นายกฯ สั่งพาณิชย์ตั้ง “เซอร์เวเยอร์” ประสานตำรวจสอบโกดังจำนำข้าวทุกแห่ง หลังตัวเลขค้างสต๊อกไม่ตรง-ข้าวเน่า ชี้ถ้าพบความเสียหายต้องชดเชยตามราคาต้นทุน ปากแข็งอ้างขาดทุนเพราะดูแลชาวนา ไม่บอกปรับ ครม.เมื่อไหร่ ยิ้มใส่ถูกถามอุทธรณ์คำสั่งอดีตเลขาฯ สมช.
เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) รวมถึงความเห็นของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่ง ครม. ได้รับทราบและให้นำรายละเอียดทั้งหมดให้ กขช. พิจารณารายละเอียดต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงจะมีการลดราคาการรับจำนำข้าวจาก 1.5 หมื่นบาทหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีมติจาก กขช. เข้ามาอย่างชัดเจน แต่คงจะรับข้อเสนอและความคิดเห็นต่างๆ ไปหารือถึงทิศทางที่ชัดเจนจาก กขช. มายัง ครม. อีกครั้ง ซึ่งคงต้องรอผลก่อน
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นจากโครงการรับจำนำข้าวอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งงานเพิ่มเติมใน ครม. ด้วยความห่วงใย โดยฝากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ให้ตั้งคณะเซอร์เวย์เยอร์ที่เป็นตัวกลางเพิ่มขึ้นมาอีกทีมในการตรวจสอบทุกโกดัง และในทีมเซอร์เวเยอร์จะมีทีมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าไปตรวจสอบด้วย ให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และกลับมารายงาน ครม. หากตรวจสอบพบว่ามีปัญหาในสต๊อกก็ต้องชดใช้ตามราคาต้นทุน
เมื่อถามว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รายงาน ครม. หรือไม่ ว่าขายข้าวไปกี่ตัน ราคาตันละเท่าไหร่ และขายให้ใคร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีการรายงานแล้วจากนายวราเทพ คือตัวเลขที่ผ่านมา ณ วันที่ 31 ม.ค.ตรงกัน แต่สิ่งที่ไม่ตรงกันคือตัวเลขสต็อกคงค้าง ซึ่งนายบุญทรงได้รายงานว่าทาง กขช. ได้ให้คณะทำงานบวกกับทีมคณะอนุกรรมการปิดบัญชีลงไปตรวจสอบในรายละเอียดถึงสต๊อกจริงๆ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงการคำนวณมูลค่าสต็อกคงค้าง ตัวเลขที่ผ่านมาที่มีการขายและรับรู้จริงอันนี้ตรงกันหมด เมื่อย้ำถามว่า ขายให้บริษัทอะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อันนี้คงไม่ไปทราบอะไรตรงนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า โครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลยอมรับว่าปีแรกขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท แนวโน้มจะลดราคาประกันจาก 1.5 หมื่นบาทลงมาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในทางบัญชีอาจจะเรียกว่าคำว่าขาดทุน แต่ในความเป็นจริงราคาส่วนต่างที่รับมาคือการดูแลเกษตรกร ซึ่งตรงตามนโยบายที่เราต้องการดูแลเกษตรกรและดูแลราคาพืชผล สิ่งตรงนี้จะกลับไปหายังพี่น้องเกษตรกร ซึ่งทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินเข้าบัญชีกับพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ตรงนี้จะทำให้เศรษฐกิจต่างๆ หมุนเวียนเป็นการดูแลเกษตรกร ซึ่งเราพยายามดูแลมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของรายได้ให้คงอยู่ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาวินัยการเงินการคลังด้วย
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ยินเรื่องข้าวเน่าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ขออนุญาตกราบเรียนว่าเราถึงต้องตั้งเซอร์เวเยอร์คนกลางในการตรวจสอบ ซึ่งบางครั้งอาจมีเรื่องของข่าวลือหรือข่าวที่ชี้แจงต่างๆ เราก็เร่งตรวจสอบ ทุกข่าวความห่วงใยนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงาน และให้ตัวเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า
เมื่อถามว่า แสดงว่าโครงการนี้คุ้มค่ากับเงินที่ขาดทุนไป 1.3 แสนล้านบาทกับเงินที่ลงไป 6.7 แสนล้านบาท ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าตลอดที่ผ่านมาจำนวนปริมาณชาวนาปลูกข้าวสูงขึ้นใน 2-3 ปีหลังทำให้ปริมาณต่างๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราใช้ในการดูแลโครงการนี้ไปหมุน ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งจากรายงานสภาพัฒน์ฯ จะเห็นว่าตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้นจากการหมุนเวียนเศรษฐกิจต่างๆ เมื่อถามว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเพดานการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โถ ไปถามกระทรวงพาณิชย์บ้าง และนายวราเทพก็จะแถลงข่าวชี้แจงตัวเลขทั้งหมดให้กับสื่อมวลชนรับทราบ เมื่อถามว่า ทำไมไม่ให้นายบุญทรงเป็นผู้ชี้แจง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายบุญทรงก็ชี้แจงได้ แต่เพื่อให้ทุกท่านสบายใจคือให้คนกลางมาเป็นผู้ชี้แจง ซึ่งมีตัวเลขระเอียดทั้งหมด
เมื่อถามว่า นายบุญทรงจะทำหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ต่อไปได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ ต้องเรียนว่าวันนี้เราต้องติดตามการทำงานของรัฐมนตรีทุกกระทรวงเหมือนเดิมอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า ทำไมถึงมอบให้นายวราเทพชี้แจงแทนนายบุญทรง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ นายบุญทรงก็ชี้แจง ส่วนนายวราเทพก็ชี้แจงประเด็นที่มอบหมาย
เมื่อถามว่า นายกฯ ตั้งใจจะปรับ ครม. เมื่อไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าปรับเมื่อไหร่จะบอก เมื่อถามว่า มีข่าวว่าเดือนสิงหาคมจะปรับ ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าจะปรับเมื่อไหร่คงจะชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง เพราะการปรับครม.เป็นเรื่องปกติที่เราจะมีการปรับกันตามความเหมาะสม ซึ่งวันนี้ก็พิจารณาอยู่ และติดตามดูผลงานไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต่อนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบ ได้แต่เพียงยิ้ม