• สรุปลงพื้นที่ยโสธร ส่งเสริมข้าวเกษตรอินทรีย์-มุกดาหารผลักดันโฮมสเตย์
วันนี้ (2 ก.ค.) นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งล่าสุด พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำให้รัฐมนตรีมุ่งมั่นทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และเร่งผลักดันนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยขอให้ยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริตการมีส่วนร่วมและมีการเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบการทำงาน
นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้สรุปรายงานการลงพื้นที่ จ.ยโสธร และ จ.มุกดาหาร ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-1 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วยว่า จ.ยโสธรเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์มากที่สุด โดยที่เกษตรกรไม่ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว เพราะข้าวเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าการเข้ามาในโครงการรับจำนำข้าว จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมในเรื่องงานวิจัยส่งเสริมคุณภาพข้าว การเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้เป็นจังหวัดต้นแบบการปลูกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ นอกจากนี้ นายกฯอยากให้มีการปลูกพื้นชนิดอื่นในพื้นที่เพิ่มเติม เพราะปัญหาที่ จ.ยโสธร คือปัญหาน้ำไม่เพียงพอ จึงมีการเสนอให้มีการปลูกอ้อยและมันสำปะหลังเพิ่มเติมด้วย ส่วน จ.มุกดาหารเป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดน มีศีกยภาพในการพัฒนาโฮมสเตย์ และลองสเตย์ได้ในอนาคต จึงมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาแนวทางผลักดันในเรื่องนี้ ทั้งนี้รายได้ของประชากร จ.มุกดาหารนั้นต่ำมาก จึงมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาแนวทางในการพัฒนาโลจิตส์ให้เกิดการจ้างงานในจังหวัดด้วย
• มอบหมาย “พงศ์เทพ” ดูคำสั่งศาลปกครองเบรกโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน
นายธีรัตถ์ ยังได้กล่าวถึงการดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองให้ชะลอโครงการกู้เงิน 3.5 แสนล้านเพื่อการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบว่า นายกฯได้แจ้งในต่อที่ประชุม ครม.ว่าได้มอบหมายให้ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาคำสั่งศาลปกครองว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงมอบหมายให้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจัดทำประชาพิจารณ์ได้ทันทีส่วนโครงการที่สามารถดำเนินการได้
• รับทราบผลการศึกษาปรับปรุง ขสมก. แนะให้สัมปทานเอกชนทั้งหมด
นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาวาระเพื่อทราบผลการศึกษาปรับปรุงการให้บริการขนส่งมวลชน (ขสมก.) จัดทำโดย สภาที่ปรึกษาสังคมเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยมีการสรุปแนวทางในการแก้ไขปัญหาการขนส่งมวลชน อาทิ โครงการเช่ารถยนต์ปรับอากาศโดยใช้ก๊าซธรรมชาติไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลประกอบการของ ขสมก.ได้ เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สศ.พบว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้ระบบสัมปทานเดินรถให้กับเอกชนทั้งหมดจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นและช่วยลดต้นทุนต่างๆ และภาครัฐจะได้ค่าสัมปทานรายเดือน ทั้งนี้ สศช.ได้ให้คำแนะนำว่า ขสมก.ต้องจัดการเดินรถรูปแบบใหม่ โดยการประมูลการให้บริการเชิงคุณภาพและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นความเห็นที่นำเสนอเข้ามาให้ ครม.รับทราบและพิจารณาต่อไป
• เห็นชอบ พ.ร.ฎ. เรียกประชุมสภาฯ 1 ส.ค.
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฏีกา (พ.ร.ก.) เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ. 2556 เพื่อให้มีการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญตั้งแต่วันทื่ 1 ส.ค. 2556 เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และจะดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
• แต่งตั้ง “อัชพร” นั่งประธานบอร์ด ก.ล.ต.
นายภักดีหาญส์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ประธานบอร์ด ก.ล.ต.) แทน นายชัยเกษม นิติศิริ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากการลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รวมทั้งยังมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แทน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ลาออกจากตำแหน่ง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 8 คน เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติเศรษฐกิจการเกษตร พ.ศ.2522 เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดหนด 3 ปีตามวาระ โดยแบ่งเผ็นผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ 2.นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล 3.นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ 4.นายอรรณพ คุณาวงษ์กฤต และผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร ประกอบด้วย 1.นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ 2.นายประสิทธิ์ บุญเฉย 3.นายอนันต์ ศิริมงคลเกษม 4.นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์
• ปรับเงินเพิ่มสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมได้อนุมัติปรับเงินเพิ่มให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โดยปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวรวมกับเงินตอบแทน ย้อนหลังจาก 8,200 บาท เป็น 8,610 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.54 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 54 และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.55 เป็นต้นไป ปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวรวมกับเงินค่าตอบแทนจาก 8,610 บาท เป็น 9,000 บาท โดยกระทรวงมหาดไทยขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ในการดำเนินการดังกล่าว รวม 57,128,220 บาท สาเหตุที่มีการปรับเงินเพิ่มดังกล่าว ก็เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการปรับเพิ่มเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ ที่ได้มีการเพิ่มไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงมีการปรับเพิ่มให้อาสารักษาดินแดนที่มีเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อตอบแทนความเสียสละของกองอาสารักษาดินแดน ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง ด้วยความความอุตสาหะ อดทน และเสียสละ
• รับทราบผลดำเนินการต้านคอรัปชั่น เปิดสายด่วน-เว็บไซต์-ตู้ร้องเรียน
ร.ท.หญิง สุณิสา เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมได้มีมติรับทราบผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์เชิงรุกในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นเจ้าภาพหลักในการตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจิรตคอร์รัปชั่น โดยเปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียนการทุจริต 1206 เพื่อเป็นการบูรณาการการตรวจสอบรับแจ้งเบาะแสเรื่องร้องเรียน ป้องกัน ปราบปราม อย่างเบ็ดเสร็จ นอกจากนั้นยังได้จัดทำเว็บไซต์ www.stopcorruption.co.th และติดตั้งตู้ร้องเรียนการทุจริตทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมีช่องทางในการร้องเรียน และมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้จะมีบทลงโทษที่เข็มงวดโดย สำนำงาน ป.ป.ท.จะบูรณาการทำงานร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกันเร่งดำเนินคดีปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะเพื่อแสดงถึงเจตานารมณ์และความมุ่งในการปราบปรามการทุจริต
นอกจากนี้ สำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังได้รายงานว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ...ทั้ง 2 ฉบับแล้วเสร็จ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 ก.พ. 2556 เป็นต้นมา ร่วมทั้งให้มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมจริยธรรมขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมให้ข้าราชการยึกถือปฏิบัติตามหลักคุณธรรม จรรยาบรรณข้าราชการ และประมวลจริยธรรม
