดงออก นิ่งเฉย เขาเรียกว่า "พูดไปสองไพเบี้ย นิ่ง เสียประเทศไทย" หมายถึงว่าเสียทั้งประเทศเลยนะ ผมว่าสถานการณ์นี้ ถ้าไม่แสดงจุดยืนอะไรออกมาเลย พวกท่านมีจุดยืนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ยังไง จะบอกว่าทหารไม่เกี่ยวกับการเมืองไม่ได้แล้วนะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องการทำลายหลักนิติธรรม เป็นเรื่องของการต่อรองกับอำนาจที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กองทัพอยู่เฉยได้ยังไงในการปฏิญาณตน และข้อสำคัญที่สุดผมกลับมาคิดว่า ในกระบวนการที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า ถ้ากองทัพไม่แสดงท่าทีออกมา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ต้องลาออก 2 เงื่อนไขนะครับ แปลว่าเขาไม่แยแสหรอกครับ เขามั่นใจมากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ต้องลาออก เดินหน้าต่อไป เพราะพวก ผบ.เหล่าทัพ อาจจะรู้เห็นเป็นใจและพร้อมเดินหน้าต่อโดยไม่แคร์สังคม เพราะเขาพูดนี่ครับว่า เดี๋ยวนี้คนมันไม่เยอะแล้ว ฝ่ายต่อต้านมีน้อย ถ้าไม่มีทหารเนี่ย ไม่มีปัญหาเลย ก็แปลว่าพวกเขากำลังยึดกองทัพเพื่อยึดอำนาจประเทศในท้ายที่สุด

เติมศักดิ์- ทหารไม่เอาด้วยก็จบ

ชัชวาลย์- คือมันมีต่อตรงทหารไม่เอาด้วยก็จบ ทหารไม่เอาด้วย กับเรื่อง พ.ร.ก.นี่ก็จบ เพราะงั้นมันจะมี ทหารไม่เอาด้วยก็จบ ต้องเอาทหารก่อน ผมถึงบอกต้องเอาทหารก่อน คือสรุปแล้วทหารน่ะตัวสำคัญ มันมาต่อตรงนี้ครับ มันมาต่อตรงที่บอกว่า มันเป็นหน้าที่พี่นะ พี่เอาผมออก พี่ต้องเอาผมกลับ ก็คือหมายถึงพวกทหาร เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมมองว่า ผมเสริมคุณปานเทพนะว่า ตรงจุดนี้มันสะท้อนชัดเลยว่ามันเป็นกระบวนการที่เขาเรียก คุยกันจนเขาจะเดินกันแล้ว เผลอๆ เขาเดินกันไปแล้ว เพราะว่ากรณีคุณยิ่งลักษณ์มาเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหม เราดูในตรรกะทหารไม่ควรจะยอมรับได้ในหลายเรื่อง คุณยิ่งลักษณ์ไม่เคยมีผลงานอะไรความมั่นคง แผนคุณยิ่งลักษณ์ทำให้รู้เลยว่าเราจะเสียดินแดนให้เขมรแน่ เพราะคุณยิ่งลักษณ์ประกาศนี่ ศาลโลกตัดสินยังไงเอาตามนั้น แล้วมาเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหม ครอบครัวคุณยิ่งลักษณ์เป็นญาติกับครอบครัวของคุณฮุน เซน ไง แต่ทหารเฉย ผมถึงตั้งคำถามว่าทำไมเขมรมายึดแผ่นดินไทยเราได้ ยึดได้ก็เพราะว่าทหารเรามีปัญหา ตรงหัวๆ นะครับ ยังยืนยันนะครับว่ากองทัพและนักเรียนโรงเรียนนายร้อยส่วนใหญ่จงรักภักดี มีเฉพาะบางคน ซึ่งไปจับมือกับทักษิณ เห็นแก่ลาภยศเงินทอง ตำแหน่ง และหลายๆ อย่าง จึงทำให้เสียชื่อโรงเรียนนายร้อย จปร.และกองทัพไทย

เติมศักดิ์- ถ้านักข่าวถาม คุณจะมาใช้คำตอบแบบ "อย่าเอาการเมืองมายุ่งกับทหาร อย่าเอาการเมืองมายุ่งกับกองทัพ ผมไม่รู้เรื่อง"

ปานเทพ- คุณกำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองอยู่แล้ว

ชัชวาลย์- ไม่ มันกำลังเล่นการเมืองกันอยู่ นี่ล่ะเป็นนักการเมืองใส่เสื้อสีเขียวเท่านั้นเอง

เติมศักดิ์- นักการเมืองในเครื่องแบบ

ปานเทพ- คือถ้าตราบใดพูดประโยคนี้ออกมา ทั้งๆ ที่มีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการล้างความผิดก็ดี หรือการพาดพิงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วยังมีหน้ามาพูดบอกว่าอย่าเอาเรื่องการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับทหาร ผมว่ามันเป็นความไร้ความรับผิดชอบ และเป็นการเอาตัวรอด เพราะไม่อยากแสดงจุดยืนว่าตัวเองแสดงจุดยืนยังไง แต่เวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขา มันแสดงจุดยืนหลายพฤติกรรมจนเขาไว้วางใจขนาดนี้

ชัชวาลย์- อีกฝ่ายหนึ่งไว้วางใจ อีกฝ่ายชม

เติมศักดิ์- คุณชัชวาลย์คาดหวังกับการแสดงจุดยืนของกองทัพ หรือผู้นำเหล่าทัพยังไง

ชัชวาลย์- ผมว่าครั้งนี้เป็นคลิปที่คลาสสิคที่มันชัดเจนมากว่า เช่น เขาพูดเลยนะว่า ปี 57 ยึดสามเหล่าทัพ คือเขาบอกปีหน้าเกษียณหมด คือปี 57 พอ 57 เกลี้ยงทุกเหล่า นี่ทักษิณพูด ยุทธศักดิ์บอก ต้องเอาเองเลย ยุทธศักดิ์บอกเลือกเอาเองสบายๆ ไม่ต้องไปสนใจใครเลย คือมันชัดว่า ...

ปานเทพ- ต้องเข้าไปยึด

ชัชวาลย์- มิติของความมั่นคงของกองทัพคุณอยู่ที่ไหน เอาอย่างี้ กองทัพมีหน้าที่ดูเรื่องความมั่นคงใช่มั้ย มิติความมั่นคงนี่มันหลากหลายนะ มันไม่ใช่แค่เรื่องโดนยึดดินแดน มันทีทั้ง 1. นักการเมืองจะเข้ามายึดกองทัพ แล้วเป็นนักการเมืองที่ไม่ดีด้วย แต่พวกยังเฉย มิติที่ 2 นักการเมืองจะทำให้บ้านเมืองเสียหายด้วยการบริหารชาติ กองทัพก็เฉย เมื่อเป็นแบบนี้มันจึงทำให้ผมมีความรู้สึกว่าที่พันธมิตรฯ เขาไม่ออก ภายใต้ทหารแบบนี้ ผบ.เหล่าทัพแบบนี้ ไม่แยแสบ้านเมืองกันยังไง เขาจะมายึดกองทัพคุณ นักการเมืองชั่วๆ จะมายึดกองทัพคุณ คุณก็ไม่มีอะไร คุณเฉยหมดเลย แล้วแบบนี้คุณออกไปคุณเจออะไรล่ะ คุณเจอแบบเสธ.อ้ายไง ทำไมคุณเฉลิมถึงกล้า คำรณวิทย์ถึงกล้ามาเล่นงาน เสธ.อ้าย เอาตำรวจมาเต็มแบบนี้ ถ้าไม่ได้รับสัญญาณจากกองทัพ หรือผู้นำกองทัพ ไม่ใช่กองทัพ ผู้นำกองทัพบางคน ผบ.เหล่าทัพบางคน ว่า ไม่มีปัญหา ฟาดเลย ทหารไม่ทำอะไร ในขณะเดียวกัน ทหารบางคนไปพูดกับกลุ่ม เสธ.อ้าย บอก ถ้าตำรวจปราบเมื่อไรพวกเราไม่ยอม เราไม่ยอมให้ตำรวจปราบประชาชน ประเด็นคือว่าประชาชนจะตายสักเท่าไรมันถึงจะ ... แต่ไม่ใช่หรอก นั่นคือคำพูด กับอีกคนพูดอย่าง เพราะงั้นเมื่อเป็นแบบนี้ มันไม่มีสิ่งที่จะทำให้บ้านนี้เมืองนี้มันจบลงได้ คุณเอาหน้ากากขาวไปเดินเท่าไรล่ะ มีฤทธิ์ตรงไหน เพราะอะไรรู้มั้ย คลิปนี้ต่างหากที่มีฤทธิ์ วันนี้เอเอสทีวีอยู่เฉยๆ เผยแพร่คลิปนี้ออกไป มีพลังมหาศาล ไม่ใช่เอเอสทีวีคนเดียว 13 สยามไทย ทีนิวส์ออก หนังสือพิมพ์ออกกันหมด คุณคิดว่า นี่ยิ่งกว่าเดินขบวนอีกนะ แต่เหล่าทัพยังเฉยเลย นี่มันเขาเรียกว่าเปิดโปงให้เห็นธาตุแท้ของคนสองคน ที่กำลังทำอะไรกับชาติบ้านเมือง
เหล่าทัพบางคนออกมาบอกว่า เรายังอยู่กันได้ ไม่มีปัญหาอะไร เข้าใจกัน ถ้าแบบนี้แล้ว บ้านนี้เมืองนี้ ทหารจะเป็นหลักของชาติ หรือทหารเป็นไม้หลักปักขี้เลน ผบ.เหล่าทัพบางคนเป็นไม้หลักปักขี้เลน แต่กองทัพยังเอาในหลวงอยู่ ผมเชื่อ นักเรียนนายร้อยยังจงรักภักดีอยู่ แล้วไอ้เจ๊กลิ้มกับเจ๊กทั่วประเทศ ประชาชนทั้งประเทศ ยังจงรักภักดีอยู่ เพราะฉะนั้นเอาให้ชัดนะ อย่ามาพูดบอก เฮ้ย เจ๊กลิ้มมันรักในหลวงมากกว่านักเรียนนายร้อย นักเรียนนายร้อยชั่วๆ อย่างมึงน่ะ เจ๊กลิ้มรักมากกว่า

ปานเทพ- คือประโยคนี้ผมเสริมนิดหนึ่งแล้วกันนะครับ มันสะท้อนให้เห็นว่า มีที่มีข่าวว่าคนที่รับเงินทักษิณมันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำพูดประชดแดกดันแบบนี้ ข้อแรกนะครับ ข้อที่ 2 ก็คงไม่มีเอเอสทีวี ผู้จัดการ มาเปิดเผยเรื่องนี้เพื่อล้มขบวนการดังกล่าว ประเด็นเรื่องจริงหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะครับ อันที่ 3 ผมอยากตั้งคำถามว่า คนที่ถูกชมมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ผบ.สูงสุด ท่านเปลี่ยนจุดยืนแล้วหรือยัง อย่างที่เขาพูด ผบ.ทบ.ท่านเอื้อเฟื้อต่อเขาจนกลายเป็นผู้ไว้วางใจที่สุดแล้วหรือยัง แล้วท่านมีคำตอบอะไร หรือเป็นเพียงจริงท่านเลยนิ่งเงียบ เรียกว่าเป็นกฎหมายปิดปาก หรือสาม ก็คือ ผบ.ทอ.ตกลงท่านเป็นเครื่องมือในการบีบองคมนตรีจริงหรือไม่ม ท่านต้องพูดออกมา ถ้าท่านไม่พูดก็แสดงว่าท่านไม่กล้าเผชิญหน้า ไม่กล้าท้าทายกับอำนาจรัฐที่เขาพูดออกมา และยอมรับสภาพว่ามันเป็นจริง จึงไม่กล้าออกมาปฏิเสธ
ประการถัดมาก็คือว่า คนที่ถูก เตรียมจะเป็น ผบ.ทร. ตกลงการประกาศชื่อก่อนที่เป็นอมรเทพ โดยเอาความสัมพันธ์เครือญาติ ตกลงคนในกองทัพเรือ พวกท่านยินยอมกันใช่มั้ย ผบ.ทร.ที่ท่านไม่เห็นด้วย ท่านจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้

ชัชวาลย์- จะได้ไปลงอ่างน้ำ โพไซดอน

ปานเทพ- จะได้ไปที่อาบอบนวดกันใช่มั้ย หรือว่ายังไง จะไม่แสดงจุดยืนให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความมั่นใจ จะปล่อยให้การเมืองเข้ามาครอบงำอย่างนี้ต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่เป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน พวกท่านเฉยๆ ใช่มั้ย หรือเพียงเพื่อเอาตัวรอด ประการที่ 3 ก็คือว่า ตกลงเรื่องสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่จะเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ยุทธศักดิ์ พร้อมแล้วหรือที่จะพูดกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พวกท่านพร้อมแล้วหรือ แล้วมีแสดงจุดยืนยังไงกับเรื่องแบบนี้ ทำไมถึงยินยอมกับเงื่อนไขแบบนี้ที่จะเอา นช.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศ โดยออกเป็นพระราชกำหนด ถ้าปฏิเสธว่าคลิปนี้ไม่ใช่ของจริง แสดงจุดยืนมาว่าจะไม่ทำแบบนี้โดยเด็ดขาดในการผ่านสภาความมั่นคงฯ เอาทักษิณกลับประเทศโดยไร้ความผิด

เติมศักดิ์- ต้องกล้าประกาศ

ปานเทพ- ต้องกล้าประกาศ เช่นเดียวกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องประกาศ ถ้าคิดว่าคลิปนี้จริงหรือไม่จริง ไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับว่าจะใช้เป็น พ.ร.ก.ในการล้างความผิดให้กับทักษิณหรือไม่ ประการถัดมา ที่ต้องตั้งคำถามก็คือเรื่องของพม่า ที่จะใช้ ผบ.สูงสุด ใช้อีกแล้วนะครับ เป็นตัวเดินเกมเรื่องผลประโยชน์ที่ทวาย ตกลง ผบ.สูงสุดท่านจะนิ่งเงียบอย่างนี้ต่อไป จะยอมให้ถูกครหาว่าเป็นเครื่องมือให้กับระบอบทักษิณในการแสวงหาผลประโยชน์ต่อไปจริงหรือไม่ และประการสำคัญก็คือว่า ที่หลายคนเขาสงสัยกันมานานว่า ทำไมโครงการน้ำถึงลงทุนอย่างมหาศาล เกินความเป็นจริงไปมาก ทั้งๆ ที่มีบทวิเคราะห์และงานวิจัย ไม่ว่าจากไจก้าก็ตาม ให้ผันน้ำไปทางตะวันออก และส่วนใหญ่อยู่ที่การบริหารจัดการในการปล่อยน้ำเป็นหลัก ทำไมถึงมาทำที่ฝั่งตะวันตก คือใกล้พม่า เหตุเพราะว่าการขุดคลองเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างถนนสายใหม่เกิดขึ้น และระบายน้ำบริสุทธิ์ หรือแหล่งน้ำใหม่เกิดขึ้น ให้มันต่อเชื่อมกับทวาย ใช่หรือไม่ นี่ไง งบประมาณอันมหาศาล หนี้อันมหาศาลที่เราต้องแบกรับตอนนี้ ก็คือการวางโครงสร้าง...

ชัชวาลย์- ประโยชน์เขาหมดเลย

ปานเทพ- ประโยชน์ทั้งกระบวนการ คมนาคมทั้งหมด มันเชื่อมโยงกับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นต่อไป ด้วยทั้งหมด ตกลงคนไทยจะยอมอย่างนี้ต่อไปหรือไม่ แล้วพม่าจะยอมตกเป็นเครื่องมือโดยอาศัยทหารคนหนึ่งในการคุมกำลัง แล้วปล่อยให้ผลประโยชน์อยู่กับ นช.ทักษิณ และกลุ่มคนเหล่านี้จริงหรือไม่ ผมว่านี่คือคำถามที่สังคมทุกส่วนภาคต้องตอบ โดยเฉพาะคนเสื้อแดงก็ต้องตอบคำถามด้วยว่า ตกลงยังอยากสนับสนุนคนแบบนี้ต่อไปหรือเปล่า ที่วันดีคืนดีพร้อมจะจับมือกับใครก็ได้ที่ขอให้ตัวเองกลับประเทศไทยได้ และพร้อมจะไปเป็นส่วนหนึ่งที่่ฝั่งคนเสื้อแดงรังเกียจรังงอนว่าเป็นอำมาตย์ ว่าฉันพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของอำมาตย์ก็ได้ ตกลงอุดมการณ์ที่คุณเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ หรือตามทักษิณได้ ในทุกวิถีทาง หรือแท้ที่จริงแล้วคนเสื้อแดงไร้อุดมการณ์ เป็นเพียงแค่อุดมเงินเท่านั้น

ชัชวาลย์- นิดเดียว ขอสั้นๆ ตรงนี้นิดเดียว คือยุทธศักดิ์แกขี้โม้ บอกว่าได้คุยกับป๋า ก็บอกว่าป๋ากลัว ว่าทักษิณกลับมาจะมาเล่นการเมืองเต็มที่ เพราะฉะนั้นทักษิณก็เลยบอกว่า เอ้า ผมเสนอเลย ก็คือมาเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินฯ ยุทธศักดิ์พูดอีก ผมคุยกับ ผบ. ไม่รู้คนไหนนะ คุยกับ ผบ.แล้วครับ ผบ.บอกต้องยืนยันนะ ต้องมีหลักฐานยืนยันนะว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมือง

ปานเทพ- คุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

ชัชวาลย์- คุยกันมาแล้ว แต่ที่สำคัญคือตรงนี้ ว่า ทั้งหมดที่พูดเนี่ย ผมคิดอยู่อย่างเดียว ผมได้ฟังผู้ใหญ่คนหนึ่งที่คุณยุทธศักดิ์ก็เคารพนะ เขาบอกว่า เลี้ยงหมาดีกว่าเลี้ยงมนุษย์บางคน เลี้ยงคนบางคน แล้วยุทธศักดิ์เอาไปคิดเอง

เติมศักดิ์- ว่าหมายถึงใคร

ชัชวาลย์- ว่าหมายถึงใครเป็นคนพูดคำนี้ แล้วขอบอกให้ด้วย ไอ้ที่ไปเที่ยวโม้ว่า xxx น่ะ คุณรู้แก่ใจว่าคุณทรยศใครไปบ้าง

เติมศักดิ์- ขอพักก่อนครับ แล้วเดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาสรุปเรื่องนี้กันอีกรอบหนึ่งนะครับ สักครู่ครับ

ช่วงที่ 3

เติมศักดิ์- ช่วงสุดท้ายนะครับ อยากให้ทั้งสองท่านได้สรุปสิ่งที่เราได้วิเคราะห์กันในวันนี้ว่าคลิปสนทนาเสียงของผู้ชายสองคนนี้กำลังจะส่งผลต่อสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตอย่างไรบ้าง เชิญ อ.ปานเทพ ก่อนครับ

ปานเทพ- ผมคิดว่าสัปดาห์หน้า คือสัปดาห์นี้นะครับ เราจะได้เห็นว่าจะมีการแสดงจุดยืนหรือไม่ และจุดยืนอย่างไร ผมเชื่อว่าการไม่แสดงจุดยืน แสดงว่าพวกเขาคิดหนักมาก ทั้งหมดที่ถูกกล่าวถึงนี่นะครับ ว่าจะแสดงจุดยืนดีหรือไม่ เพราะด้านหนึ่ง ถ้าเป็นจริง เขาจะไม่กล้าแสดงจุดยืน เพราะว่าเขาเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ตามคลิป

เติมศักดิ์- จะไม่กล้าแสดงจุดยืน

ปานเทพ- เพราะว่าแสดงจุดยืนเมื่อไร ฝ่ายที่เขาเห็นว่าตกลงกันแบบนี้แล้วจะรู้สึกทันทีว่ามันไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ซึ่งเราจะเห็นหลายคนจะนิ่งเงียบหายไปเฉยๆ หรือไม่ก็อาจจะพูดว่าอย่าเอาการเมืองมายุ่งกับการทหาร

ชัชวาลย์- ใช้คำนี้

ปานเทพ- จะใช้คำนี้ หรือบอกว่า กองทัพไม่ยุ่งกับการเมือง เหมือนกับท่านโฆษกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันนี้ เป็นข้าราชการ ไม่สามารถตอบแทนได้ทุกอย่าง ไม่รู้จะมีโฆษกคนนี้ไว้ทำไมนะครับ แต่ผมจะยกตัวอย่างว่า เราจะเห็นกระบวนการเท็จจริงมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนี้ประชาชนจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด และผมเชื่อว่าในขั้นตอนของสภากลาโหม เมื่อคนรู้แล้ว เราจะรู้ว่าขั้นตอนนี้ในการเสนอกฎหมายเป็น พ.ร.บ.ล้างความผิดให้กับทักษิณ ในฐานะเป็นกฎหมายความมั่นคง ถ้ามันเข้าสู่สภากลาโหมเมื่อไร ผมเชื่อว่าวันนั้นข่าวรั่ว เพราะผมยังเชื่อว่าในสภากลาโหมยังมีคนที่มีจิตใจรักชาติบ้านเมืองมาบอกให้ประชาชนรู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าเขาคาดหวังว่าจะปิดข่าวลับเป็นวาระจร ความคาดหวังเขา แต่ข่าวนี้ออกมาก่อนแล้ว มันมีทางลับแล้ว ทุกคนจะตระหนักและเตรียมตัวเอาไว้ และผมก็อยากจะเรียนให้ทราบว่าเมื่อถึงสภาความมั่นคงฯ และมีกระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ขอให้ตระหนักไว้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอกครับ ถ้าประชาชนไม่ยินยอม ผมเชื่อว่าข่าวจะรั่ว ผมเชื่อมั่นนะครับ ที่ผมเชื่อมั่นเพราะว่าแม้จะมีการออกพระราชกำหนดอภัยโทษ การอภัยโทษตามช่วงเวลา พระราชกฤษฎีกานะครับ เรายังรู้เลยครับ มีการเคลื่อนไหวล่วงหน้าก่อน จนกระทั่งเกิดแผนผิดพลาดแล้วก็ไม่สามารถทำได้ในคราวนั้น ผมเชื่อว่ากระบวนการนี้ทำยาก แต่นี่ผมมีความรู้สึกว่าผู้นำเหล่าทัพหลายคนต้องแสดงจุดยืน เพื่อไม่ให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้วคนเหล่านี้แสดงบทบาทหลายหน้าหรือไม่ เล่นหลายหน้าหรือไม่ เล่นกับผู้ใต้บังคับบัญชา แสดงท่าทีอย่างหนึ่ง ถึงเวลาจริงๆ ไปเกี้ยเซียะเขา กับโครงสร้างอำนาจอีกแบบหนึ่ง หรือแสดงจุดยืนของตัวเองต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างไร กับกรณีที่เกิดขึ้นแบบนี้ ไม่แสดงจุดยืนแสดงว่าไร้จุดยืนและไร้ความรับผิดชอบ และที่สำคัญที่สุดผมคิดว่านับจากนี้ ป.ป.ช.และประชาชนทั่วไปจะต้องจับตาโครงการน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตก และการลงทุนใดๆ ในส่วนของทวายและพม่า ว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชันไปมาแค่ไหนหลังจากนี้ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ผมเชื่อว่าน่าจะส่งผลสะเทือนอย่างมาก จากแผนที่เขาคิดเอาไว้นี้นะครับ น่าจะได้รับผลกระทบไปไม่มากก็น้อย เพราะผมเชื่อว่าคนไทยและทหารไทยที่รักชาติยังมีอีกมากครับ

ชัชวาลย์- คุณเติมศักดิ ผมนี่ยึดมั่นและเชื่อมั่นกองทัพว่าส่วนใหญ่เป็นกองทัพ ทหารเป็นของพระเจ้าอยู่หัว เป็นของชาติ ของประชาชน ไอ้คนที่คิดจะมายึดกองทัพเป็นกองกำลังของตระกูล เพื่อไว้เป็นปราการปกป้องตัวเองในการทำชั่ว ปล้นชาติ ปล้นประชาชน ผมเชื่อจริงๆ ว่ามันจะต้องได้รับผลกรรมตามสนอง เพราะว่ามันทำแบบนี้มันเท่ากับมันกำลังทำลายความมั่นคงของประเทศๆ หนึ่ง ซึ่งมันเกิดที่นี่ รวยที่นี่ แต่แทนที่จะกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน รู้คุณพระเจ้าอยู่หัว กลับกระทำตัวเนรคุณ เพราะฉะนั้นผมเชื่อเลยครับว่าไอ้คนพวกนี้ ไอ้คนแบบนี้ กรรมจะตามสนอง

เติมศักดิ์- ครับ ฉะนั้นเราต้องจับตาดูกัน วันนี้ขอบคุณมากครับ คุณชัชวาลย์ อ.ปานเทพ คนเคาะข่าวลาไปก่อน สวัสดีครับ



นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
กำลังโหลดความคิดเห็น