ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ผบ.ทอ.” เป็นประธานปิดฉากฝึกผสม “COPE TIGER 2013” ที่กองบิน 1 โคราช ระบุเป็นการฝึกยุทธวิธีทางอากาศ และการป้องกันภัยทางอากาศใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขีดความสามารถ และประสบการณ์ของกำลังพลทั้ง 3 ชาติ ไทย-สหรัฐฯ-สิงคโปร์ พร้อมได้เรียนรู้ยุทโธปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ลานจอดเครื่องบิน ภายในกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ จ.นครราชสีมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วย พล.อ.ต.Ng Chee Meng ผู้บัญชาการทหารอากาศสิงคโปร์ และ พล.อ.ท. SALVATORE A. ANGELELLA ผู้บัญชาการทหารอากาศสหรัฐอเมริกาที่ 5 ภาคแปซิฟิก ร่วมกันเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม COPE TIGER 2013 โดยมีกำลังพลจากทั้ง 3 ประเทศ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า การฝึกผสม โคป ไทเกอร์ เป็นการฝึกปฏิบัติการทางอากาศเชิงรุกและเชิงรับด้วยกำลังทางอากาศขนาดใหญ่ การฝึกยุทธวิธีการรบระหว่างเครื่องบินต่างแบบ โดยเฉพาะเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูง และการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นที่มีการต่อต้านจากอาวุธภาคพื้นจำลอง (Simulated Ground Threat) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศ และประสบการณ์ของนักบิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเกี่ยวกับการบินในการปฏิบัติการทางอากาศผสมระหว่างกองทัพอากาศทั้ง 3 ชาติ และยังได้มีโอกาสเรียนรู้จากประเทศที่มีประสบการณ์ในการรบจริง มียุทโธปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และยุทธวิธีใหม่ๆ ในการรบทางอากาศ เพื่อนำมาพัฒนากองทัพอากาศของไทยในอนาคต
สำหรับการฝึกผสม COPE TIGER 2013 ถือเป็นการฝึกยุทธวิธีทางอากาศ และการป้องกันภัยทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำหนดใช้พื้นที่การฝึกภาคสนามในประเทศไทย และใช้พื้นที่การฝึกปัญหาในที่บังคับการในสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี น.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมโคปไทเกอร์ 2013 มี Col Ang Kheng Leong Benedict เป็นผู้อำนวยการฝึกฝ่ายสิงคโปร์ และ Col Douglas James เป็นผู้อำนวยการฝึกฝ่ายสหรัฐอเมริกา
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า สำหรับกำลังทางอากาศที่จัดเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ ประกอบด้วย อากาศยาน และระบบต่อสู้อากาศยาน ซึ่งในส่วนกองทัพอากาศไทยจัดอากาศยานเข้าร่วมการฝึก 36 เครื่อง และระบบต่อสู้อากาศยาน 13 ระบบ กองทัพบกจัดระบบต่อสู้อากาศยาน 10 ระบบ เข้าร่วมการฝึก และกองทัพเรือจัดระบบต่อสู้อากาศยาน 9 ระบบ เข้าร่วมการฝึก ด้านกองทัพอากาศสิงคโปร์ จัดอากาศยานเข้าร่วมการฝึก 24 เครื่อง และระบบต่อสู้อากาศยาน 4 ระบบ และกองทัพอากาศสหรัฐฯ จัดอากาศยานเข้าร่วมการฝึก 26 เครื่อง