xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” สงวนแปรญัติ หลัง กมธ.กู้ 2 ล้านล้าน ปัดข้อแนะเอกสารไม่ชัดต้องผ่านสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” เสนอแปรญัตติ กมธ.กู้ 2 ล้านล้าน ขอเพิ่มใน ม.20 ระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดในการกู้ ต้องผ่านสภาเท่านั้น ห้ามไปใช้โครงการอื่น พร้อมระบุไปใน พ.ร.บ.กันงบฯ รั่ว ส่วน ม.14 หลัง ครม.เห็นชอบต้องเข้าสภาพิจารณา “จาตุรนต์” อ้างเสียงส่วนใหญ่ ปัดแก้ตามที่ขอ “วราเทพ” ชี้เข้าสภาทำล่าช้า ยันตรวจสอบได้ หน.ปชป.สงวนคำแปรญัติ ติงเอกสารแนบท้ายไม่ชัด ย้ำต้องผ่านสภา เจอต่อวาระ 2

วันนี้ (6 มิ.ย.) การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่มีนายวราเทพ รัตนากร ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เสนอแปรญัติมาตรา 3, 5, 6, 14, 15, 16 และขอเสนอเพิ่มในมาตรา 20 โดยขอให้มีการระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจนที่ใช้ในการขอกู้เงินตาม พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าว และต้องเป็นโครงการที่นำเสนอในเอกสารประกอบการพิจารณาที่เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเท่านั้น หากโครงการใดไม่ได้ดำเนินการหรือเงินงบประมาณเหลือจะไม่สามารถนำไปใช้กับโครงการอื่นได้ พร้อมกันนี้ขอให้ระบุโครงการทั้งหมดในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติลงในตัวกฎหมายด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถเกิดขึ้นจริงได้ และป้องกันไม่ให้มีการนำงบประมาณนี้ไปใช้ในโครงการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ขอแปรญัตติในมาตรา 14 โดยให้นำโครงการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแล้ว กลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาอีกครั้ง พิจารณาความเหมาะสมของโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองประธานกรรมาธิการกล่าวว่า ที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้คงมาตราเดิมไว้ โดยไม่มีการแก้ไขตามที่ฝ่ายค้านขอแปรญัตติไว้ เนื่องจากตัวบทกฎหมายฉบับนี้ได้ระบุอย่างชัดเจน หากโครงการใดที่อยู่นอกเหนือจากเอกสารแนบท้ายที่เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาจะไม่สามารถนำงบประมาณนี้ไปใช้ในโครงการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ได้ อีกทั้งการให้อำนาจกับกระทรวงการคลังในการกู้เงินแต่ละขั้นตอนของการดำเนินการมีความเหมาะสม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

ขณะที่นายวราเทพยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำโครงการเหล่านั้นกลับเข้าสู่การพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติอีกครั้ง เนื่องจากจะทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการตามแผนงานที่ได้วางไว้ อีกทั้งทุกโครงการได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบการดำเนินโครงการของฝ่ายบริหารได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้สงวนคำแปรญัติโดยยืนยันว่าการจัดทำโครงการขอวงรัฐบาลจะต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาอีกครั้ง เนื่องจากรายละเอียดของโครงการที่เสนอมาในเอกสารแนบท้ายไม่มีความชัดเจน


กำลังโหลดความคิดเห็น