“ปุระชัย” ระบุคำพูดและน้ำเสียงในคลิปฉาวใกล้เคียง “บิ๊กอ๊อด” เช่นเดียวกับเหตุการณ์ไทยปะทะพม่าสมัย “สุรยุทธ” ยุครัฐบาล “ทักษิณ” เป็นเรื่องลับสุดยอด มีไม่กี่คนที่รู้ หนึ่งในนั้นคือ “ยุทธศักดิ์” การันตี “สุภา” เป็นคนดี คนตรง ห่วงถูกรัฐบาลรังแกตั้ง กก.สอบ หลังเปิดตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว ระบุรัฐบาลกำลังเข้าข่ายเสื่อม
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงว่า เนื้อหาบางส่วนเป็นเรื่องที่มีคนวงในเพียงไม่กี่คนที่รู้ และตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ตอนที่ประเทศไทยมีเหตุปะทะทางชายแดนกับประเทศพม่า โดยคำพูดบางประโยคพูดกันแต่เฉพาะวงเล็กๆ ใน ครม.ฝ่ายความมั่นคงในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนในฐานะ รมว.มหาดไทยในขณะนั้นก็อยู่ในวงเดียวกันด้วย
ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าวว่า คนจะพูดแบบนั้นได้ต้องรู้ลึก หลายเรื่องไม่ใช่เกิดเฉพาะปัจจุบัน มันถอยหลังกลับไปนับสิบปี ตั้งแต่สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังเป็น ผบ.ทบ. ถ้าคนพูดไม่รู้เรื่องเหล่านี้จะเอาอะไรมาพูดได้ อย่างเรื่องที่ พล.อ.สุรยุทธ์ไปชี้แจงนั้น ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ แล้วเรียกเฉพาะกระทรวงความมั่นคงเข้ามาฟัง ซึ่งประกอบด้วยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ตนในฐานะ รมว.มหาดไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็น รมช.กลาโหมเท่านั้น
“ขณะนั้นถ้าผมจำไม่ผิดคือปี 45 ก็มีคำถามนายกฯ (พ.ต.ท.ทักษิณ) เป็นคนถามว่า “พี่ ยิง (ประเทศเพื่อนบ้าน) ไปกี่นัด” ไม่ใช่ปืนกล ปืนใหญ่ครับ คำตอบที่ผมได้ยินมากับหูคือ 3,000 นัด นี่คือประเด็นหนึ่งที่มันลึกมาก และในเหตุการณ์นั้นไม่มีใครนั่งอยู่ มันผ่านมา 10 ปีแล้วน่าจะจบแล้ว ไม่มีการพูดกันที่อื่น ลับสุดยอดเฉพาะที่เรียกเข้ามา ครม.ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ที่ได้ยินก็มีเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันนี้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมมาพูดถึง และเหตุการณ์มันผ่านมากระทั่ง ผบ.ทบ.ท่านนั้นกลายเป็นนายกฯ กลายเป็นองคมนตรีไปแล้ว เรากับพม่าก็สงบเลิกแล้วต่อกันไปแล้ว 11 ปีมาแล้ว” ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าว
อดีต รมว.มหาดไทยสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยกล่าวอีกว่า ถามว่าคลิปนี้จริงหรือไม่ จากสำนวนการพูด ตนก็เคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์มาในช่วงรัฐบาลไทยรักไทย ตนว่าสำนวนท่าน แต่สำนวนกับเรื่องจริงมันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ตนไม่ทราบ คนเราจะรู้ต่อเมื่อเป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานว่าสำนวนนี้ใช่หรือไม่
“แต่เมื่อท่านออกมาปฏิเสธ ผมก็ไม่ยืนยันว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่บอกได้ว่าใกล้เคียง (หัวเราะ)” ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าว
ร.ต.อ.ปุระชัยยังกล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ตามที่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลตัวเลขจำนวนเงินขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวต่อคณะกรรมาธิการฯว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะตนรู้จัก น.ส.สุภาในหลายสถานะ ไม่ว่าจะเป็นเคยทำงานร่วมกันที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเป็นลูกศิษย์ของตนที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ซึ่ง น.ส.สุภา ก็มาชี้แจงตามหน้าที่ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นการให้ข้อมูลอย่างสุจริต เพราะฉะนั้นสังคมไทยต้องปกป้องข้าราชการที่ดี
ทั้งนี้ ที่ตนรู้จัก น.ส.สุภามานานจึงรู้ว่าเป็นคนตรง และเป็นคนดี แต่สังคมไทยไม่ค่อยชอบคนตรงเสียเท่าไหร่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้จะทำให้ข้าราชการไม่กล้าที่จะทำความดี ทั้งๆ ที่ข้าราชการประจำควรที่จะมีความจงรักภักดีต่อชาติและผลประโยชน์ของประเทศ
ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าวว่า ที่ตนพูดนั้นไม่ได้มีเจตนาทางการเมือง แต่อยากจะให้กำลังใจ น.ส.สุภา ในฐานะครูกับลูกศิษย์เท่านั้น ตอนนี้ตนก็หวังว่าคงจะไม่ไปไกลถึงขนาดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบวินัย เพราะท่าทีของรัฐบาลจะก้าวร้าวและรุนแรงเกินไป และเป็นท่าทีที่เป็นลบต่อข้าราชการประจำ จากนี้ไปเราก็ต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะนี้ตนไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ควรจะไปถึงการตรวจสอบทางวินัย เพราะสิ่งที่มาให้ข้อมูลเป็นการมาโดยหน้าที่ไม่ได้มาโดยพลการ ขณะนี้รัฐบาลกำลังเข้าข่ายความเสื่อม
“ประเทศของเรากำลังต้องการพรรคการเมืองที่ไม่ได้หวังเพียงแค่แบ่งเค้กทางการเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้พรรคการเมืองด้อยคุณภาพ พรรคการเมืองเป็นเพียงบริษัทส่วนตัวแทนที่จะเป็นองค์กรที่จะพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าใครทำอะไรไว้ เช่น การเอาเงินของชาติไปใช้เป็นเงินส่วนตัว กฎแห่งกรรมมันมี”