ASTVผู้จัดการ – บก.ข่าวความมั่นคงไทยพีบีเอส เผยทัศนะแหล่งข่าวอดีตทหารใหญ่ในกองทัพ ฟันธง “อุ้มฆ่าเอกยุทธ” ไม่ใช่คดีฆ่าชิงทรัพย์ ยันเด็กเมื่อวานซืนอย่างสันติภาพและพวกทำไม่ได้แน่นอน ยันขนศพลงใต้ต้องเอี่ยวคนมีสี และทำเป็นขบวนการ จับเท็จตำรวจเอา “บิ๊กแจ๊ด” มาคุม รวบรัดปิดคดี ตอกย้ำการเมืองเอี่ยว
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถนีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit กล่าวถึงเบื้องลึกเบื้องหลังคดีฆาตกรรมอำพราง นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ โดยระบุแหล่งข่าวอดีตทหารใหญ่ในกองทัพ มั่นใจว่า คดีนี้มีเงื่อนงำและไม่ใช่การฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา ระบุแก๊งเด็กเมื่อวานซืนอย่าง นายสันติภาพ เพ็งด้วง ทำไม่ได้แน่นอน ชี้ “คนมีสี-การเมือง” น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
“ช่วงค่ำนั่งคุยกับอดีตทหารใหญ่ในกองทัพต่อกรณีการเสียชีวิตของเอกยุทธ อัญชันบุตร มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ.... มั่นใจว่าเป็นฝีมือของมือฆ่ามีสีที่ถูกสั่งมาเพื่อให้ทำภารกิจนี้ เกินความสามารถของเด็กปลายแถวที่ถูกปั้นให้เป็นจำเลยในคดี ข้ออ้างที่ว่าต้องฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สินฟังไม่ได้ทุกกรณี ไม่มีเหตุผลต้องทำอะไรอย่างนั้น
จากศพที่พบ การถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดก่อนฝัง เพื่อทำลายหลักฐานที่จะยืนยันตัวตนของศพ สะท้อนให้เห็นว่ามีเตรียมการและวางแผนอย่างดี เชื่อว่าทนายสมชาย ก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน โดนอุ้มหาย มีการออกข่าวว่าเอกยุทธอาจเดินทางไปต่างประเทศและหายสาบสูญไป แต่ข้อเท็จจริงถูกวางแผนฆ่าและฝังศพในไทย
ขนศพลงใต้หากไม่มีกองหนุนที่มีเส้นสายและสายสัมพันธ์ที่ดี ทำไม่ได้เด็ดขาด เด็กเมื่อวานซืนคิดวางแผนอย่างนี้ไม่ได้แน่นอน ต้องทำเป็นขบวนการ”
นายเสริมสุข ยังตั้งข้อสังเกตถึงขบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการโดย “บิ๊กแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ด้วยว่า การนำ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งมีเบื้องหลังมาดำเนินการแบบรวบรัด ต้องการปิดคดีเร็ว ยิ่งส่อให้เห็นพิรุธ และยิ่งตอกย้ำว่าฝ่ายการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ากลัว เหมือนบ้านเมืองกำลังถอยหลังไปเหมือนยุค “รัฐตำรวจ” โดย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ที่ใครเห็นต่างก็ต้องถูกเคลียร์จากบัญชี เพราะแม้แต่มหาเศรษฐีอย่างเอกยุทธยังหนีไม่รอด
“ก่อนกลับ..อดีตทหารใหญ่ท่านนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าบ้านเมืองกำลังถอยหลังไปเหมือนยุคอัศวินเผ่า ศรียานนท์ ที่ใครที่เห็นต่าง และถูกมองว่าอาจเป็นภัยต้องถูกเคลียร์บัญชี จากคนในรัฐตำรวจ...มหาเศรษฐีอย่างเอกยุทธ ยังถูกหิ้วฆ่ากลางเมืองจากอำนาจเถื่อน นับประสาอะไรกับคนประชาชนทั่วไป”
สำหรับเนื้อหาฉบับเต็มที่ บก.ข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โพสต์ไว้มีดังนี้
*******************
“เด็กเมื่อวานซืน ทำงานนี้อย่างที่สารภาพไม่ได้แน่นอน”
ช่วงค่ำนั่งคุยกับอดีตทหารใหญ่ในกองทัพต่อกรณีการเสียชีวิตของเอกยุทธ อัญชันบุตร มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ....
มั่นใจว่าเป็นฝีมือของมือฆ่ามีสีที่ถูกสั่งมาเพื่อให้ทำภารกิจนี้ เกินความสามารถของเด็กปลายแถวที่ถูกปั้นให้เป็นจำเลยในคดี ข้ออ้างที่ว่าต้องฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สินฟังไม่ได้ทุกกรณี ไม่มีเหตุผลต้องทำอะไรอย่างนั้น
จากศพที่พบ การถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดก่อนฝัง เพื่อทำลายหลักฐานที่จะยืนยันตัวตนของศพ สะท้อนให้เห็นว่ามีเตรียมการและวางแผนอย่างดี เชื่อว่าทนายสมชาย ก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน โดนอุ้มหาย มีการออกข่าวว่าเอกยุทธอาจเดินทางไปต่างประเทศ และหายสาบสูญไป แต่ข้อเท็จจริงถูกวางแผนฆ่าและฝังศพในไทย
ขนศพลงใต้หากไม่มีกองหนุนที่มีเส้นสายและสายสัมพันธ์ที่ดีทำไม่ได้เด็ดขาด เด็กเมื่อวานซืนคิดวางแผนอย่างนี้ไม่ได้แน่นอนต้องทำเป็นกระบวนการ
เอาท่านแจ๊ดมารับผิดชอบคดีก็ชัดเจนไม่ต้องการสาวให้ถึงตัวการ มาเร็วเคลมเร็วปิดคดีเลย ไม่ต้องการสาวไปโยงใยใคร
และยังเห็นว่าสันติภาพอาจถูกกล่อมให้เข้ามารับงานทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่การสังหารจะมีชุดทำงานอีกชุดต่างหาก แต่ขอรับสารภาพคนเดียว เหมือนกับถูกจ้างด้วยจำนวนมหาศาลให้สารภาพว่าทำเองทั้งหมด ....
ก่อนกลับ..อดีตทหารใหญ่ท่านนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าบ้านเมืองกำลังถอยหลังไปเหมือนยุคอัศวินเผ่า ศรียานนท์ ที่ใครที่เห็นต่างและถูกมองว่าอาจเป็นภัยต้องถูกเคลียร์บัญชี จากคนในรัฐตำรวจ...มหาเศรษฐีอย่างเอกยุทธ ยังถูกหิ้วฆ่ากลางเมืองจากอำนาจเถื่อน นับประสาอะไรกับคนประชาชนทั่วไป
“ทำไมต้องรีบปิดคดีอย่างลุกลี้ลุกลน ดูแล้วใครๆ ก็เห็นว่าผิดปกติ แจ๊สเป็นใครมาจากไหน ในแวดวงคนมีสีก็รู้กันดี การตายของเอกยุทธ การเมืองแน่นอน” อีกความเห็นที่ทหารใหญ่ทานนี้ตั้งข้อสังเกตในการพูดคุย...