ปชป.เรียกร้องนายกฯ คุมใช้งบประมาณกันทุจริต ระบุงบฯ ปี 57 มีแนวโน้มทุจริตเชิงนโยบาย ไร้ประสิทธิภาพ แฉรัฐบาลหั่นงบฯให้ กทม.เหลือ 1.4 หมื่นล้าน สะท้อนไม่ให้ความร่วมมือองค์กรท้องถิ่น
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 เมื่อวันที่ 29-31 พ.ค.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์หวังว่ารัฐบาลจะนำเสนอคำอภิปรายของ ส.ส.ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการใช้งบประมาณที่เป็นเงินภาษีอากรให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมา เราพบว่ารัฐบาลมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างไม่ถูกต้องในหลายส่วน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และยังพบว่าในการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รัฐบาลยังไม่สามารถชี้แจงให้กระจ่างได้ในหลายประเด็น เช่น กรณีของโครงการรับจำนำข้าว การจัดซื้อรถตู้ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีการพิมพ์เอกสารผิด
นายองอาจกล่าวว่า โดยสรุปแล้วการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าวเป็นการจัดทำงบประมาณที่ไม่น่าไว้วางใจ 3 ข้อ คือ 1. ส่อทุจริตเชิงนโยบาย 2. มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล และ 3. มีปัญหาการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง จึงขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าควรทำให้การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใสมากขึ้น ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
นายองอาจกล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาฝ่ายค้านหลงเวทีอภิปรายงบประมาณฯ เป็นการอภิปรายไม่ไว้่วางใจรรัฐบาลนั้น ตนมั่นใจว่าฝ่ายค้านไม่ได้หลงเวที เพราะการอภิปรายงบประมาณไม่ใช่การเยินยอการจัดงบประมาณของรัฐบาล แต่ต้องใช้เป็นเวทีที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 จากรัฐบาลนั้น กทม.ได้ของบประมาณเพื่อก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่ไปจำนวน 3 หมื่นล้านบาท แต่ปรากฏว่าสำนักงบประมาณจัดสรรงบให้เพียง 14,600 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความร่วมมือกับองค์กรส่วนท้องถิ่นอย่าง กทม.อย่างเต็มที่ และตัวนายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำตามที่ประกาศไว้เมื่อครั้งที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าจะทำงานกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์แบบไร้รอยต่อ ฉะนั้นภาระการก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่ต่างๆที่ผูกพันในปีงบประมาณ 2557-2558 กทม.ก็จะต้องใช้รายได้ของ กทม.เอง เพราะไม่สามารถรับงบประมาณตามที่ขอไปได้
นายณัฏฐ์กล่าวอีกว่า โครงการหนึ่งที่ กทม.จะต้องรับผิดชอบ คือโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสะพานข้ามแยกเชื่อมสะพานอรุณอมรินทร์ และขยายถนนถนนสุทธาวาส เชื่อมต่อถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถ้าก่อสร้างสำเร็จ ก็จะช่วยบรรเทาสภาพการจราจรที่มีความติดขัดได้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 1,600 กว่าล้านบาท ซึ่งทาง กทม.ได้ของบประมาณเป็นแบบนอกกรอบปีงบประมาณ ตาม พ.ร.บ.กระจายอำนาจส่วนท้องถื่น แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอบกลับมาว่าให้ โดยไม่ได้ระบุว่าให้นอกงบประมาณหรือไม่ ซึ่งจะเป็นปัญหา เพราะถ้ารัฐบาลให้เป็นแบบในกรอบงบประมาณ จะทำให้ กทม.ต้องใช้เงินที่แบ่งจากงบประมาณ 14,600 ล้านบาท