ถึงเวลาสร้างภาพ “ณัฐวุฒิ” ผุดแคมเปญตรวจสต๊อกจำนำข้าว จัดอีเวนต์ “เปิดทุกโกดัง ดูทุกคลังสินค้า ผ่าทุกโรงสี” แต่ลุยจริงสัปดาห์หน้า ปัดเปิดช่องโรงสีขนย้ายข้าวเข้ามาเก็บในโกดัง อ้างให้ สตช.ดูแล “วรพงษ์” โวส่งสายตรวจเฝ้าประตูทางเข้าคลัง ส่วนรองเลขานายกฯ ส่ง “แรมโบ้อีสาน” กล่อมชาวนาบุกทำเนียบฯ
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือ ในโครงการรับจำนำข้าว ที่มี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แถลงภายหลังการประชุมนัดแรกว่า ในการประชุมองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้มารายงานด้วยวาจาต่อที่ประชุมถึงปริมาณข้าวคงเหลือ ก่อนจะส่งเป็นรายงานตัวเลขมาในวันที่ 24 มิ.ย.เบื้องต้นมีข้อมูลข้าวสารทั้งหมด 17 ล้านตันเศษ และข้าวเปลือก 2 ล้านตันเศษ มีจำนวนโรงสี โกดัง ไซโลกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศ
เป้าหมายคือ การลงไปตรวจสอบทั้งหมด โดยจะกำหนดวันที่ 29 มิ.ย.เป็นวันดีเดย์ปฏิบัติการพร้อมกัน ตรวจทุกโกดัง ทุกโรงสี ไซโล คลังสินค้า ภายใต้ชื่อ “เปิดทุกโกดัง ดูทุกคลังสินค้า ผ่าทุกโรงสี” โดยจะหารือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอใช้ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่ตั้งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชั้น 20 เป็นศูนย์กลางรับรายงาน ในการปฏิบัติการวันดังกล่าว ซึ่งตนจะประจำอยู่จุดนั้น ขณะเดียวกันจะมีศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร โดยมี พล.ต.ต.ธวัช ไปตรวจในวันดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะตรวจสอบทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ คาดว่าในช่วงเย็นหรือค่ำของวันที่ 29 มิ.ย.จะได้ข้อสรุปการตรวจสอบเชิงปริมาณ หากมีข้อพิรุธจะมีการรายงานทันที ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดมาตรการกรณีพบข้าวหายว่า ถ้าข้าวสารของโรงสี โกดัง ไซโล คลังสินค้าใดๆ หายจากที่แจ้งขึ้นทะเบียนไม่เกิน 5% ข้าวเปลือกไม่เกิน 10% ยังอยู่ในวิสัยที่เกิดขึ้นได้ แต่จะต้องเอามาเติมให้เต็มภายในฤดูกาลรับจำนำข้าวนั้นๆ แต่ถ้าหากมีการขาดหายไปเกินกว่านั้น จะแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด พร้อมทั้งต้องหาข้าวมาเติมให้เต็มด้วย ขณะเดียวกันจะยุติการรับมอบข้าวในโครงการทันที และถ้าถึงที่สุดแล้วศาลตัดสินว่ามีความผิด ก็จะดำเนินการตัดสิทธิไม่ให้รับจำนำข้าวของรัฐบาลอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ทอดเวลาวันดีเดย์ไปในวันที่ 29 มิ.ย.จะเป็นการเปิดโอกาสให้โรงสีขนย้ายข้าวเข้ามาเก็บในโกดังหรือไม่ เพราะรัฐบาลประกาศล่วงหน้าถึง 1 สัปดาห์ นายณัฐวุฒิ กล่าวตอบว่า ปฏิบัติการนี้จำเป็นต้องใช้เวลา แล้วที่ประชุมเข้าใจและเห็นตรงกัน แต่ในระหว่างนี้จะมีสายตรวจชุดที่จะคอยสังเกตการณ์ทำหน้าที่ในทุกพื้นที่และทุกจังหวัด เพื่อติดตามตรวจสอบข้อมูลก่อนอยู่แล้วว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติหรือไม่ มีความพยายามในการขนถ่ายสินค้าอย่างไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ตรงนี้ทางคณะทำงานจะประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข้อมูลในพื้นที่ และหากมีความเคลื่อนไหวแบบนั้นไม่น่าจะรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ไปได้
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบคนที่ไปตรวจสอบอย่างไรว่าจะไม่มีการนัดแนะหรือรู้กันกับเจ้าของโกดัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวลาปฏิบัติหน่วยงานทุกหน่วยจะเข้าพื้นที่พร้อมกัน ตรงนี้การตรวจสอบภายในเกิดขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทั้งตำรวจ เซอเวเยอร์ อคส.และตัวแทนอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และขอเชิญชวนสื่อมวลชนทั่วประเทศทั้งส่วนกลางและภูมิภาค พอรัฐบาลประกาศดีเดย์ให้สื่อมวลชนจัดโปรแกรมโดยเลือกเอาตามใจชอบว่าจะไปสังเกตการณ์การตรวจสอบโกดังที่ไหน นอกจากนี้ ยังมีที่ ศปก.ตร.และ ศปก.ส่วนหน้า จะคอยกำกับการปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงผู้ตรวจสอบเท่านั้นที่จะรายงานเข้าศูนย์ได้ แต่หากใครพบเห็นความไม่ชอบมาพากลให้รายงานข้อมูลมาได้เช่นกัน เรื่องนี้ทำกันเปิดๆ ตรงไปตรงมา
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติงาน อำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้า กล่าวว่า ในแต่ละประตูคลังข้าวจะมีคนถือกุญแจ 3 ดอก และ 3 คน คือจังหวัด ตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ และฝ่ายปกครอง และจากประสบการณ์การตรวจสอบในรอบที่ผ่านมา ตนได้ส่งรถสายตรวจไปเฝ้าตรงประตูทางเข้าคลังตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนวันที่เราจะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งไม่ได้ใช้กำลังมากก็สามารถเฝ้าได้ และการที่จะมีการเคลื่อนย้ายคงต้องใช้รถใหญ่อยู่แล้ว คงไม่สามารถพ้นสายตาได้
ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบจะมีคนชี้เป้ามา และถ้าข้อมูลเสร็จสามารถดำเนินการได้เลย ส่วนการที่ต้องระบุวันตรวจสอบก่อนล่วงหน้านั้น อย่างไรโรงสีก็ต้องทราบอยู่แล้ว ซึ่งการจะลงพื้นที่ในช่วงกลางเดือนหรือปลายเดือน ที่ประชุมเห็นว่าจะใช้เวลามากจึงต้องกำหนดวันเดียวในการปูพรม และการที่เราประกาศออกไปผลประโยชน์ตกกับแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ที่มีความเป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอาจร่วมมือกับทางโรงสีนั้น ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีทั้งบวกและลบ แต่เชื่อว่าคงไม่มากถึงกับทำให้เราเสียหาย และข้าวไม่เหมือนกับยาเสพติด เป็นกระสอบใหญ่ๆ มีน้ำหนัก ไม่สามารถซุกซ่อนได้เหมือนยาเสพติด ทั้งนี้ เบื้องต้นทางคณะทำงานมีข้อมูลโรงสีและโกดังต้องสงสัยแล้ว แต่ยังขอปิดเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สมาคมชาวนาฯจะเดินทางมาให้รัฐบาลทบทวนการปรับลดราคารับจำนำข้าวนั้นได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยมอบหมายให้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแล รวมถึงตัวแทนชาวนาที่จะเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย