xs
xsm
sm
md
lg

“ธนะศักดิ์” ย้ำจับมือบึ้มหน้ารามฯ ไม่เกี่ยวไฟใต้แน่ ชี้ถกบีอาร์เอ็นถ้าเหมาะสมก็คุยไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผบ.สส.นั่งหัวโต๊ะถกบิ๊กท็อปบูตที่ สตช. เผยติดตามปัญหาต่างๆ เล่าคดีไฟใต้รวม 9,017 คดี จับได้ 6,317 หมาย วิสามัญฯ 396 ราย เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ชี้คุยบีอาร์เอ็นถ้าเหมาะสมก็คุยกันไป ย้ำจับมือบึ้มหน้ารามฯ ได้ที่นราธิวาส ไม่เกี่ยวใต้แน่นอน บอกหน้ากากขาวชุมนุมก็เป็นสิทธิ แต่ต้องมีขอบเขต ชม “อดุลย์” สั่งได้ทุกโรงพัก

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ครั้งที่ 5 / 2556 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์แถลงว่า ที่ประชุมเป็นการประชุมติดตามผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยให้ทุกหน่วยพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพในงานการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ตามแนวชายแดน การช่วยเหลือประชาชนเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยจากพายุในห้วงฤดูสมรสุม พร้อมทั้งการช่วยเหลือสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติที่ได้รับมอบหมาย โดยให้คำนึงถึงการประสานสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกเหล่าทัพรวมทั้งตำรวจ

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เน้นการบูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร และพลเรือนอย่างมีเอกภาพ สรุปคดีทั่วไปมีทั้งสิ้น 118,818 คดี เป็นคดีความมั่นคง 9,017 คดี ออกหมายจับ 9,907 หมาย จับกุมได้ 6,317 หมาย พิสูจน์ทราบเครือข่ายได้ 11,704 คน วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเสียชีวิต 396 คน ยึดอาวุธปืน 645 กระบอก และตรวจสอบอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ 5,644 กระบอก ซึ่งเป็นการปฏิบัติการตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ส่วนการแก้ไขปัญหาในมิติอื่นๆ เป็นไปตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) 6 กลุ่มงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ

“17 กระทรวง 66 หน่วยงานร่วมมือกันทำงาน โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานในการกำกับดูแล ส่วนผมในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็สนับสนุนกำลังยุทโธปกรณ์ที่มีให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตามร้องขอ ซึ่งทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ส่วนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น ทุกคนอยากทำให้เหตุการณ์ดีขึ้น ใครรับผิดชอบอะไรก็ไปแสดงออก หรือ พูดคุยเพื่อหาแนวทาง ซึ่งอาจจะใช้หรือไม่ก็จะต้องปรับแก้กันไป แต่การพูดคุยเป็นเจตนาที่นำมาสู่สิ่งที่ดี และเป็นการแสดงออกของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ว่าเรามุ่งที่จะยุติปัญหา มุ่งที่จะให้การอยู่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย การพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ทาง สมช. เห็นว่าเหมาะสมก็ไปพูดคุยกัน” พล.อ.ธนะศักดิ์ระบุ

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีการรายงานผลการฝึกร่วมกับกองทัพมิตรประเทศในการฝึกซ้อมบรรเทาภัยพิบัติ ในกรอบของการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมือง และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ ARF DiREx เมื่อวันที่ 6-11 พ.ค. 56 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งการเตรียมพร้อมของหน่วยในการฝึกกองทัพประเทศสมาชิกอาเซียนด้านการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติครั้งที่ 2 ที่ประเทศบรูไน ห้วง 17-20 มิ.ย. 56 และการฝึก ELANG THAINESIA ครั้งที่ 16 โดยกองทัพอากาศไทย ร่วมกับกองทัพอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-ก.ค. 56

เมื่อถามถึงกรณีการจับมือวางระเบิดหน้าปากซอยรามคำแหง 43/1 ได้ที่จังหวัดนราธิวาสจะมีความเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ใช่สถานการณ์จากภาคใต้แน่นนอน มันไม่เกี่ยวกับด้านล่าง ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ เท่านั้น

นอกจากนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีมวลชนกลุ่มหน้ากากขาว หน้ากากแดง และกลุ่มต่างๆออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวว่า ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย หากเคารพกฎหมายก็ไม่เดือดร้อน เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ และทุกคนอยากเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว อย่างที่ตนเคยพูดอยู่เสมอ และตนยังยืนยันว่าทุกคนอยากทำในสิ่งที่ดี ทำในสิ่งที่คิดว่าทำแล้วประเทศชาติจะดี และแสดงออกในภาพของตัวเอง ตราบใดที่เราแสดงออกโดยไม่ส่งผลกระทบกระเทือนและไม่ผิดกฎหมายก็น่าจะเป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย แต่หากผิดกฎหมาย ทางตำรวจก็ต้องว่ากันไปตามกฎกติกาที่มีอยู่แล้ว ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่า การชุมนุมจะขยายวงกว้างออกไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้นำว่าหวังดีต่อชาติบ้านเมืองหรือไม่ เขาขยายการชุมนุมเพราะเขาเห็นด้วย หรือเพราะมีเจตนาที่ไม่ดี ตนยังยืนยันคำเดิมว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกา และตามกฎหมาย อย่างที่เคยบอกว่าคนที่ไม่เคยทำผิดและไปกล่าวหาเขาแล้ว เขาก็กลายเป็นคนผิดไปแล้ว แต่ถ้าคนที่มีเจตนาไม่ดีจะมีพฤติกรรมส่อไปในทางไม่ดี แต่การกระทำอะไรต้องมีขอบเขต เพราะการระวังการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ทางทหารกับตำรวจว่าจะมีการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทุกอย่างมีกฎกติกา ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ทหารออกมาช่วยนั้น ตนอยู่ในระเบียบวินัย ตนอยู่กับปัจจุบัน อนาคตเป็นแผน ขอให้มั่นใจว่าเราทำอะไรอย่างมีเหตุผล ตนจะทำในสิ่งที่ดีที่สุด ทำตามหน้าที่ ทำตามระเบียบวินัย สิ่งต่างๆ ที่สนับสนุนรัฐบาลได้ จะทำเต็มที่ตามรูปแบบของกฎหมาย และกฎกติกา ทั้งนี้ตนขอชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะจากการที่ตนไปเยี่ยม ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ต้องชื่นชมทางตำรวจว่ามีประสิทธิภาพการทำงน ซึ่ง ผบ.ตร.สามารถนั่งควบคุมสั่งการโรงพักตามต่างจังหวัดในคดีต่างๆ ได้เลยในทุกๆ คดี กลายเป็นว่าตำรวจในยุคนี้แถวชิดอยู่ตลอดเวลาพร้อมจะรายงานเหตุตลอดเวลา ข้อมูลต่างๆสามารถขอได้เลย









กำลังโหลดความคิดเห็น