“องอาจ” ซัดรัฐบาลโกหกซ้ำ อ้างตัวเลขขาดทุนที่สูงมาจากการปิดบัญชีสินค้าการเกษตรทุกประเภท งัดคำสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ตั้งอนุ กก.ปิดบัญชีเฉพาะโครงการจำนำข้าว ตอกย้ำความบิดเบือน ไล่ “โต้ง” เล่นงานคนตกแต่งตัวเลข ดีกว่าฟันคนปล่อยข้อมูลจำนำข้าว ขณะที่ กมธ.งบฯ 57 ซีก ปชป. จับผิด ก.ท่องเที่ยวฯ ตั้งงบฯ สร้างสนามกีฬาตำบล 1,053 ล้านบาท สูงเกินจริง มอบอนุ กก.ตามเล่นงาน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมดำเนินการกับคนที่ปล่อยให้ตัวเลขการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว หลุดออกมาถึงฝ่ายค้านว่า ตัวเลขส่วนหนึ่งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นำมาพูดมาจากการรวบรวมข้อมูลของหน่วยราชการ แล้วนำมาคำนวณตามระบบการปิดบัญชีตามมาตรฐานสากล ดังนั้นหากจะฟันคนปล่อยข้อมูล ควรไปฟันคนที่ปกปิดข้อมูลและคนแต่งตัวเลขจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าการที่รัฐบาลออกมาบอกว่าตัวเลขขาดทุนที่สูงมาก เป็นตัวเลขที่รวมการปิดบัญชีสินค้าการเกษตรทุกประเภท ซึ่งตนได้ตรวจสอบคำสั่งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2555 ในการตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ไม่ได้เป็นคำสั่งเพื่อพิจารณาปิดบัญชีสินค้าการเกษตรทุกชนิด แต่เป็นการปิดบัญชีเฉพาะข้าวเท่านั้น นอกจากนั้นการที่รัฐบาลออกมาระบุว่าตัวเลขขาดทุนมีความแตกต่างกันระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์นั้น นายกรัฐมนตรีควรจะสั่งการให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการคำนวณทางบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งต้องเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน และควรทำอย่างโป่รงใส
ด้านนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 แถลงว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณไปจำนวน 3 กระทรวง คือ 1. กระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มจากปีที่แล้วเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ คือจาก 1,600 กว่าล้านบาท เป็น 1,900 ล้านบาท แม้งบประมาณจะไม่สูงมาก แต่กรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วพบว่างบประมาณส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับค่าใช้จ่ายประจำ ส่วนงบการลงทุนจะอยู่ในหมวดการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างมาก เป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ จะนำไปพิจารณาในรายละเอียดกันอีกครั้ง
2. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นกระทรวงที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะแม้จะถูกตัดงบปี จากปี 2556 ที่ได้ 11,000 กว่าล้านบาท เหลือ 9,300 กว่าล้านบาทในปี 2557 หรือลดลงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่คณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการก่อสร้างสนามกีฬาระดับตำบล 81 แห่ง แห่งละ 13 ล้านบาท รวม 1,053 ล้านบาท คณะกรรมาธิการฯเห็นว่า มีวงเงินก่อสร้างแต่ละแห่งสูงกว่าที่เคยก่อสร้างมามาก ขณะเดียวกัน สนามกีฬาจังหวัดและอำเภอที่ได้ก่อสร้างไปแล้ว ก็ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสุขภาพประชาชนทั่วไปเท่าที่ควร ซึ่งไม่เป็นตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง ดังนั้นคณะกรรมาธิการจึงซักถามงบประมาณในส่วนนี้มาก ทั้งเรื่องตำบลที่จะไปสร้าง เพราะแม้แต่ละแห่งจะใช้เงินไม่มาก แต่เมื่อรวมงบแล้วจะสูงถึง 1,053 ล้านบาท หากใช้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการเลือกที่ตั้งสนามกีฬาให้ดี วางยุทธศาสตร์กระจายตำบลให้มากกว่านี้จะเหมาะสมกว่า ซึ่งในชั้นคณะอนุกรรมาธิการฯจะไปพิจารณารายละเอียดอีกชั้นหนึ่ง
3. งบประมาณกระทรวงสาธารณสุข จากเดิมปี 2556 ได้รับงบประมาณ 9 หมื่นกว่าล้านบาท แต่ในปี 2557 ได้รับเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ หรือ 106,000 กว่าล้านบาท คณะกรรมาธิการฯเป็นห่วงเทคนิคทางการแพทย์ การก้าวสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 ที่ภาคเอกชนเตรียมพร้อมแล้ว แต่ภาครัฐอาจตามไม่ทัน เรากังวลเกี่ยวกับแพทย์ที่ออกไปทำงานต่างประเทศ หรือแพทย์ต่างประเทศมาทำงานในประเทศไทย และกังวลว่าเราอาจผลิตพยาบาลไม่ทัน เพราะปัจจุบันมีการใช้พยาบาลจากต่างประเทศจำนวนมากพอสมควร จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาการออกใบอนุญาตชั่วคราวในวิชาชีพแพทย์และพยาบาลมากขึ้น เพื่อรักษาคุณภาพในการรักษาพยาบาลของประเทศไทย