อดีตเลขาฯ สมช.มั่นใจคลิปเสียง “แม้ว-บิ๊กอ๊อด” ของจริงล้านเปอร์เซ็นต์ ชี้เป็นเสียงที่คุ้นหู เชื่อเจ้าตัวจ้องกุมกองทัพเบ็ดเสร็จปี 57 อัดกล้าดีริคิดนั่งที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บังอาจดึงสถาบันมาเอี่ยว อยากถามที่โกงไปยังไม่พออีกเหรอ ไม่เชื่อปล่อยคลิปเอง บอกรู้สันดานดีชอบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
วันนี้ (8 ก.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงคลิปเสียง ว่า เท่าที่ได้ฟังคลิปเสียงแล้วเชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เป็นเสียงการสนทนาระหว่าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะคลิปเสียงเป็นการพูดคุยตอบโต้อย่างเป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง ไม่มีขาดช่วงหรือสะดุด อีกทั้งยังจำเสียงทั้งสองคนได้แม่น และประเด็นการพูดคุยไปถึงยาไวอะกร้า หรือถั่งเช่านั้น ยิ่งมั่นใจว่าคลิปนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเอง
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ฟังการสนทนาครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าทั้งสองคนมีเจตนาที่เข้าไปควบคุมกองทัพอย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อส่งคนเข้าไปมีอำนาจสั่งการในกองทัพ มีเจตนาที่จะดึงขั้วอำนาจในกองทัพเป็นของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป อีกทั้งเนื้อหาการสนทนายังพาดพิงผู้นำทั้ง 3 เหล่าทัพ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด จนได้รับความเสื่อมเสีย ถือเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กองทัพอย่างมาก
“เขา (พ.ต.ท.ทักษิณ) ยังบังอาจเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ให้เกิดความหวาดระแวงว่าเขาจะมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ถามว่ายังไม่พออีกหรือที่โกงไป ยังจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของท่านอีกหรือ ทั้งยังกล้าดีพูดถึงป๋า (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี) โดยไม่รู้สึกยำเกรง ดึงให้ป๋ามายินดียินร้ายด้วย โดยไม่สมควร” น.ต.ประสงค์ กล่าว
น.ต.ประสงค์ กล่าวด้วยว่า ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นผู้ปล่อยคลิปเอง เพราะรู้นิสัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดีว่าไม่มีทางที่จะทำเรื่องที่ส่งผลเสีย หรือผลกระทบมาถึงตัวเอง เพราะเป็นคนชอบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่นตลอดเวลา ถ้าถามว่าใครเป็นผู้ปล่อยคงไม่สามารถตอบได้ เชื่อว่าคงเป็นเรื่องกรรมจัดสรรไว้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำกรรมชั่วมาหนัก กรรมก็ต้องปรากฏตัวออกมาให้เห็นเข้าสักวัน
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นผู้บันทึกเสียงส่งให้ พล.อ.เปรม แต่คลิปกลับหลุดออกมา น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า พล.อ.เปรม จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลังคลิปปรากฏออกมา อยากให้กองทัพทบทวนว่าใครมีเจตนาต่อกองทัพอย่างไร ส่วนตัวในฐานะอดีตทหารคนหนึ่งรู้สึกได้ว่าทหารถูกนักการเมืองไม่ดีคิดใช้กองทัพเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัว ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เชื่อว่าหลังจากนี้ความเชื่อถือและไว้วางใจที่กองทัพมีให้ฝ่ายการเมืองคงจะถอยห่างลงไปทุกที