เกาะกระแส
00 ไม่รู้ว่าจะต้องถึงขั้นประกาศตามหาคนหายหรือเปล่าสำหรับ "คนบางบอน" อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เพราะในการประชุมครม.ปู5 นัดแรกเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาในฐานะ "จับกัง1"เขาหายหัวไปเลยถามเด็กๆก็บอกว่าไปตรวจสุขภาพ ก็ไม่รู้ว่าเฮิร์ตซดไวน์มากเกินขนาดหรือเปล่า ยังไงก็ขอให้ทำใจให้ได้โดยเร็ว แต่ถ้ายังปลงไม่ตกก็"ดับเครื่องชน"ไปเลย เอากันให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย ก็ไหนเคยบอกว่าโตมาถึงวันนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่งก็จริงๆถ้าย้อนกลับไปเทียบกับ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน "คนละชั้น" เพราะรู้มาว่าเมื่อเหลิมยังไม่ได้เป็นด็อกเตอร์ แต่นั่งเก้าอี้รมต.สำนักนายกฯสมัยรัฐบาล "น้าชาติ" รู้ข่าวว่า มี "คนหน้าเหลี่ยม"หิ้วก๋วยเตี๋ยวไปนั่งรอหน้าห้องเพื่อคุยกันเรื่องสัมปทานนานหลายชั่วโมง ก็ต้องเชื่อว่าเหลิมใหญ่มาก่อน ดังนั้นถ้ารู้สึกว่า "ถูกหยาม"ก็ลุยเลยเพ่ ก็เห็นว่าเก็บข้อมูลไว้เยอะไม่ใช่เหรอ ลองแย้มมาเป็นตัวอย่างสักหน่อยสิ
00 ถูกต้องแล้วที่กลุ่ม "หน้ากากขาว"ประกาศพักการชุมนุมขับไล่ "ระบอบทักษิณ"เอาไว้ชั่วคราว เพื่อประเมินสถานการณ์ และทบทวนการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา เพื่อรอจังหวะรุกใหม่อีกรอบ เพราะหากยังเดินหน้าชุมนุมต่อเนื่องไปทุกสัปดาห์เรื่อยๆในที่สุดมันก็จะฝ่อลงไปได้ง่าย หากไม่มีสถานการณ์ใหม่ที่แหลมคมเฉพาะหน้าเข้ามา ดังนั้นการรอจังหวะรุกใหม่ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่อย่างน้อยได้มี"มวลชนที่ตื่นรู้"ขึ้นมาทั่วประเทศและพร้อมจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกันแล้ว เพียงแต่รอสถานการณ์ที่สุกงอมอีกนิด และที่ผ่านมาถือว่าโอเค หยุดพักออมกำลังไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน อย่าลืมว่าจะเล่นกับระบอบทักษิณต้องเล่น "เกมยาว" แน่นอนว่าการประกาศพักการชุมนุมกระทันหันแบบนี้มันก็ต้องมีเสียงบ่นตามมา แต่ก็ต้องเข้าใจอย่าไปโต้เถียง เอาเป็นว่าการนัดหมายคราวไปก็หาจังหวะให้เหมาะสมชุมนุมใหญ่อีกสักครั้ง ช่วงนี้ติดต่อประสานงานให้ข้อมูลในโชเชียลมีเดียกันไป อย่าขาดหายก็แล้วกัน
00 การพลิกลิ้นกลับมาใช้ราคารับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทอีกครั้งของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านทางคณะกรรมการ กขช.โดย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลังคราวนี้ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ "ปักขี้เลน"ไร้แก่นสารสิ้นดี เพราะทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกพลิ้วได่ตลอดเวลา เพื่อหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้า เฉพาะตัวเท่านั้น เพราะเหตุที่นายกฯปูบอกว่า การเปลี่ยนกลับมาใช้ราคาจำนำแบบเดิมก็เพื่อรักษาวินัยการคลัง มันก็พิลึก เป็นการพูดเหมือนคนที่ไร้ปัญญาที่ "เรื่อยเปื่อย"แต่ถึงอย่างไรการปรับเพิ่มราคากลับมาเท่าเดิมถึง 15 ก.ย.56 มันก็เป็นแค่ชั่วคราวหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อรองรับงานใหญ่ของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
00 อย่าลืมว่าก่อนหน้านั้นในเดือนสิงหาคมเป็นช่วงเปิดสภาสมัยสามัญ นอกเหนือจากเรื่อง พรบ.โคตรกู้ 2 ล้านล้านบาท ร่างงบประมาณปี 57 นั่นเป็นเรื่องเงินเรื่องทอง จากนั้นก็เข้าสู่โหมดสำคัญส่วนตัวของ "เหลี่ยมจัด" นั่นคือแก้รธน. พรบ.นิรโทษฯ-กม.ล้างผิด ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าหากลดราคาจำนำลงมาแล้วเกิดชาวนายังฮึ่มกันอยู่มันก็คงไม่สวยแน่ แถมยังมีพวก "หน้ากากขาว"รอถล่มอยู่ประเทศ มันก็เป็นคำตอบว่าทำไมถึงต้องพลิกลิ้นเป็นไม่้หลักปักขี้เลนอย่างที่เห็น ก็เพราะผลประโยชน์ของ ทักษิณ ต้องมาก่อนไงละ คิดออกหรือยัง!!
00 แบ่งงานกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับตำแหน่งนายกฯและรองนายกฯว่าใครคุมหน่วยงานไหน เอาเป็นว่าอาจผิดความคาดหมายเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าความหมายไม่ได้เปลี่ยน เพราะกลายเป็นว่า "รอง1"กลายเป็น "อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แถมยังทำหน้าเป็นคนลงนามขอพระราชทานอภัยโทษอีกด้วย แหมวางแผนได้รัดกุมจริงวุ้ย ส่วนรอง2 ก็ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เรียกได้ว่าล้วนเป็น "เด็กในบ้าน"ทั้งสิ้น แต่สำหรับรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก คุมเบ็ดเสร็จทั้งกลาโหม มหาดไทย สมช.ศอ.บต.ยุติธรรม ก็ขอให้การประสานแก้ปัญหาชายแดนราบรื่นเสียทีนะ ได้โปรดเถอะ !!