ผ่าประเด็นร้อน
ช่วงสายวันนี้ (11 ก.ค. 56 ) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้เล่นบทเป็น “บิ๊กปู” อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากเป็น รมว.กลาโหมหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์กองทัพประเทศไทยมาได้ 12 วัน
แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์เดินทางเข้าห้องทำงาน รมว.กลาโหมวันนี้
ทุกอย่างคงเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติก่อนหน้านี้ เหมือนที่อดีต รมว.กลาโหมทุกคนเวลาเดินทางไปกระทรวงวันแรก จะเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงตามด้วยการรับมอบงานที่ก็จะมีบิ๊กทหารมายืนเข้าแถวต้อนรับโดยพร้อมเพียงกัน
การเข้ากระทรวงกลาโหมของ “ปู กรรเชียง” คงมีสีสันความน่าสนใจไม่น้อย หลังก่อนหน้านี้ก็มีข่าวพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ได้ส่งทีมงานเข้าไปตรวจตราห้องประจำตำแหน่ง รมว.กลาโหม เพื่อดูความเรียบร้อยหมดแล้ว โดยเฉพาะการตรวจละเอียดทุกซอกทุกมุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีมือดีจะมาเด็ดหนวดเสือติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังอะไรได้ หลังผู้คนในวงการเมืองตอนนี้กลายเป็นโรคผวาเสียงหลุดกันไปหมด
การเดินทางไปยังกระทรวงกลาโหมของยิ่งลักษณ์สิ่งหนึ่งที่คงเป็นที่สนใจของสื่อและผู้คนทั้งหลายก็คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะหลบสื่อไม่ให้สัมภาษณ์ได้อีกครั้งหรือไม่ หลังตัดสินใจไม่แถลงข่าวเรื่องคลิปเสียงบทสนทนาจากแดนไกลเมื่อวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.และสื่อหาตัวไม่เจอตัวทั้งก่อนและหลังประชุม ครม.เมื่ออังคารที่ผ่านมา
เรื่องคลิปเสียงอัปยศนั้น แม้จะไร้ปฏิกิริยากดดันออกมาจากฝ่ายการเมืองในเพื่อไทยเพื่อให้อ๊อด ถั่งเช่ารับผิดชอบกับเรื่องคลิปเสียงดังกล่าวด้วยการลาออกจากตำแหน่ง แต่ในความนิ่งสงบก็จะใช่ว่าจะราบเรียบไร้ปัญหา เพราะหากทุกอย่างยังไม่เคลียร์ แม้ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะผู้นำกองทัพจะแสดงออกว่าไม่มีอะไรติดใจ
ทั้งที่เหล่า ผบ.กองทัพถูกนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.ยุทธศักดิ์พูดลับหลังแบบติดลบ
กระนั้นก็ดี คนเหนื่อยสุดชั่วโมงนี้จึงยังคงเป็น อ๊อด-นายพลถั่งเช่าต่อไป ที่เจ้าตัวคงรู้ดีว่า แม้จะเข้าหน้า ผบ.เหล่าทัพหรือแม้มุดไปเข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ได้ แต่ระดับความสัมพันธ์ความไว้วางใจต่อกัน ย่อมไม่เหมือนเดิม เมื่อแผนหนูช่วยราชสีห์ ความแตกหมดแล้ว
เรื่องประคองตัวเองให้อยู่ต่อในรัฐบาลไม่น่ามีปัญหา ฟังเนื้อหาประเด็นในคลิปก็รู้แล้ว หากคลิปนี้เป็นจริงทั้งหมด งานใหญ่ที่ทักษิณมอบหมายและพล.อ.ยุทธศักดิ์รับมา แสดงให้เห็นความสำคัญของบิ๊กอ๊อดขนาดไหน ไม่มีใครในไปบ้าเลื่อยขาเก้าอี้บิ๊กอ๊อดเพื่อให้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน แล้วตกดึกหาถั่งเช่าในตู้เย็นกินก่อนนอนแน่นอน
แต่ที่น่าจะเป็นปัญหาคือเรื่องการร้องขอ-ประสานงานของ พล.อ.ยุทธศักดิ์กับ ผบ.เหล่าทัพในภารกิจทั้งเปิดเผยและภารกิจลับที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ เรื่องการเมือง รับรองได้ว่าบิ๊กอ๊อดถูกเพ่งเล็งด้วยความไม่ไว้วางใจจาก ผบ.เหล่าทัพแน่นอน เพราะพวกนี้ก็ต้องกลัวจะโดนหลอกใช้หรือมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง
โดยเฉพาะเรื่องการดีลกับพม่า ที่คลิปเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์เผลอหลุดปาก บอกชายเสียงเหมือนทักษิณทำนองว่า เรื่องทวาย ต่อไปให้ดีลผ่าน พล.อ.MIN AUNG HLAING (มิน อ่อง ลาย) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ให้เป็นประโยชน์
เชื่อว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ผบ.สส.ที่เป็นประธานคณะกรรมการร่วมทหารไทย-พม่า คงระวังตัวมากขึ้นหลังจากนี้เพื่อไม่ให้เรื่องผลประโยชน์ในโครงการลงทุนทวาย มีอะไรพาดพิงมาถึงทหารให้เสียหาย
เพราะชั่วโมงนี้ ใครๆ ก็รู้ โครงการความร่วมมือพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตอุตสาหกรรมพิเศษทวาย คืออีกหนึ่งขุมผลประโยชน์ที่ทักษิณ มองตาเป็นมันมานานหลายปีแล้ว
ขณะเดียวกันก็มีข่าวลอยมาจากฮ่องกงว่าในช่วงที่ทักษิณ ชินวัตรบินมาฮ่องกงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วมีนักการเมืองหลายสิบคนทั้งบิ๊กเนม-โนเนมไปพบ ก็มีการคุยกันเรื่องโผรายชื่อข้าราชการการเมืองอย่างที่ปรึกษารัฐมนตรี-เลขานุการรัฐมนตรีที่ต้องแต่งตั้งกันใหม่ล็อตใหญ่หลายสิบตำแหน่ง หลังมีการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 5
คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า โดยหลายกระทรวงลงตัวเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีบางกระทรวงยังไม่มีข้อสรุป
หนึ่งในกระทรวงที่ข่าวว่ากำลังคุยกันอยู่ก็คือ กระทรวงกลาโหมกับการตั้งที่ปรึกษา รมว.กลาโหม-เลขานุการ รมว.กลาโหม (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) และที่ปรึกษา รมช.กลาโหม และผู้ช่วยเลขานุการรมว.กลาโหม (พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา)
ตามข่าวที่คุยกันพบว่าค่อนข้างเป็นไปได้สูงแล้วที่ ทักษิณน่าจะส่ง พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน เพื่อนเตรียม 10 กลับมาเป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม เพื่อทำงานกับน้องสาวตัวเองอีกหนึ่งสมัย หลังที่ผ่านมา พล.อ.วรวิทย์เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหมมาแล้วกับทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ รมว.กลาโหมคนแรกในรัฐบาล
และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต ที่เพิ่งถูกปรับออกไป ได้รับการติดต่อจากยิ่งลักษณ์ ขอให้มารับตำแหน่ง “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” ที่เป็นเก้าอี้เดิมของ พล.อ.ยุทธศักดิ์
จนถึงขณะนี้ “สุกำพล” อยู่ระหว่างหลบเลียแผลใจ ยังไม่ได้ตัดสินใจ