xs
xsm
sm
md
lg

กห.จัดเออร์ลีรีไทร์ลดกำลังพลชง ครม.สัปดาห์หน้า สั่งทุกเหล่าพร้อมรับภัยพิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
โฆษกกลาโหม เผยสำนักปลัดจัดโครงการเกษียณอายุราชการลดกำลังพล หวังประหยัดงบกว่าพันล้าน เอาแค่ 10% จากทั้งหมด ชง ครม.สัปดาห์หน้า ขณะที่ประชุมกลาโหมสั่งทุกเหล่าทัพพร้อมรับมือภัยพิบัติ

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมว่า ตามที่ รมว.กลาโหม ได้ประกาศเจตนารมณ์ให้มีการปรับขนาดกำลังพลให้มีความเหมาะสมกับภารกิจด้านสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จึงได้จัด “โครงการเกษียณอายุราชการ” ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่เคยจัดมาแล้วในปี 2552 เพื่อลดกำลังพลที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ทำให้กองทัพกะทัดรัดขึ้น และเป็นการแก้ปัญหากำลังพลผู้สูงอายุ เป็นการประหยัดงบประมาณในภาพรวมของบำเหน็จ บำนาญได้ ในอนาคตจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท

“ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ 1.จะต้องมีอายุราชการ 50 ปีขึ้นไป 2.มีเวลารับราชการไม่ต่ำกว่า 2 ปีขึ้นไป โดยสิทธิประโยชน์ของกำลังพลที่จะได้เงินก้อนจูงใจจำนวน 10-15 เท่า ของเงินเดือนสุดท้ายที่ได้ ระยะเวลามีกำหนด 5 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค.56-1 ต.ค.60 จำนวนของผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการลาออกทั้งสิ้นมี 10 เปอร์เซ็นต์ จากยอดกำลังพลทั้งหมด 5,901 นาย หากมีกำลังพลต้องการจะร่วมโครงการเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ เราจะพิจารณาจากคนที่มีตำแหน่งประจำก่อน และเป็นหน่วยกำลังรบ และสนับสนุนในการรบ ทั้งนี้ต้องการให้หน่วยกำลังรบได้มีกำลังพลที่มีอายุน้อย และมีความคล่องตัว ไม่มีปัญหาในเรื่องของอายุในเรื่องของการดูแลงาน ในเรื่องของชั้นยศก็จะพิจารณาจากนายทหารชั้นประทวนก่อนหลัก ในส่วนของผู้เข้าร่วมโครงการยศชั้นนายพล มีโอกาสสมัครใจเพื่อลาออกก่อนเกษียณอายุราชการเหมือนกัน แต่ต้องมีอายุราชการเหลือไม่ต่ำกว่า 2 ปี และไม่นับวันทวีคูณ” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนยอดเงิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.เงินก้อนจะมีทั้งสิ้น 1,982 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับไปเลย โดยใช้งบประมาณของหน่วยเอง คืองบประมาณ บุคลากร ไม่ได้ขอเพิ่มเติมจากรัฐบาลแต่อย่างใด ส่วนที่ 2.เป็นเงินบำเหน็จ บำนาญ จำนวนเงิน 2,726 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ต้องขอจากรัฐบาล จากสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง สำหรับการประชุมที่ผ่านมา กรมเสมียนตราได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานข้าราชการพลเรือน เข้ามาหารือร่วมกัน และเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เหมาะสม เงินต่างๆ ที่ได้มานี้ทางกระทรวงกลาโหมขอยืนยันว่า ไม่ใช่สิทธิประโยชน์ของกำลังพล แต่เป็นในส่วนที่ทางกระทรวงกลาโหมต้องการที่จะปรับลดกำลังพลให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งเรามีการตั้งเป้าเพื่อลดกำลังพลเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ร้อยละ 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะกำลังพลที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีร้อยละ 26.6 ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2551-2556 มีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว กว่า 20,000 นาย และโครงการในปีนี้จะนำเข้า ครม.ในวันที่ 2 ก.ค.

โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงอีกว่า ในที่ประชุมทาง รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาทางกองทัพบกได้เป็นกองทัพที่มีความพร้อมและทำได้ดีซึ่งมีการปรับแผนทั้งหมด 3 ระดับ คือ 1.การเตรียมการ 2.เป็นการปฏิบัติ และ 3.เป็นการคลี่คลายสถานการณ์ โดยมีการเตรียมกำลังแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.กำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยได้จัดกำลัง “กองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน” มีทั้งสิ้น 147 กองร้อย กำลังพล 22,050 นาย มีภารกิจในการออกปฏิบัติงานทันทีเมือเกิดเหตุ โดยไม่ต้องรับคำสั่งจากหน่วยเหนือ โดยจะมียุทโธปกรณ์ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกจำนวน 1,911 คัน ชุดวิทยุสื่อสารติดรถ 1,911 ชุด เรือทองแบน และเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งพร้อมให้การช่วยเหลือในทันที เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ โดยไม่ต้องรับการสั่งการจากหน่วยเหนือ

พ.อ.ธนาธิป กล่าว่า 2.หากสถานการณ์ภัยพิบัติขยายวงกว้างออกไป มีแนวโน้มทวีความรุนแรง และมีผลกระทบต่อประชาชน กองทัพบกจะจัดกำลังพล เครื่องมือช่างจากกรมทหารช่าง ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะจากหน่วยนอกพื้นที่ประสบภัยเข้าให้การช่วยเหลือถึงพื้นที่ประสบภัยภายใน 12 ชั่วโมง และในระดับที่ 2 หากมีภัยคุกคาม หรือภัยพิบัติ ทางกองทัพบกจะจัดนายทหารติดต่อประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบกับประชาชนโดยตรง ชุดประเมินสถานการณ์ ขั้นที่ 3 เป็นการเน้นในเรื่องของการคลี่คลายสถานการณ์ โดยจะเน้นโครงสร้างเป็นหลัก โดยจะจัดชุดทหารช่างเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น