เวลาผ่านไปแค่ 24 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ลืมโพยที่เพิ่งท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทองไปหยกๆ
วันที่ 2 กรกฎาคม นายกฯ นกแก้ว นำคณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ยืนหน้าทำเนียบรัฐบาล ประกาศว่า
"รัฐบาลจะดำเนินการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเน้นการกระทำเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และขอยืนยันว่า แม้จะเป็นผู้ที่มีอิทธิพล หากพบว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายทันที"
วันเดียวกัน นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เรื่อง โครงการรับจำนำข้าว ของรัฐบาลว่า
"การรับจำนำข้าวทุกเมล็ด เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจดทะเบียนเกษตรกรที่แจ้งตัวเลขเกินความเป็นจริง รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนเทียนในโครงการ และการแก้ไขขั้นตอนการสีแปรข้าวใหม่ ฯลฯ
ตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิต คือฤดูกาลผลิตนาปี 54/ 55 ฤดูกาลผลิตนางปรัง 55 และฤดูกาลผลิตนาปี 55/ 56 เบื้องต้นมีตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท
หากรวมการดำเนินการถึง เดือนพฤษภาคม 2556 ตัวเลขการขาดทุนอาจจะมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่างๆ ที่มีการปิดตัวเลขวันที่ 31 มกราคม 2556 ใช้วงเงินกว่า 4.96 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
การคำนวณตัวเลขต้นทุนการขายข้าว ต้องใช้ราคาขายข้าวต่ำสุดกับสูงสุด จาก 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคำนวณ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้แจ้งตัวเลขต้นทุน ซึ่ง อ.ต.ก.และ อคส.แจ้งบัญชีข้าวสารแปรรูปร้อยละ 25 จากที่ควรจะได้ข้าวร้อยละ 59-61 ทำให้ไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ จึงต้องรอตัวเลขจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง
ส่วนตัวเลขข้าวค้างสต็อกของรัฐบาล 11 ล้านตัน แต่ อ.ต.ก.และ อคส.ระบุว่ามีข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ได้ทวงถามตัวเลขการขายข้าวแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า 'เป็นความลับ' และมีผู้ทราบข้อเท็จจริงเพียง 3 คน
คือ 'รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ' เท่านั้น!
ทำให้ไม่สามารถนำตัวเลขดังกล่าวมาคำนวณปิดบัญชี โดยเฉพาะสัญญาขายข้าว 10 ล้านตัน เป็นสัญญาขายข้าวให้กับส่วนใด?"
วันรุ่งขึ้น เมื่อผู้สื่อข่าวนำเรื่องนี้ไปถาม นายกฯ เธอตอบว่า “ก็ให้คุณสุภาพิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่าไหม”
คนโกง หรือ คนที่ถูกกล่าวหาว่าโกง มักจะถามหาใบเสร็จ การป้องกันการทุจริต คอร์รัปชั่น ที่ล้มเหลว และนับวันยิ่งโกงกันอย่างหน้าด้านมากขึ้น ก็เพราะข้ออ้างว่า ไหนละใบเสร็จ นี่ละเป็นข้ออ้างของคนโกง และคนที่มีหน้าที่ปราบคนโกงคือรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิ่งประกาศว่า จะต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเน้นการกระทำเพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม กลับปกป้อง การทุจริตในโครงการจำจำข้าวอย่างออกหน้าออกตา ด้วยการทวงถาม ใบเสร็จ
หากผู้ที่บอกว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริต ทุกขั้นตอน เป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล นักวิชาการ หรือบุคคลอื่นๆ การทวงถามใบเสร็จของนายกฯ นกแก้ว ก็พอจะกล้อมแกล้มรับฟังได้ แต่นี่คือ ผู้ใต้บังคับบัญชา ข้อมูล ตัวเลขต่างๆ ก็เป็นข้อมูลของทางราชการ
การที่รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และปลัดกระทรวงการคลัง นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ย้ายนางสาวสุภากลับมาเป็นประธานคณะอนุกรรมการ ปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เพิ่งจะมีคำสั่งย้ายให้พ้นจากหน้าที่นี้ไปไม่ถึงเดือน ก็เป็นการแสดงว่า ยอมรับในข้อมูลตัวเลขของ นางสาวสุภาไม่ใช่หรือ
ในขณะที่ หนังหน้าไฟ รับหน้าเสื่อแทนพี้น้องตระกูลชินวัตร คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ต้องถูกอัปเปหิ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็เพื่อลดกระแสความล้มเหลวของโครงการรับจำนำข้าว ใช่ไหม
ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว นางสาวสุภา คือ ผู้สอบบัญชี ตรวจสอบรายรับ รายจ่าย การใข้เงินของโครงการรับจำนำข้าว ให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งคือ ซีอีโอ ของบริษัทได้รับทราบ นางสาวสุภา“เป่านกหวีด” ให้ซีอีโอ และผู้ถือหุ้นคือประชาชนผู้เสียภาษี ตื่นตัวหันมาดูว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการโกงกันเกิดขึ้น มีการขาดทุนกันเป็นเงินถึง 2 แสนกว่าล้านบาท
ซีอีโอที่ดีและไม่โง่ มีหน้าที่ที่จะต้องรับลูกจากผู้สอบบัญชี ไปสืบหาว่า ใครโกง โกงตรงไหน ไม่ใช่ไปไล่เบี้ยเอากับผู้สอบบัญชีว่า ไหน ใคร โกง ใบเสร็จอยู่ไหน ไปหาหลักฐานมาสิ อย่าพูดลอยๆ เพราะผู้สอบบัญชีได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว คือ แสดงตัวเลขผลกำไรขาดทุน และความผิดปกติของการดำเนินงาน
หากไม่เชื่อผู้สอบบัญชีคนนี้ แล้วเอากลับมาทำไม
เรื่องการทุจริตทุกเมล็ดในโครงการรับจำจำข้าว เป็นเรื่องที่ปิดไม่มิดแล้ว มีข้อมูลแพร่กระจายไปทั่ว เปิดเผยกลโกงทุกขั้นตอน รวมทั้งใครที่เป็นคนโกง มีแต่คนที่ร่วมขบวนการโกง และคนโง่เท่านั้น ที่จะทวงถามหาใบเสร็จ อย่างที่ นายกฯนกแก้ว ทวงถามจากนาสาวสุภา
เรื่องโง่นั้นมีข้อยุติที่เห็นพ้องกันเกือบทั้งประเทศแล้วว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ โง่หรือไม่ ก็เหลือแต่เรื่องรู้เห็นเป็นใจกับการโกงข้าวทุกเมล็ดด้วยหรือเปล่า จึงได้ทวงถามใบเสร็จ จากประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว