xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณปรับ ครม.ยื้อขาลง โยกสลับเด็กเจ๊ วราเทพ-บุญทรง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เรียกได้ว่าเจอสารพัดปัญหาถล่มเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงปัญหาใหญ่ยักษ์ล่าสุด ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำมูลค่าเต็ม 3.5 แสนล้านบาทที่ถูกมองว่า “ฮั้ว” กันชัดเจน เพราะไม่มีรายละเอียดไม่มีพิกัดพื้นที่ชัดเจน แต่เร่งประมูลให้ทันก่อนพ้นกำหนดการใช้จ่ายเงินกู้ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น และทั้งผู้ที่เข้าประมูลและแบ่งเค้กกันไปก็มีอยู่แค่สองสามกลุ่ม วงเงินก็ต่ำกว่ามูลค่าโครงการเพียงไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น ส่วนอีกเรื่องที่กำลังทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังออกอาการเป๋อย่างชัดเจน และเริ่มสู่ภาวะขาลง ทำลายความเชื่อมั่นจากสังคมอย่างรวดเร็ว เพราะจากเรื่องดังกล่าวเหมือนกับถึงจุดที่พรั่งพรูออกมาพร้อมกัน

หลายปัญหาที่เคยเกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาอาจเห็นแก่นายกฯ คนสวยจึงยอมหรี่ตาให้โอกาส แต่เมท่อเวลาผ่านไปเกือบสองปีเต็มยังไม่เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามกลับมองไม่เห็นอนาคต ยกตัวอย่างให้เห็นภาพตรงกันก็ได้ว่า ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ตอนนี้เป็นอย่างไร เอาแค่เจ้าหน้าที่รัฐจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มโจรยังทำไม่ได้เลย มิหนำซ้ำยังตกเป็นเป้าสังหารเสี่ยงภัยไม่ต่างจากชาวบ้าน การเจรจาที่ผ่านมากับพวกบีอาร์เอ็นผ่านมาสองรอบจะเข้าสู่รอบที่สามในเดือนนี้ก็ยังไม่เห็นสัญญาณในทางบวก ตรงกันข้ามมีแต่การยกระดับโจรยกระดับปัญาในพื้นที่ออกไปข้างนอก เปิดทางให้พวก “ขาแส่” ทั้งหลายเข้ามามากขึ้น ถึงขั้นนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค เสนอให้ไทยเปิดทางให้ปลดปล่อยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตปกครองพิเศษหน้าตาเฉย และคนในรัฐบาลไทยก็เฉยไม่ได้ท้วงติงว่า “อย่าล้ำเส้น”

ถามว่าเวลานี้ใครเป็นผู้ที่รับผิดชอบสูงสุดในการสั่งการแก้ปัญหาชายแดนใต้ หากไม่ต้องพูดถึ

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.กอ.รมน.) ที่พูดจาเจื้อยแจ้วไปถึง “จังหวัดหาดใหญ่” แล้ว เป็นผู้บัญชาทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเปล่า หรือว่า รองนายกฯ เฉลิม อยู่บำรุง ที่เป็นผู้อำนวยการด้านยุธศาสตร์อะไรส้กอย่างที่ชื่อยาวเหยียด แม้บอกว่าได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ดูแลชายแดนใต้แต่ไม่เคยกล้าไปในพื้นที่สักที ที่แต่โม้สั่งการในห้องแอร์ แต่ล่าสุดเห็นว่ามีการเปลี่ยนตัวใหม่เป็นมอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เข้ามาดูแลปัญหาชายแดนใต้แทนแล้ว จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หรือว่าต่างคนต่างทำ ต่างใช้งบประมาณ มันก็เลยเละอย่างที่เห็น จากยุคทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่าโจรกระจอกสร้างกระแสจนป่วน มาถึงยุคน้องสาวคือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไปยกก้นโจรกระจอก นำปัญหาออกสู่สากล เสี่ยงต่อการเสียอธิปไตย

มาถึงเรื่องปัญหาหลักที่กำลังสั่นสะเทือนไปทั้งรัฐบาล นั่นคือ “โครงการรับจำนำข้าว” ที่เจ๊งยับเยินกำลังหาทางออกไม่เจอ จะเดินหน้าก็ไม่ได่ ถอยหลังก็ลำบาก สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้ก็คือการยื้อเวลาในการปกปิดตัวเลข และบิดเบือนประเด็นหาแนวร่วมจากชาวนาที่เป็นฐานเสียงโดยอ้างไปคนละเรื่องว่าชาวนาได้ประโยชน์ ทั้งที่สังคมตั้งคำถามว่า “เจ๊งไปเท่าไหร่” อยากรู้ตัวเลขที่แน่ชัดเท่านั้น

ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะคนไทย สื่อไทยเท่านั้นที่สงสัยกับตัวเลขการขาดทุน แต่ต่างประเทศ สื่อต่างประเทศก็สงสัย ถึงขนาดมูดี้ส์ฯซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสากลถึงกับขู่ว่าหากยังไม่มีการแก้ไขปรับปรุงโครงการดังกล่าวก็อาจโดนหั่นเครดิตในช่วงปลายปี ทำให้คนในรัฐบาลต่างนั่งไม่ติด มีการตอบโต้ จี้แจงกันพัลวัน แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขอยู่ดีอ้างว่าขาดทุนไม่ถึง 2.6 แสนล้านบาท และยังเปิดเผยไม่ได้จนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการ หรือจนกว่าจะขายข้าวหมด ในอีก3 ปี 5 ปี ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี การตั่งโต๊ะชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกร์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวันก่อน แทนที่จะกระจ่างกลับยิ่งสร้างความรำคาญ สับสนมากยิ่งขึ้น ทำให้รัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

จนล่าสุดทีมงานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องแก้เกมใหม่อย่างเร่งด่วนแบบวันต่อวัน นั่นคือเปลี่ยนแปลงคนจี้แจงตบแต่งตัวเลขกันใหม่จากเดิมเคยให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง แล้วมาเป็น บุญทรง เตริยาภิรมย์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ล่าสุดมาเป็น วราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่่องจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้น แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ อ้างว่าเพื่อจัดการรวบรวมตัวเลขระหว่างสองกระทรวงแล้วมาประมวลให้ตรงกัน แล้วแถลงออกไปให้ทราบ ความหมายก็คือที่ผ่านมาทั้งคลังและพาณิชย์ต่างมีตัวเลขและแถลงกันไปคนละทาง มั่วกันไปคนละทาง พาณิชย์ก็ไม่เคยรายงานตัวเลขจริงให้คลังทราบ ทางคลังก็อ้างว่าขอไปหลายรอบแล้วก็ไม่ให้

อย่างไรก็ดี กรณีการปกปิดตัวเลขนั้นได้รับการยืนยันจากกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วิชา มหาคุณ ที่เป็นประธานการตรวจสอบทุจริตโครงการดังกล่าวของรัฐบาลเคยเปิดเผยว่า เคยขอตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ไปแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมส่งมาให้ ซึ่งก็ส่อให้เห็นถึงการปกปิดข้อมูลอย่างชัดเจน แต่สำหรับ ป.ป.ช.คงต้องใช้อำนาจบงคับเอามาได้ แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ชอบมาตั้งแต่ต้น

ดังนั้นถ้าให้ประมวลมาตั้งแต่ต้น ถือว่าโครงการรับจำนำข้าวกำลังทำให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ อ่วมคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาถึงวันนี้ถึงคราวที่จะต้องถูกบีบให้มาตอบคำถามโดยตรงมากขึ้นจะใช้วิธีเดิมๆ โยนให้คนนั้นคนนี้ชี้แจงคงลำบากมากขึ้น เพราะคนที่สั่งให้มาชี้แจงในสายตาชาวบ้านก็ “เดี้ยง” ไปหมดแล้ว โดยเฉพาะ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ถือว่าอยู่ในอาการโคม่า ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้รัฐบาลทรุดลงไปอีก ขณะเดียวกันเมื่อบรรยากาศเสื่อมทรุดมันก็ชวยไม่ได้ที่จะเกิดกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อ “ตัดตอน” ความรับผิดชอบ รวมไปถึงเบี่ยงเบนความสนใจจากสังคมไปอีกระหนึ่ง และเมื่อพิจารณาจากเวลาก็ถือว่าเหมาะ ซึ่งเป้าหมายเบื้องต้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะโยก บุญทรง ออกไปอยู่ที่อื่น แล้วดึงคนใหม่มาแทน คาดว่าคนนั้นก็น่าจะเป็นวราเทพ รัตนากร ที่ระยะหลังกำลังขึ้นหม้อหลายเรื่อง และที่สำคัญก็คือทั้งคู่เป็นเด็กเจ๊แดง อยู่ในสายแข็ง หลุดวงโคจรยาก รูปแบบจึงน่าจะเป็นโยกสลับมากกว่า

อย่างไรก็ดี นี่ว่ากันเฉพาะตำแหน่งหลักที่อาจต้องเปลี่ยนตัวสูง เพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองเฉพาะหน้าก่อน แต่หากปรับจริงซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องเป็นการปรับใหญ่ เพราะเมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวออกอาการของหลายคน เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข บางคนก็เริ่มส่งเสียงดัง แสดงบทบาทก้าวร้าวเพียงเพื่อให้เข้าตา ทักษิณ ชินวัตร ที่ดป็นเจ้าของตัวจริง ให้จับตาภายในเดือนหน้าให้ดีก็แล้วกัน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น