รองโฆษก พท.ตะเพิด “สุภา” ไปอยู่กับ ปชป. หลังแฉทุจริตโครงการจำนำข้าวทุกขั้นตอน เชื่อมีวาระซ้อนเร้นทางการเมือง ทำงานสอดรับกัน ซัด “คณิต” ติงกู้เงิน 2 ล้านล้านขัด รธน. ทำบ้านเมืองเสียโอกาส ซ้ำเติมรัฐบาลวิจารณ์สอดรับกับจังหวะที่ ปชป.ยื่นถอดถอน ครม.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตการเกษตร ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภาว่า มีการโกงในโครงการรับจำนำข้าวในทุกขั้นตอนว่า วันนี้สังคมมีคำถามถึง น.ส.สุภาได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในฐานะข้าราชการที่ดีแล้วหรือไม่ มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง ฝักใฝ่ขั้วการเมืองใดหรือไม่ ถ้าหากไม่อยากทำหน้าที่กับ ครม.จริง อยากไปอยู่กับครม.เงาก็ขอให้ประกาศชัดๆ เพราะแทนที่จะสนับสนุนข้อมูลให้กับรัฐบาล มีอะไรก็เอามาคุยกัน กลับปล่อยให้ข้อมูลที่ไม่มีการตรวจสอบไปปรากฏในแนวรบของพรรคประชาธิปัตย์ ทุกระดับ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การทำหน้าที่ของนางสุภาจึงไม่น่าจะเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ทำตัวเหมือนปาปาราซซี่ในวงการบันเทิง ตัดต่อภาพ อาศัยเรื่องที่เข้าใจยากเป็นช่องว่างในการกล่าวหารัฐบาล เพื่อสร้างภาพให้คนมองรัฐบาลในทางลบ เป็นที่น่าสังเกตว่า การเคลื่อนไหวของ น.ส.สุภากับพรรคประชาธิปัตย์สอดรับเป็นคอหอยลูกกระเดือก ซึ่งผู้บังคับบัญชาของ น.ส.สุภา ควรจะต้องเร่งทำความจริงในเรื่องนี้ให้ปรากฏ เพราะพวกรอแห่ว่ารัฐบาลข่มขู่ น.ส.สุภา ได้เริ่มทำงานแล้วอย่างเป็นกระบวนการ
นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงกรณี นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมาการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ท้วงติงการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 เรื่องเงินบริหารราชการแผ่นดินว่า น่าสงสัยที่เหตุใดอยู่ดีๆ นายคณิตมีหน้าที่ปฏิรูปกฎหมายแต่กลับมาพูดถึงประเด็นที่สร้างความร้อนแรงทางการเมือง สอดรับกับจังหวะที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี เป็นการออกมายังจุดนัดหมายเพื่อซ้ำเติมรัฐบาลหรือไม่
“ขอถามว่าข้อเสนอของนายคณิตทำให้บ้านเมืองเสียโอกาสหรือไม่ เพราะถ้าการกู้เงิน 2ล้าน ล้านบาท ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แสดงว่าเงินกู้ในโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ยกเว้นเงื่อนไขของกระทรวงการคลังทุกอย่างประชาชนได้ประโยชน์ ขอยืนยันว่าการกู้เงินไม่ได้ใช้เงินแผ่นดิน ตามมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญเพราะความหมายของเงินแผ่นดินตามาตรา169 คือ เป็นเงินที่เก็บเข้าคลังแล้วนำไปใช้ แต่การกู้เงินคือกู้เงินเพื่อการลงทุน มีกระบวนการติดตามของรัฐสภา ดังนั้น การกู้เงินมาใช้จึงไม่อยู่ในความหมาย มาตรา 169”
นายอนุสรณ์กล่าวว่า เลขาฯ กฤษฎีกาก็ยืนยันกฎหมายที่มีลักษณ์เหมือนกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้าน ทำมาหลายสิบปีแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำ แถมหนักกว่า เพราะ พ.ร.ก.ตรวจสอบไม่ได้ พ.ร.บ.ต้องผ่าน 2 สภา 6 วาระ นายคณิตอย่ากินยาผิดซอง ยึดมั่นในการทำหน้าที่กรรมการปฏิรูปกฎหมาย ปรับโครงสร้างกฎหมายให้เป็นประชาธิปไตยสูงสุด อย่ามัวไปจัดการงานนอกสั่ง หรือรับงานใครมาป่วนรัฐบาล
ส่วนการที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐละเมิดรัฐธรรมนูญถามว่า กู้ 2 ล้านล้าน เอาเงินภาษีประชาชนใช้หนี้ หรือ เงินตระกูล ชินวัตร ใช้หนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการพูดแบบโง่จริงหรือแกล้งโง่ เพราะถ้าใช้ตรรกะนี้ตระกูลเวชชาชีวะ จาติกวณิช เทือกสุบรรณ สภาวสุ ต้องชดใช้หนี้แทนในความล้มเหลวไทยเข้มแข็ง ทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะฉาว สร้างโรงพักได้แต่ตอ ตู้หยอดน้ำแสงอาทิตย์