xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” คนโลภ อีกไม่นานก็หายนะด้วยความโลภ-ไม่รู้จักพอ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

บรรยากาศยามนี้ต้องบอกว่าไม่เป็นใจสำหรับ “ระบอบทักษิณ” ตัว ทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แทบทุกเรื่องมีแต่ทรงกับทรุด ไม่มี “แต้มบวก” เพิ่มขึ้นมาให้เห็นเลย เอาแค่ขนาดกรณีไฟไหม้รถหรูที่กลางดง ก็ยังโยงไปถึงนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาลเสียอีก ยิ่งออกมาปฏิเสธคนก็ยิ่งสงสัย แถมยังมีอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่รีบกระโดดเข้ามาทำคดีด้วยความขึงขัง แทนที่จะกลายเป็นเรื่องดีกลับถูกมองว่าเป็นการเข้ามา “ตัดตอน” ไม่ให้สาวไปถึง “ขาใหญ่” หรือเปล่า เป็นเพราะภาพลักษณ์ของตัวบุคคลและหน่วยงานที่ว่านั้นมันป่นปี้ไปหมดแล้ว และที่สำคัญในระยะหลังการทำคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ดูแล้วมัน “จับฉ่าย” ดูกระจอกพิกล ผิดไปจากวัตถุประสงค์ดั้งเดิมเสียสุดกู่

วกมาที่ความเสื่อมทรุดของทักษิณ และ “ทีมงาน” กันอีกทีก็ต้องบอกว่ามีแนวโน้มดูไม่ดีเอาเสียเลย หากจะพูดว่าเป็นช่วง “ขาลง” เดี๋ยวพวกกองเชียร์อาจหงุดหงิด แต่เอาเป็นว่า “ไม่ใช่ขาขึ้น” ก็แล้วกัน จุดโฟกัสที่เป็นสาเหตุเสื่อมทั้งหมดก็คือ ตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ผ่านมาเกือบสองปีเต็มแล้วยังไม่อาจเค้นฟอร์มเจ๋งออกมาให้ชาวบ้านได้ชื่นใจได้สักดอกเดียว ไม่เหมือนตอนหาเสียงที่โม้กันหูดับตับไหม้ว่าจะทำโน่นทำนี่ คุยว่าทำงานเก่ง บริหารงานเป็นไม่ต้องกู้สักบาท ตอนนี้เป็นไง ทั้ง “โคตรกู้และกู้มาโกง”เรียบร้อย ตอนแรกเมื่อหลังน้ำท่วมใหญ่ใหม่ใหม่ๆ บอกว่าต้องออกเป็น พ.ร.บ.ฉุกเฉินขอกู้เงินมาบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทให้ทันการณ์ ใครคัดค้านขัดขวางเกิดน้ำท่วมขึ้นมาต้องรับผิดชอบ ก็ต้องเงียบเสียงไป ผ่านมานี่ก็เกือบสองปีเช่นเดียวกันน้ำเหนือไหลบ่าถ้านับเอาปีนี้ที่กำลังจะมาอีกรอบแล้ว การใช้เบิกจ่ายงบประมาณยังไม่รู้ว่าถึงสามหมื่นล้านบาทแล้วหรือยัง แต่นั่นไม่ร้ายเท่ากับไม่มีแผนการโครงการ เปิดการประมูลก็ส่อไปในทางฮั้ว บริษัทต่่างชาติบางบริษัทโบกมือลา เพราะขืนเดินหน้าอ่วมแน่ ที่สำคัญมันเกิดขึ้นจริงได้ลำบาก

ที่สำคัญแทนที่จะให้นักวิชาการคนไทย ชาวบ้านในท้องถิ่นซึ่งถือว่าเชี่ยวชาญเรื่องน้ำดีที่สุด เพราะอยู่กับน้ำมานาน ดันไม่เชื่อไปเชื่อที่ปรึกษาต่างชาติ นี่ยังไม่นับการแต่งตั้งตัวบุคคลที่ผิดฝาผิดตัวมาเป็นผู้ควบคุมโครงการอย่าง ปลอดประสพ สุรัสวดี อีกมันก็ยิ่งไปกันใหญ่

ในช่วงหาเสียง ยิ่งลักษณ์ประกาศบนเวทีหาเสียงของพรรคเพื่อไทยประกาศว่า “จะกระชากค่าครองชีพลงมาค่ะ...เอามั้ยค้า” ท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่น แล้วก็ไม่ผิดพลาดได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ แรกๆ ก็ดูแล้วแฉล้มสวยงามสบายหูสบายตา แต่ก็อย่างว่าแหละความสวย ใส่ชุดสวยอย่างเดียวมันกินไม่ได้ นานไปมันก็เบื่อเหมือนกัน เพราะผ่านมาสองปีแล้วเริ่มพอมองเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าฝีมือห่วยแตกแค่ไหน มีสติปัญญาแค่ไหน ไม่มีทางที่พวก “อำมาตย์” จะมีพลังในการกลั่นแกล้งได้ขนาดนี้หรอก ถ้าบอกว่าพวกำมาตย์ถูกแกล้งน่าเชื่อมากกว่า

ปัญหาค่าครองชีพ ข้าวของแพงทั้งแผ่นดินที่เป็นอยู่ ต้องบอกว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มากที่สุด ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพราะมันจะส่งผลสะเทือนไปถึงเรื่องอื่นๆด้วย ให้เกิดอาการ “รวน” ตามไปด้วย ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่มีผลงานน่าประทับใจ ชาวบ้านก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องแอ่นอกไปปกป้องทำไม ความหมายก็คือ มันกระทบไปถึงโครงการ “กลับบ้านอย่างเท่” ของทักษิณ ชินวัตร จนแยกกันไม่ออก เพราะหากย้อนกลับไปพิจารณาเปรียบเทียบบรรยากาศในช่วงที่ ทักษิณ โดนคดี “ซุกหุ้นภาคแรก”เมื่อปี 2544 ตอนนั้นเขาเป็นความหวังมีแต่คนเอาใจช่วยให้พ้นคดี แม้แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนในตอนนั้นยังกล่าวว่าชาวบ้านเลือกมาตั้งสิบสี่ล้านเสียงแล้วจะให้คนแค่ 7-8 คนมาเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และแม้ว่าจะมีเบื้องหลังซับซ้อนมีข่าวคราวเรื่อง “สินบนใต้โต๊ะ” อันอื้อฉาวก็ตาม แต่ก็ชี้ให้เห็นกันตรงไปตรงมาชาวบ้านเขายังปกป้อง ทั้งที่จะว่าแล้วมันเป็นเพราะการ “ต้มตุ๋น” ใช้การสร้างกระแสบิดเบือนก็ตาม ชาวบ้านยังไม่รู้ความจริง แต่วันนี้บรรยากาศต่างกันสิ้นเชิง

อีกทั้งการสื่อสารในโลกของโซเชียลมีเดียมันก้าวหน้าแบบคาดไม่ถึง เอาแค่ว่าล่าสุดเมื่อวานนี้ มีภาพข่าวปรากฏในแฟนเพจ “สายตรงภาคสนาม” ในเฟซบุ๊กแฉหลักฐานตอกย้ำให้เห็นว่า หนึ่งในมือสังหาร นายบุญจริง พินิจ หรือ “กำนันแดง”กำนันตำบลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บรถคว่ำขณะขับรถหลบหนีกลายเป็นอดีตการ์ด นปช. ที่ชื่อ “ศรชัย ศรีดี” ที่เคยปรากฏหลักฐานว่าเป็นอดีตทหารพรานติดอาวุธขณะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง และเคยถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายทหาร และต่อมาแกนนำคนเสื้อแดงอย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ไปประกันตัว วันเวลาทั้งภาพและเสียงถูกบันทึกเอาไว้หมด ก็ “เป็นกรรม” ที่ซ้ำเติมภาพลบเข้ามาอีก

อย่างไรก็ดี หากจะให้สรุปก็ต้องบอกว่าสาเหตุที่ทำให้ระบอบท้กษิณ เริ่มมีความเสื่อมทรุดลงมา ส่วนสำคัญก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ล้วนเกิดจากความโลภ ความเห็นแก่ตัวของ ทักษิณ เท่านั้น เพราะแทนที่จะตั้งใจทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อชาวบ้านคนยากจนจริงๆให้สมกับความไว้วางใจกลับไปเชิด “น้องสาว” ตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งที่รู้ว่าไม่มีความพร้อมอะไรเลยให้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงเพราะไว้ใจได้และสั่งได้เท่านั้น ขณะเดียวกันเมื่อได้อำนาจรัฐก็ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา ทำทุกอย่างเพื่อเอาเปรียบคนอื่น การสั่งการให้เดินหน้าออกกฎหมายลบล้างความผิด แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรองรับอำนาจล้วนแล้วแต่เป็นความเหิมเกริม ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา หากยังดึงดันมันก็ย่อมมีชะตากรรมไม่คาดหมายในภายหน้าแน่นอน

เพราะหากเริ่มเข้าสู่บรรยากาศขาลงแล้ว ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ และภายใต้โลกสื่อสารยุคใหม่ ที่ก่อนหน้านี้คนอย่างเขาได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่อาจต้องจบลงด้วยเรื่องเทคโนฯที่เปิดโปงความชั่วของเขาก็เป็นได้!!
กำลังโหลดความคิดเห็น