xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก พธม.บี้่เหล่าทัพเผยจุดยืนคลิป ชี้ยังเงียบคือยอมสยบ"นช."

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
"ปานเทพ"จี้ ผบ.เหล่าทัพแสดงจุดยืน หลังคลิปเสียงสนทนาจากแดนไกลระบุ เตรียมใช้สภากลาโหมดัน กม.ล้างผิดพา"นช.แม้ว"กลับบ้าน แถมหักดิบล้างโผกองทัพ ซ้ำเหิมเกริมขอเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินฯ เอื้อประโยชน์ส่วนตัว ชี้ภายใน 1 สัปดาห์ หาก ผบ.เหล่าทัพยังเงียบ เท่ากับยอมจำนนนอยู่ใต้อาณัติคนแดนไกล

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพ์ในรายการ "ยามเช้าริมเจ้าพระยา" ทางเอเอสทีวี เมื่อเช้า( 8 ก.ค.)ที่ผ่านมา กรณีคลิปเสียงของชาย 2 คนซึ่งคล้ายกับเสียงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กำลังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ว่า ตนไม่สนใจว่าที่มาของคลิปเสียงดังกล่าวจะเป็นอย่างไร แต่สนใจว่า เมื่อมีคลิปเสียงออกมาแล้วมีปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่่างไร โดยประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ บทสนทนานี้มีผลดีหรือผลร้ายต่อชายคนที่ 1 (เสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์) และชายคนที่ 2 (เสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ) อย่างไร โดยตนเห็นว่า เป็นผลเสียต่อชายคนที่ 1 มากกว่า เพราะมีความบกพร่องทำให้คลิปเสียงหลุดออกมา โดยอาจะมีคนดักฟังหรือเจตนาปล่อยออกมาเอง ซึ่งตนเชื่อว่าคงไม่ใช่ เพราะ ในคลิปเสียงมีหลายอย่างที่ทำให้ชายคนที่ 1 เสียหาย ยกเว้นว่าต้องการจะให้ตัวเองเป็นหน่วยกล้าตาย เพื่อให้ข้อมูลของชายคนที่ 2 หลุดออกมาให้มากที่สุด

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าชายคนที่ 1 เสียเปรียบไม่น้อย เพราะอาจจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง เพราะไม่น่าไว้วางใจ และบกพร่องอย่างร้ายแรง ซึ่งก็เห็นสัญญาณว่าอาจจะถูกปลดหรือลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่ชายคนที่ 2 ดูเหมือนจะมั่นใจว่าตนเองไม่เสียหาย แต่ได้บอกสาธาณชนออกไปว่าตนเองต้องการอย่างไรโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และไม่ต้องให้ชายคนที่ 1 รับผิดชอบแล้ว เพราะล่าสุดมีข่าวว่าไม่ต้องลาออกแล้ว เป็นการส่งสัญญาณว่าเขาต้องการอย่างนี้ ให้ดำเนินการไปตามนี้ และให้ทุกฝ่ายตอบมาว่าจะเอาอย่างไร ใครจะกล้าขวาง ตนจึงบอกว่า อาจมีนายทหารใหญ่หลายคนที่กำลังขายตัว

นายปานเทพกล่าวอีกว่า คนที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจน เพราะถ้าเป็นเสียงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณจริง การที่นายกฯ มานั่งควบกลาโหมจะมีนัยและความหมายขึ้นมามาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยให้เหตุผลการมานั่งกระทรวงกลาโหมว่า เพื่อเอกภาพและความรวดเร็วของงานความมั่นคง ซึ่งคำว่าเอกภาพและความรวดเร็ว น่าจะสอดคล้องกับเนื้อหาในคลิปเสียง นั่นคือ ความต้องการล้่างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณโดยตรง โดยจะอ้างความเห็นชอบของสภากลาโหมเพื่อตราเป็น พ.ร.บ. ให้ชายคนที่ 1 เตรียมนำเข้าเป็นวาระจร ไม่ให้ใครรู้ตัวมาก่อน แต่คุยเหล่าทัพไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีสภากลาโหมสมรู้ร่วมคิด หลังจากนั้นก็นำเข้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วสภาความมั่นคงแห่งชาติ อ้างความเห็นชอบของกองทัพ เสนอเข้า ครม.อนุมัติ เพื่อออกเป็น พ.ร.ก. โดยไม่ต้องไม่ต้องผ่านขั้นตอนของสภา ซึ่งเนื้อหามันสอดคล้องกัน เพราะถ้านายกฯ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็จะทำให้สภากลาโหมมี 7 คน จ่ากเดิมที่มี 6 คน โดยมี 2 เสียงที่เป็นเอกภาพชัดเจน คือนายกฯ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการ

นายปานเทพกล่าวต่อว่า ถ้าคลิปเสียงเป็นความจริง จะเห็นว่าชายคนที่ 2 ไว้วางใจ ผบ.สส. และ ผบ.ทบ.มากที่สุดในกลุ่ม ผบ.เหล่าทัพ เมื่อบวกกับนายกฯ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ จะมี 4 เสียงที่เป็นเอกภาพ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่อ้างกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าตนเองคุมไม่ได้ ในการแต่งตั้งโยกย้าย หรืออำพรางว่า ตนได้พยายามปกป้องลูกน้องแล้ว จะอ้างแบบเดิมไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนที่จะแสดงจุดยืนออกมา หากมีการขอสภากลาโหมเพื่ออนุมัติ พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก.เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ละท่านมีจุดยืนอย่างไร ถ้าไม่มีการแสดงจุดยืนก็แสดงว่าเป็นนกสองหัว หรือนกสามหัว หรือไม่ รวมทั้งกรณีการหักดิบผู้บัญชาการกองทัพเรือว่าจะไม่เอาตามที่เสนอ ตกลงท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่ และคนอื่นๆ ที่เป็นแคนดิเดตจะยอมหรือไม่ ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศที่บอกว่าสามารถจัดการกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้ ต้องถามว่าผู้ใหญ่ท่านนั้นตกอยู่ใต้อาณัติของชายคนที่ 2 หรือยัง จนเขาบอกว่าไปจัดการกับรุ่นพี่ที่อยู่ข้างบนได้

"หากภายในสัปดาห์นี้ไม่มีการแสดงจุดยืนจาก ผบ.เหล่าทัพ ก็แสดงความเขายอมจำนน และอยู่ใต้อาณัติมานานแล้ว จึงไม่มีปากมีเสียง" นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพกล่าวต่อว่า เรื่องที่สำคัญกว่านั้น แสดงว่า ผบ.เหล่าทัพเพิกเฉยต่อการพาดพิงถึงสถาบันฯ ด้วย ในกรณีที่ชายคนที่ 2 เสนอให้ชายคนที่ 1 ไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ให้ตั้งเข้าเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์หนีบเขาไว้ติดกับสถาบัน ตรงนี้ เขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนปล่อยคลิป เพราะต้องการจะบอกว่าฉันจะเดินหน้าอย่างนี้ สาธารณชนจะเอาด้วยหรือไม่ เป็นการแสดงถึงความเห็นแก่ได้ของชายคนที่ 2 เขาต้องการจะแสดงว่าพร้อมหยุด จะเดินทางกลับประเทศ จะไม่ยุ่งการเมือง แต่ก็ต่อรองว่าขอเป็นที่ปรึกษาสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ทราบว่าเอสซีแอสเซท มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เท่าไหร่ และสำนักทรัพย์สินก็เกี่ยวข้องกับที่ดิน นี่เป็นการสร้างอำนาจต่อรองให้เอสซีฯ หรือไม่ แสดงว่า ต้องการจะทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนใจเรื่องอำมาตย์-ไพร่อีกต่อไปแล้ว ต้องถามคนเสื้อแดงว่ายังพร้อมที่จะอยู่กับชายคนที่ 2 หรือไม่ และเมื่อถึงเวลาจริงๆ ชายคนที่ 1 จะกล้าพูดกับผู้ใหญ่หรือไม่ ขณะที่ชายคนที่ 2 ดูเหมือนจะไม่วิตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้่ยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับโครงการในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าคลิปนี้เป็นเสียงจริง ข้อสงสัยจะตามมาจำนวนมาก เช่น โครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งที่จริงมันไม่ใช่การแก้ปัญหาอุทกภัย แต่มันเป็นการสร้างถนนทางฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งอยู่ใกล้กับพม่า และมีการลงทุนที่ทวาย โดยเขาอ้างว่ามีสายกับทางพม่า และดูถูกว่าเขาสามารถจัดการได้ทุกอย่างในพม่า เท่ากับว่ารัฐบาลพม่ามีผลประโยชน์กับชายคนที่ 2 ใช่หรือไม่

นายปานเทพกล่าวนตอนท้ายว่า บทสนทนานี้จึงมีประโยชน์มาก  ถ้าทุกคนที่ถูกพาดพิงยังเงียบก็แสดงว่ายอมจำนน หรืออาจจะต้องการอำพรางบทบาทจึงไม่แสดงออกมาในตอนนี้ แต่ตอนมองว่าอย่างแรกมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น