เกาะกระแส
00 นี่ขนาดซุกๆซ่อนๆหลบเลี่ยงยักยายถ่ายเทกันแบบลับสุดยอดแล้วนะ แต่ล่าสุดนิตยสารฟอร์บที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆก็ยังจัดอันดับให้ ทักษิณ ชินวัตร ติดอันดับรวยท็อปเท็นนั่นคือ รวยอยู่ในอันดับ 10 มีทรัพย์สินกว่า 5.30 หมื่นล้านบาท แต่นี่คงเป็นแค่ทรัพย์สินที่ตรวจสอบได้เท่านั้น เพราะหลายคนคงไม่เชื่อว่า "นิสัยแบบแม้ว" จะมีทรัพย์สินเพียงแค่นี้ เพราะมีทั้งอำนาจรัฐที่ชักใยผ่านทางรัฐบาล ระดับ "นายหน้าข้ามชาติ" อย่างที่เป็นอยู่ แค่ห้าหมื่นล้านบาทนั้นถือว่า "กระจอก" มาก และเป็นไปไม่ได้เลย
00 อย่างไรก็ดีแค่นี้ก็ถือว่ารวยระดับท็อปแล้ว รวยล้นฟ้าแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมเป็นอันขาดว่า ทักษิณ และครอบครัวเป็นนักธุรกิจเป็นนักแสวงหากำไร ดังนั้นย่อมทำทุกอย่างเพื่อหากำไรให้มากที่สุด เพราะเขาไม่ใช่ "นักบุญ" การกระโดดลงมาสู่สนามการเมืองก็คือการลงทุนใน "ธุรกิจการเมือง" ที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่านั่นคือมีทั้งเงินและอำนาจ จากเดิมที่ต้องใช้ให้กับนักการเมือง แต่เมื่อลงมาเล่นเองก็กลับกัน จากเดิมที่เคยพินอบพิเทาคนอื่น เวลานี้ตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางมีแต่คนวิ่งเข้ามาหา คอยจัดสรรผลประโยชน์ผ่านทางนโยบายรัฐบาล จำนวนทรัพย์สินแค่นี้รับรองว่าจิ๊บจ๊อยมาก
00 แต่อีกด้านหนึ่งเมื่อหันมาพิจารณาตัวเลขหนี้สินครัวเรือนของคนไทย ภายใต้รัฐบาล "หุ่นเชิด" ของเขาภายใต้ "ทักษิณคิดยิ่งลักษณ์ทำ" กลับมีผลออกมาน่าอนาถใจยิ่งนักเพราะผลที่ออกมาในท่ามกลางการรายงานว่าทรัพย์ของ ทักษิณ รวมปถึงคนในรัฐบาลที่ใช้ "คราบไพร่" หากินกลับรวยเอารวยเอาๆส่วนคนไทยทั่วไปส่วนใหญ่มีแต่หนี้สิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง นี่ไม่ต้องพูดถึงพวก "รากหญ้า" ทั้งหลายว่าจะมีความเป็นอยู่อย่างไร หลับตาก็เห็นภาพแล้ว ทุด !!
00 โกหกตามสไตล์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าไม่โกหกสิแปลกสำหรับ เฉลิม อยู่บำรุง ที่ก่อนหน้านั้นออกมาพูดเองว่าจะไปฮ่องกง หลังจากสิ้นเสียงโวยวายฟาดงวงฟาดงาจากการถูกถีบไปเป็น "จับกัง1" ที่กระทรวงแรงงาน ตอนนั้นชาวบ้านเขาก็รู้ทันทีว่าต้องไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนอยู่แล้ว อีกทั้งคณะที่ไปด้วยกันก็ถือว่า "ดรีมทีม" ประเภทเดินเข้าห้องต้องหันหลัง ไม่เช่นนั้น "เขี้ยว" จะครูดพรมเป็นรอย ทั้ง คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างงี้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา งี้ ได้ดีเพราะพี่ให้"ทั้งนั้น ดังนั้นคนพวกนี้ไปพบทักษิณ ก็ไม่น่าจะแปลก ถึงแม้จะเป็นตำรวจ เป็นรัฐมนตรีที่ถือเป็นเจ้าพนักงานไป "พบโจร" ก็ทำได้ไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมาก็ทำจนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครทำอะไรได้อยู่แล้ว แต่ที่จะอ๊วกก็คือเมื่อมีภาพถ่ายประจานในโลกโซเชียลมีเดีย ปรากฏเป็นหลักฐานว่า "โจรกำลังชี้หน้ารมต." เพียงแต่ว่าคนที่ยืนข้างๆนั้นมองไม่ชัดเพราะยืนบังเอาไว้ แต่เห็นจอนข้างๆที่เพิ่งกันออกใหม่ๆก็พอเดาได้ว่า น่าจะเป็น "เพื่อนสนิท"ของ "เจ๊ปิ๊ก" แน่นอน แต่ก็เอาเถอะเมื่อเหลิมปฏิเสธว่าไม่พบแก้ตัวว่าเป็นภาพเก่าก็ไม่เป็นไร แต่"ขอแช่งให้ฉิบหาย"ก็แล้วกันหากใครไปพบแม้วแล้วบอกว่าไม่ได้พบ มันต้องย้อนศรกันแบบนี้บ้าง !!
00 แต่ที่มีผลกับอนาคตของ "เหลิมบางบอน" ที่ฟันธงได้เลยว่า"ไม่รุ่ง"แน่นอน เพราะดันไป "ปากเสีย" ฟัดกับพวก "แก๊งไอติม" ที่อยู่รอบชายกระโปรงของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่างานนี้ปากพาจนแท้ๆ อาจเป็นเพราะสำคัญตัวเองผิดก็ได้ สถานการณ์เปลี่ยนแล้ว บรรดาเด็กๆที่ดูดไอติมพวกนี้คงเห็นว่าถ้ายังให้ เหลิมปากมากรายวันมีแต่ "เรียกแขก" พาพังยกแก๊งผลงานก็ไม่เอาอ่าว แถมยังคิดฮุบขยายอาณาจักร "สีกากี" เสียอีก นี่ยังเมตตานะที่ถีบไปนั่งเป็นจับกัง ไม่ถีบพ้นครม.ก็ดีถมถืดแล้ว สรุปก็คือนาทีนี้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ไม่ธรรมดา "ขึ้นหม้อ"ไม่มีใครเทียบแล้ว ขนาดแม้ว ยังเอาไม่ลงก็แล้วกัน ตราบใดที่ ปู ยังอยู่ทั้งคู่ก็ต้องอยู่เจ๋งมั๊ยละ !!
00 จะเรียกว่า "ตายตอนจบ"เหมือนกับ "ตัวร้าย"ในละครน้ำเน่าหลังข่่าวที่ตอนแรกแสร้งอำพรางเป็นคนดี แต่ในที่สุด"ความชั่ว"ก็เผยออกมาจนได้เมื่อกับการถูกเปิดโปงด้วยการ "แอบถ่าย แอบฟัง" จนรู้ความจริง "กระชากหน้ากาก" ออกมาให้เห็นกันจะจะ จะแก้ตัวไปทำไมให้เสียน้ำลาย ถามว่าจะมีคนเชื่อคำพูดปฏิเสธแบบคอเป็นเอ็นของ "อ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ว่าเสียงในบทสนทนาทางไกลที่ "ผู้จัดการออนไลน์" นำมาถ่ายทอดเปิดให้ฟังแบบคำต่อคำว่าไม่ใช่เสียงของเขากับ ทักษิณ ชินวัตร โจรหนีคดี นาทีนี้จะมีสักกี่คนที่ไม่เชื่อ แต่ก็น่าเห็นใจเพราะจากนี้ไป "อ๊อดคนนี้ก็เสียคนตอนแก่" ไปเรียบร้อยแล้ว หมดสภาพทหารแก่ แถมยังถูกน้องๆเด็กๆในกองทัพมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ทำนองว่า "รู้จักหน้าไม่รู้จักใจ" ที่แท้อ๊อดที่ว่านี่แหละ "แม่งโคตรเลีย"
00 ก็เพิ่งรู้ว่าภารกิจใหม่ของอ๊อด นี่คือ "หนูที่พยายามช่วยราชสีห์"ส่วนจะเป็นราชสีห์หรือ"แมว"ลองพิจารณากันก็แล้วกัน แต่ความหมายก็คือจะพาแม้วกลับบ้าน กลายเป็นว่า ได้เปลี่ยนคนทำงานใหม่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมให้ เหลิม บางบอน รับหน้าเสื่อแต่เมื่อได้ฟังบทสนทนา "ลึกสุดเลว" ดังกล่าวแล้ว ก็เปลี่ยนคนใหม่อีกแล้ว คราวนี้ใช้วิธีผ่านทางสภาความมั่นคงหรือสภากลาโหมให้กองทัพไฟเขียว สอดใส้งุบงิบออกเป็น พรก.โดยตบตาเสนอเป็น พรบ.นิรโทษฯเข้ามาก่อนอย่างที่เห็นในตอนนี้ แต่ก็อย่างว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง หรือตรงๆก็คือ "ฟ้ามีตา"ทำให้ได้เจอแผนชั่วเปิดโปงออกมาแบบไม่ตั้งใจเสียก่อน และรับรองว่าในที่สุดแล้ว แม้วนี่คงต้องตายอยู่ข้างนอก เพราะมีแต่คนประจบประแจง หลอกต้มไปเรื่อยๆ เปลี่ยนหน้าเข้ามาเรื่อยๆ เวรจริงๆ !!