ราชภัฏสวนดุสิตจัดทำโพล “ทำใจ” ปัญหาบ้านเมืองอย่างไร แนะเหตุการเมืองวุ่นวายควรทำใจเป็นกลาง รองมาชี้ผู้มีอำนาจย่อมได้เปรียบ พร้อมประหยัด พอเพียง ทำใจรับมือพิษเศรษฐกิจ และมองรัฐฯ ช่วยไม่ไหวรองมา เตรียมดูแลตัวเองให้ดี รับปัญหาอาชญากรรม รองมาชี้สังคมเสื่อม ไกลศาสนา แนะเริ่มที่ตัวเองเป็นคนดี รองมาคือทำตามกฎ เพื่อช่วยสังคมมีสุข
วันนี้ (7 ก.ค.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องประชาชนทำใจอย่างไรกับปัญหาบ้านเมือง ณ วันนี้ ซึ่งบ้านเมืองไทยทุกวันนี้ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งความวุ่นวายทางการเมือง การทะเลาะเบาะแว้งของรัฐบาลและฝ่ายค้าน สภาพเศรษฐกิจที่รัดตัว ตลอดจนภัยสังคมที่มีอยู่รอบตัวในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงและต่างจังหวัด โดยจากผลสำรวจจำนวน 1,566 คน ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2556 สรุปผลดังนี้
ต่อคำถามที่ว่ากรณีความวุ่นวายทางการเมือง การทะเลาะเบาะแว้งของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ประชาชนทำใจอย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 44.89 คิดว่าทำใจเป็นกลาง มีสติ ไม่เข้าข้างหรือฟังความข้างเดียว/ติดตามข่าวสารการเมืองต่อไป อันดับ 2 ร้อยละ 33.73 คิดว่าอำนาจและผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่มีอำนาจมากกว่ามีคนสนับสนุนมากกว่าย่อมได้เปรียบ อันดับ 3 ร้อยละ 12.65 คิดว่าต้องปล่อยให้นักการเมืองบริหารบ้านเมืองต่อไป แต่ขอให้คำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ และอันดับ 4 ร้อยละ 8.73 คิดว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นและการทำงานที่แตกต่างกัน
ส่วนคำถามว่ากรณีข่าวสภาพเศรษฐกิจที่รัดตัว สินค้าแพง รายได้ไม่พอใช้จ่าย ประชาชนทำใจอย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 54.43 มองว่าต้องประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ อดทน ลดความอยากได้อยากมี /ยึดหลักพอเพียง อันดับ 2 ร้อยละ 28.29 มองว่าต้องยอมรับกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ภาครัฐไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ อันดับ 3 ร้อยละ 9.94 มองว่าต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องเอาตัวรอดให้ได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน/ทำงานมากขึ้น หารายได้เสริม และอันดับ 4 ร้อยละ 7.34 มองว่าต้องยอมเป็นหนี้เป็นสิน/กู้ยืม
และคำถามว่ากรณีข่าวสังคมที่โหดร้าย จี้ ปล้น ฆ่า ขาดความมีน้ำใจต่อกัน ประชาชนทำใจอย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 54.67 ระบุว่าต้องรู้จักดูแลตัวเอง ระมัดระวังให้ดี แม้จะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็มีโอกาสเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ อันดับ 2 ร้อยละ 22.13 ระบุว่าสภาพสังคมที่เสื่อมโทรมทำให้คนห่างไกลศาสนา ไม่มีน้ำใจ เห็นแก่ตัว ขาดจิตสำนึกที่ดี อันดับ 3 ร้อยละ 14.40 ระบุว่าปัญหาความยากจน ยาเสพติดยังมีอยู่มากเป็นสาเหตุให้เกิดอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ส่วนอันดับ 4 ร้อยละ 8.80 ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกัน
ขณะที่เมื่อถามว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งจะสามารถช่วยสังคมไทยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 47.22 เสนอว่าต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน เป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อันดับ 2 ร้อยละ 39.14 เสนอว่าปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ในกฎระเบียบของสังคม ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่สร้างความวุ่นวายในสังคม อันดับ 3 ร้อยละ 7.72 เสนอว่าดูแลครอบครัวให้ดี มอบความรักความอบอุ่นให้ลูกหลาน ปลูกฝังในสิ่งดีๆ และอันดับ 4 ร้อยละ 5.92 เสนอว่าช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลสอดส่องสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล/ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ