xs
xsm
sm
md
lg

ลดราคาจำนำข้าวเผชิญหน้าชาวนา ได้เวลานับถอยหลังรัฐบาล!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ถามว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะรู้หรือไม่ว่าการปรับลดราคารับจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาทเหลือ 12,000 บาท และจำกัดโควตาไม่เกินรายละ 5 แสนบาทนั้นจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งและจะเกิดม็อบชาวนาทั่วประเทศ เป็นการทำลายฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ก็ต้องย้ำว่า “รู้” และรู้ดีเสียด้วย แต่ที่ต่องทำแบบนี้ก็เป็นเพราะมันถึงทางตัน จะเดินหน้าต่อไปแบบเดิมไม่ได้ แบบเดิมมันเจ๊งแล้ว จะพังครืนแบบสยดสยองในเวลาอันรวดเร็ว จึงต้องกัดฟันเปลี่ยนแปลงใหม่ แม้ว่าจะต้องผิดใจกับชาวนาก็ตาม

รับรู้กันอยู่แล้วว่า การลดราคาจำนำข้าวลงมามันก็เหมือนกับลดเงินในกระเป๋าของชาวนาทันทีตันละไม่ต่ำกว่า 3-4 พันบาท รวมแล้วครอบครัวละไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นบาทตามที่นายกสมาคมชาวนาหลายสมาคมให้ข้อมูล ซึ่งไม่ได้แตกต่างกัน

การเคลื่อนไหวต่อต้านของชาวนาเกิดขึ้นทันทีหลังจากรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว เพราะนั่นหมายถึงเรื่องเงินเรื่องทอง เรื่องผลประโยชน์ย่อมมีอารมณ์ร่วมได้เร็ว และเมื่อพิจารณาจากอารมณ์ของชาวนาที่เกิดขึ้นเริ่มมีการพัฒนาไปสู่ “อารมณ์รุนแรง”มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปฏิกิริยาเดียวกันทั่วประเทศ เริ่มมีการนัดหมายหารือเพื่อกำหนดความเคลื่อนไหวแทบจะพร้อมๆ กันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนใหม่

อย่างไรก็ดี ในเมื่อมันผูกพันกับเรื่อง “เจ๊งหมดตูด”เดินหน้าไม่ได้ ต่อให้อยากเอาใจชาวนารับจำนำในราคาเดิมใจจะขาด แต่มันก็ทำไม่ได้เปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาชั่วข้ามคืนไม่ได้ อีกทั้งยังไม่อาจชี้แจงได้ตรงไปตรงมาก็ไม่ได้ จะบอกว่ารัฐบาล “ถังแตก”ให้เห็นใจหน่อยก็พูดไม่ได้ จึงต้องเลี่ยงเป็นพูดว่า “เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง” เพราะถ้าดีจริงชาวนาได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงก็ต่องเดินหน้าต่อ ไม่ต้องสนเสียงคัดค้าน แต่นี่มันตรงกันข้าม เพราะแค่สองฤดูกาลยังขาดทุนบักโกรกปิดบัญชีไม่ลง และไม่อาจปิดบังได้อีกแล้วต่างหากจึงต้องรับสภาพอย่างที่เห็น

สิ่งที่น่าจับตาไปกว่านั้นก็คือ ผลจากการปรับลดราคาจำนำข้าวลงมาคราวนี้จะส่งผลสะเทือนต่อคะแนนเสียงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญมีผลกระทบต่อ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แน่นอนว่าความขัดแย้งสร้างความไม่พอใจของชาวนาที่เกิดขึ้นอาจยังไม่ถึงขั้นทำให้รัฐบาลอยู่ในภาวะวิกฤติทันที แต่ความหมายก็คือ ความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล ต่อ ทักษิณ ในฐานะเป็นต้นคิดลักษณะ “แม้วคิดแล้วสั่งให้ปูทำ” มันจะเริ่มเสื่อมมนต์ทันที สภาพความเป็นเทวดาจะค่อยๆ หายไป และจะเกิดความรู้สึก “ถูกหลอก” ถูกต้มจนเสียความรู้สึกเข้ามาแทน

คำถามก็คือเมื่อเกิดม็อบชาวนาแล้ว ต่อไปมันก็จะมีสารพัดม็อบตามมาออกันอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีรายการปักหลักพักค้างผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะเมื่อพิจารณาย้อนกลับไปกลับไม่พบว่ารัฐบาลชุดนี้ได้มีผลงานอะไรให้ “ประทับใจสักเรื่องเดียว” ไม่มีเลยจริงๆ เรื่องของแพง ค่าครองชีพสูง สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศกำลังมองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวและอาจเข่าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปีนี้ หลายนโยบายประชานิยมที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้กลับไม่ส่งผลดีตามเป้าหมาย ไม่ว่ารถคันแรก ค่าแรง 300 บาท กลับไปเพิ่มหนี้ครัวเรือน จากผลสำรวจก็ชี้ให้เห็นว่าความเป็นอยู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เกิดเสียงวิจารณ์หนักข้อขึ้นทุกวัน ยิ่งมาเจอกับเรื่องจำนำข้าวเข้าไปอีก มันก็เหมือนสองแรงบวก ย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงแน่

เพราะนั่นหมายความว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์เริ่ม “ขาลอย” ทันที เสียงที่เคยสนับสนุนเต็มเหนี่ยวแบบสุดลิ่มทิ่มประตูในอดีตก็จะหายไป แม้จะไม่เกลียดไม่สวิงขั้วไปทางอื่น แต่ก็ต้องหมางเมินรู้สึกเฉยๆ แน่นอน เพราะนี่คือความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นตรงหน้า เงินที่คาดว่าจะได้กลับหายวับไปทันที

สภาพของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในเวลานี้ก็ต้องบอกว่ากำลังเดินเข้าสู่ภาวะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้จะนับถอยหลังเต็มทีแล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาเร็วแบบคาดไม่ถึงก็เป็นเพราะนี่คือโลกของสังคมยุคใหม่ ยุคของโซเชียลมีเดีย ที่มีการบันทึกหลักฐานข้อมูล และส่งต่อถึงกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวบ้านเป็นคนกำหนดข่าวเอง นำเสนอรายงานเผยแพร่กันเอง ไม่ใช่ต้องฟังนักการเมือง แบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งปรากฏการณ์ของ “หน้ากากขาว” ก็เกิดขึ้นในทำนองนี้แหละ ซึ่งนับวันจะเกิดกระแสต่อต้านลุกลามออกไปรวดเร็วกว่าเดิม

แม้ว่าปัญหาความล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนใต้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับเรื่องปากท้อง การทุจริตที่ล่าสุดชาวนาก็กล่าวหาออกมาเองว่าสาเหตุที่ลดราคาจำนำมาจากเรื่องการบริหารจัดการที่ล้มหลวของรัฐบาล โดยเฉพาะการทุจริตของพวกนักการเมือง มันก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลและครอบครัวของ ทักษิณ กำลังอยู่ในฐานะลำบากจริงๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์มันทำท่าพลิกผันในชั่วข้ามคืนจริงๆ!!


กำลังโหลดความคิดเห็น