กมธ.คมนาคมเชิญฝ่ายเกี่ยวข้องการนำเข้ารถ ตปท.แจง ย้ำเก็บภาษีมีปัญหา เด็กพท.แนะตั้งภาษีเท่าเทียม อย่าเน้นรถหรู ข้องใจต้องผ่าน สมอ. แถมรถบริษัทนำเข้าผ่านสอบ แต่รถจดประกอบไม่ตรวจ ติงไม่ทำงาน ขนส่งเก็บภาษีไม่ได้ ปชป.แฉดึงเชงต่อรองค่าตรวจ สมอ.แจงมีระยะเวลาสอบ ค่าใช้จ่ายชัด เก็บแต่ใบอนุญาต สรรพสามิต ระบุรถจดประกอบคิดภาษีก่อนถึง สมอ. แจงยอดรถจ่ายภาษีลดเหตุราคาไม่สมจริง แต่พอปรับเจอค้าน รับผู้มีอำนาจสร้างปัญหา ยันพร้อมรับจ่ายภาษี
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณากระบวนการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ รวมทั้งการจัดเก็บภาษีและจดทะเบียนรถยนต์ตามระเบียบของราชการ โดยเชิญนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต นายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) รวมทั้งตัวแทนสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
ทั้งนี้ กรรมาธิการหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องการจัดเก็บภาษีของรถจดประกอบที่นำเข้ารวมทั้งการนำรถเข้าตรวจที่ สมอ.ซึ่งทำให้เป็นปัญหา โดยนายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประฐานคณะกรรมธิการฯ ได้เสนอแนะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นว่าให้ตั้งเพดานภาษีอย่างเท่าเทียมกันและจะเสนอเรื่องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการกับรถทุกประเภทอย่าใช้แต่กับรถหรูเท่านั้น รวมทั้งขอตั้งคำถามต่อ สมอ.ว่าเหตุใดรถหรูเต็มคันที่เข้ามาในไทยทำไมต้องผ่าน สมอ.และมีการตั้งข้อสังเกตที่รถเข้ามากับบริษัทนำเข้าสามารถผ่านการตรวจสอบของ สมอ.ได้ แต่หากเป็นรถที่เข้าแบบจดประกอบทั้งที่เป็นรถประเภทและรุ่นเดียวกันแต่ สมอ.กลับไม่ตรวจให้ นอกจากนี้ตนยังได้รับการร้องเรียนรถบรรทุกที่จดประกอบทั้งที่มีเอกสารถูกต้องและมีใบอนุญาตแล้ว แต่ติดที่ สมอ.ไม่ตรวจสอบ วันนี้ สมอ.ไม่ทำงานไม่เอาอะไรสักอย่าง แทนที่กรมการขนส่งจะได้ภาษีก็ไม่สามารถจัดเก็บได้
ขณะที่นายทศพล เพ็งส้ม ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเช่นกันว่า สมอ.ยังไม่รับตรวจสอบเพราะว่ามีการต่อรองค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 บาทต่อคัน ซึ่งอยากรู้ว่าขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์ตรวจสอบรถจำนวนเท่าใด
ด้านนายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า รถบรรทุกที่มีการจดประกอบหากเป็นรถต่างประเทศต้องไปตรวจสอบที่โรงงานรวมทั้งนำเข้าห้องแล็บ ส่วนรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่จะต้องถอดเครื่อง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็สามารรถจดทะเบียนได้ ส่วนระยะเวลาในการตรวจสอบใช้ประมาณ 10 วัน และหากเป็นรถที่เคยมีตัวอย่างผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้ก็สามารถดำเนินการได้ทันที สำหรับค่าใช้จ่ายกระทรวงอุตสาหกรรมก็มีค่าทดสอบที่ชัดเจนว่าต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งยืนยันว่าการยื่นคำร้องไม่เสียเงิน แต่มีค่าใช้จ่ายใบอนุญาต 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากใครจดทะเบียนก็ต้องนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ สมอ.ก็จะออกใบอนุญาตให้
ส่วนนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า เรื่องรถจดประกอบจะมีการประเมินราคาเพื่อชำระภาษีสรรพสามิต ก่อนที่ไปยัง สมอ.และชำระภาษีขนส่ง ซึ่งมีสถิติเมื่อปี 2553-2554 รับชำระภาษีตามที่ผู้ประกอบการยื่นจดแจ้งใช้ตามจำนวนราคาชิ้นส่วนในใบอินวอยส์ ประมาณ 11,000 คัน ปี 2555 รับชำระภาษี 2,000 กว่าคัน และตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงขณะนี้เหลือเพียง 544 คัน สาเหตุจำนวนลดลงเนื่องจากเห็นว่าก่อนหน้านี้ราคาไม่สอดคล้องกับรถที่นำเข้าใหม่จริง กรมสรรพสามิตจึงตั้งเกณฑ์การเสียภาษีคำนวณให้สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่เห็นได้ว่ามีการประท้วงเรื่องนี้ด้วยและเมื่อกรมปรับเกณฑ์ดังกล่าวแล้วทำให้รถหรูหายหมด ราคาในปัจจุบันรถจดประกอบกับรถนำเข้าทั้งคันจะเสียภาษีไม่ต่างกันมาก อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกรมสรรพสามิตบางครั้งกลุ่มผู้มีอำนาจในบางพื้นที่ก็ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตมีปัญหาเช่นกัน แต่ยืนยันว่ากรมสรรพสามิตยังรับชำระภาษีอย่างเต็มที่ และจะอำนวยความสะดวกให้โดยต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่วางไว้ แต่หากเห็นว่าจ่ายภาษีไม่ได้ก็สามารถนำเงินมาวางประกันและยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการได้
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณากระบวนการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ รวมทั้งการจัดเก็บภาษีและจดทะเบียนรถยนต์ตามระเบียบของราชการ โดยเชิญนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต นายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) รวมทั้งตัวแทนสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
ทั้งนี้ กรรมาธิการหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องการจัดเก็บภาษีของรถจดประกอบที่นำเข้ารวมทั้งการนำรถเข้าตรวจที่ สมอ.ซึ่งทำให้เป็นปัญหา โดยนายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประฐานคณะกรรมธิการฯ ได้เสนอแนะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นว่าให้ตั้งเพดานภาษีอย่างเท่าเทียมกันและจะเสนอเรื่องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการกับรถทุกประเภทอย่าใช้แต่กับรถหรูเท่านั้น รวมทั้งขอตั้งคำถามต่อ สมอ.ว่าเหตุใดรถหรูเต็มคันที่เข้ามาในไทยทำไมต้องผ่าน สมอ.และมีการตั้งข้อสังเกตที่รถเข้ามากับบริษัทนำเข้าสามารถผ่านการตรวจสอบของ สมอ.ได้ แต่หากเป็นรถที่เข้าแบบจดประกอบทั้งที่เป็นรถประเภทและรุ่นเดียวกันแต่ สมอ.กลับไม่ตรวจให้ นอกจากนี้ตนยังได้รับการร้องเรียนรถบรรทุกที่จดประกอบทั้งที่มีเอกสารถูกต้องและมีใบอนุญาตแล้ว แต่ติดที่ สมอ.ไม่ตรวจสอบ วันนี้ สมอ.ไม่ทำงานไม่เอาอะไรสักอย่าง แทนที่กรมการขนส่งจะได้ภาษีก็ไม่สามารถจัดเก็บได้
ขณะที่นายทศพล เพ็งส้ม ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเช่นกันว่า สมอ.ยังไม่รับตรวจสอบเพราะว่ามีการต่อรองค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 บาทต่อคัน ซึ่งอยากรู้ว่าขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์ตรวจสอบรถจำนวนเท่าใด
ด้านนายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า รถบรรทุกที่มีการจดประกอบหากเป็นรถต่างประเทศต้องไปตรวจสอบที่โรงงานรวมทั้งนำเข้าห้องแล็บ ส่วนรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่จะต้องถอดเครื่อง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็สามารรถจดทะเบียนได้ ส่วนระยะเวลาในการตรวจสอบใช้ประมาณ 10 วัน และหากเป็นรถที่เคยมีตัวอย่างผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้ก็สามารถดำเนินการได้ทันที สำหรับค่าใช้จ่ายกระทรวงอุตสาหกรรมก็มีค่าทดสอบที่ชัดเจนว่าต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งยืนยันว่าการยื่นคำร้องไม่เสียเงิน แต่มีค่าใช้จ่ายใบอนุญาต 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากใครจดทะเบียนก็ต้องนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ สมอ.ก็จะออกใบอนุญาตให้
ส่วนนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า เรื่องรถจดประกอบจะมีการประเมินราคาเพื่อชำระภาษีสรรพสามิต ก่อนที่ไปยัง สมอ.และชำระภาษีขนส่ง ซึ่งมีสถิติเมื่อปี 2553-2554 รับชำระภาษีตามที่ผู้ประกอบการยื่นจดแจ้งใช้ตามจำนวนราคาชิ้นส่วนในใบอินวอยส์ ประมาณ 11,000 คัน ปี 2555 รับชำระภาษี 2,000 กว่าคัน และตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงขณะนี้เหลือเพียง 544 คัน สาเหตุจำนวนลดลงเนื่องจากเห็นว่าก่อนหน้านี้ราคาไม่สอดคล้องกับรถที่นำเข้าใหม่จริง กรมสรรพสามิตจึงตั้งเกณฑ์การเสียภาษีคำนวณให้สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่เห็นได้ว่ามีการประท้วงเรื่องนี้ด้วยและเมื่อกรมปรับเกณฑ์ดังกล่าวแล้วทำให้รถหรูหายหมด ราคาในปัจจุบันรถจดประกอบกับรถนำเข้าทั้งคันจะเสียภาษีไม่ต่างกันมาก อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกรมสรรพสามิตบางครั้งกลุ่มผู้มีอำนาจในบางพื้นที่ก็ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตมีปัญหาเช่นกัน แต่ยืนยันว่ากรมสรรพสามิตยังรับชำระภาษีอย่างเต็มที่ และจะอำนวยความสะดวกให้โดยต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่วางไว้ แต่หากเห็นว่าจ่ายภาษีไม่ได้ก็สามารถนำเงินมาวางประกันและยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการได้
