ลำปาง - ญาติคนงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดอุโมงค์ที่เกาหลีเคว้ง ได้แต่เตรียมสถานที่รับศพที่บ้าน แต่ยังไม่รู้กำหนดขนศพกลับมาตุภูมิ แถมสับสนไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำปรึกษา
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า บรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และผู้นำท้องถิ่น ได้พากันมาช่วยเตรียมสถานที่บริเวณบ้านเลขที่ 1582 ม.6 บ้านฮ่องฮี ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง โดยนำเต็นท์ผ้าใบมากางไว้หน้าบ้านไม้หลังเก่าๆ พร้อมกับนำโต๊ะ และเก้าอี้มาตั้งตั้งแต่เย็นวานนี้ (5 มิ.ย.)
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรับศพนายวิเชียร หล้าสุภา อายุ 34 ปี ที่เสียชีวิตระหว่างทำงานภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟด่วนในประเทศเกาหลี แต่อุโมงค์ใต้ดินเกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีกำแพงหินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาวกัมพูชา และชาวไทย
นายสิน และนางสุดใจ หล้าสุภา พ่อ และแม่ของนายวิเชียร กล่าวด้วยความเสียใจว่า นายวิเชียรเป็นลูกชายคนเดียวที่ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นคนดี ตั้งใจทำมาหากิน รักครอบครัว คาดไม่ถึงว่าจะต้องเสียลูกชายไปเร็วขนาดนี้
ขณะที่นางปรียาอร ยะวรรณ อายุ 41 ปี ภรรยานายวิเชียร กล่าวว่า ตนเองได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของสามีจากเพื่อนที่เดินทางไปทำงานด้วยกันที่ได้โทรศัพท์ข้ามประเทศมาบอก นับเป็นความสูญเสียอย่างมาก เพราะตนต้องเลี้ยงดูบุตรสาวคือ เด็กหญิงประภาวดี หล้าสุภา อายุเพียง 1 ขวบ 8 เดือน และทุกเดือนสามีก็จะส่งเงินมาให้ทางบ้านไม่ต่ำกว่าเดือนละห้าหมื่นบาทเพื่อปลดหนี้ ขณะนี้ปลดหนี้หมดแล้ว และกำลังจะเก็บเงินเพื่อสร้างบ้านให้พ่อแม่ และครอบครัว เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยอายุเก่าแก่ และทรุดโทรมมากแล้ว แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน
ทั้งนี้ ทางบ้านได้พูดคุยกับนายวิเชียรเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 3 มิ.ย. 2556 โดยนายวิเชียรได้โทรศัพท์มาหาพี่สาวคือนางศรีนวล โดยได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบของคนในครอบครัว และบอกว่าจะรีบกลับไปทำงานเนื่องจากจะต้องทำการระเบิดอุโมงค์ จากนั้นก็ได้รับทราบข่าวร้ายว่าเสียชีวิตแล้ว
“ทางญาติได้ขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำศพกลับบ้านเกิดโดยเร็ว ส่วนการเดินทางไปรับศพนั้นจะให้ญาติพี่น้องที่เป็นผู้ชายเดินทางไปรอรับศพที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการลำเลียงศพมาเมื่อไหร่ ส่วนสิ่งที่จะต้องดำเนินการขณะนี้คือ ต้องเดินทางไปทำเอกสารรับรองทายาททั้งหมดในครอบครัว เพื่อส่งไปยังบริษัทที่เป็นนายจ้าง เพื่อประสานรับการช่วยเหลือ”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงสับสน ขาดผู้ให้คำปรึกษาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างในการติดต่อขอรับศพนายวิเชียร รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่ควรจะได้รับ กรณีที่แรงงานไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะไปทำงานในต่างประเทศ ตลอดจนสิทธิที่พึงจะได้รับจากหน่วยงานในประเทศไทย
ตั้งแต่นายวิเชียรเสียชีวิตยังไม่มีหน่วยงานใดใน จ.ลำปางติดต่อเข้ามาหรือให้คำปรึกษา แนะนำใดๆ มีเพียงอัครราชทูตจากประเทศเกาหลีที่โทรศัพท์มายังครอบครัว แล้วให้ล่ามติดต่อสื่อสารพูดคุยกันถึงเหตุที่เกิดขึ้น และแจ้งว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างเท่านั้น
