“เฉลิม” ย้ำไม่มีบึ้ม ลั่นคุยบีอาร์เอ็นเองไม่ล้มโต๊ะ แต่แย้มอาจเจรจากลุ่มใหม่

รองนายกฯ ยันงบปี 57 ผ่านแน่ ชี้ภาพรวมใช้ได้ ย้ำไม่มีข่าวบึ้ม แย้มย่ำราตรีอีก เผยส่งตำรวจคุยมาเฟียอย่าซ่า ป้องซื้อรถตู้ นร.เขียนตัวเลขผิด บอกถ้าไม่แก้ก็ไปกินยาตายให้หมด ชู “อภิสิทธิ์” พูดดีสุด เย้ย “นพ.วรงค์” แฉจำนำข้าวเสียของ สวนล้มโต๊ะบีอาร์เอ็นแล้วได้อะไร จ่อเชิญผู้นำฝ่ายค้านประชุมด้วย ระบุอาจคุยกลุ่มใหม่ ลั่นเจรจาด้วยตัวเอง ไม่โต้แดงค้าน กม.ปรองดอง

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายจะผ่านไปด้วยดีเพราะรัฐบาลไม่ได้เอาเงินไปใช้เอง แต่รัฐบาลมีหน้าที่บริหาร ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นของธรรมดา แต่ในภาพรวมถือว่าใช้ได้ และการอภิปรายงบประมาณต้องพูดในภาพรวม แต่นี้เป็นการลงรายละเอียดจนถึงขั้นบอกว่าในพื้นที่ถนนไม่ได้ทำ รัฐบาลไม่รู้ว่าถนนสายไหนไม่ได้ซ่อม ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานเข้ามา นายกรัฐมนตรีต้องบริหารประเทศในภาพรวม เดินทางไปต่างประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้มาลงทุนมีเงินเข้าประเทศ คนต่างประเทศมาท่องเที่ยวก็มีรายได้ ตนเป็นประธานดูแลเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องมาเฟีย ตัวเลขก็มีคนมาเที่ยวมากขึ้นเพราะเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย

เมื่อถามถึงข่าวลือว่าจะมีระเบิดซ้ำที่ทำให้นักท่องเที่ยวตกใจ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มี เมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็ไปที่ถนนข้าวสาร เรียบร้อย ยืนยันได้ หลังจากนี้หากมีโอกาสตนจะลงพื้นที่ท่องเที่ยวอีก และตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพูดคุยกับมาเฟียในพื้นที่ต่างๆ ว่ามาอยู่เมืองไทยว่าอย่าก่อเหตุ คนไทยด้วยกันก็อาจจะมีพวกซุกซนบ้างแต่ต่อไปก็ต้านประแสประชาชนไม่ได้

ต่อข้อถามว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (30 พ.ค.) มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรถโรงเรียนกันมาก ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตัวเลขมันผิด ใครจะไปตั้งราคาห่างกันเช่นนั้น คนอภิปรายก็รู้ว่าตัวเลขมันผิด และตัวเลขงบประมาณมีการพิมพ์ผิดมาอย่างนี้ทุกปี

“หากตัวเลขแตกต่างกันอย่างนี้ แล้วกรรมาธิการไม่แก้ก็ไปกินยาตายให้หมด มันไม่เป็นเรื่อง และการที่ฝ่ายค้านหยิบเรื่องนี้มาเล่นก็เสียหายเอง เพราะไม่มีประเด็นอะไรที่ได้แต้ม การอภิปรายครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์อภิปรายได้ดีคนเดียว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องโครงการจำนำข้าวก็มีการเปิดหลักฐานเพิ่มเติมมากขึ้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ได้ปกป้องแต่นี้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ แต่ที่อภิปรายนั้นต้องเป็นญัตติไม่ไว้วางใจถือว่าเสียของเอามาบอกทำไม เล่นการเมืองไม่เป็นอยากเด่นอยากดังเท่านั้น

รองนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้หยุดการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น หากสถานการณ์ภาคใต้ยังไม่ดีขึ้นว่า ต้องค่อยๆ เจรจา ต้องใจเย็น ใจร้อนไม่ได้ ตนบอกคณะเจรจาฝ่ายไทยแล้วว่า สุดท้ายเลยเรามีวิธีการ การที่เราเจรจาที่ประเทศมาเลเซียได้ แสดงว่ารัฐบาลมาเลเซียมีใจ มีการจัดสถานที่ให้ การล้มโต๊ะนั้นง่ายแต่ล้มแล้วได้อะไร เราต้องดูต่อไป และจากนี้ต่อไปตนจะลงมาเต็มตัว นายกฯ ได้มอบหมายให้ดูแลเต็มที่ อย่าเพิ่งใจร้อน และหากเราไม่เจรจาก็ไม่ได้อะไร แต่เมื่อเจรจาแล้วยังไม่ได้อะไรก็ต้องลองดูต่อไปเผื่อจะได้ ทั้งนี้ ตนได้กำหนดไว้แล้ว 5 ข้อ เป็นกรอบในการพูดคุย หากมีปัญหาอะไรจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ตนอยากจะเชิญนายอภิสิทธิ์ไปประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ร่วมกันเพื่อจะได้ให้พูดกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และอาจจะเชิญนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ถึงเวลาที่เราจะมองดูกลุ่มใหม่ที่จะพูดคุยหรือยัง เพราะการพูดคุยกับบีอาร์เอ็นยังไม่ทำให้เหตุการณ์ลดลง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนกำลังคิดว่าหากคุยกลุ่มเดียวพวกนี้จะใหญ่คนเดียว ถ้ามีหลายกลุ่มจะได้รู้ว่าอีกกลุ่มคิดอย่างไร ซึ่งตนจะตัดสินใจเรื่องนี้ โดยต้องหารือกับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก่อน และมีกลุ่มที่เล็งไว้ว่าจะพูดคุยต่อไปแล้ว ส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้นต้องรอให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สรุปก่อน อะไรก็ตามที่ไปไม่ได้จะต้องเปลี่ยนทิศ และกลุ่มบีอาร์เอ็น นั้นคุมในพื้นที่ไม่ได้ คนที่อยากคุยด้วยใหม่เขาแสดงให้เห็นว่าการที่เราไปคุยกับนายฮัสซัน ตอยิบนั้นไม่ใช่ และหากรอบพูดคุยแล้วกลับมาไม่มีอะไรดีขึ้น ตนต้องหมุนทิศและต้องเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นเสียค่าเครื่องบิน และสิ่งที่นายอภิสิทธิ์แสดงความเห็นมาถือเป็นมุมมองหนึ่ง แต่ใจตนในฐานะผู้รับผิดชอบอยากให้รออีกสักรอบสองรอบ

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าจะไปพูดคุยกับนายฮัสซัน ตอยิบ ด้วยตัวเองมีทางเป็นไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คณะฝ่ายเจรจาของตนไปได้ แล้วทำไมตนจะไปไม่ได้ ส่วนที่นายกฯ มองว่าควรจะปล่อยให้คณะเจรจาฝ่ายไทยพูดคุยไปก่อน ยังไม่ต้องถึงระดับรองนายกรัฐมนตรีนั้น ตนแค่บอกว่าวันข้างหน้า หากนายฮัสซัน ตอยิบ คุยรู้เรื่องตนจะไป หากไม่รู้เรื่องตนจะไปทำไม อย่างไรก็ตาม สรุปคือหากรัฐบาลมาเลเซียเบื่อหน่ายพวกนี้ เราก็แก้ไขปัญหาสำเร็จ และหากพวกนี้คุยไม่รู้เรื่องก็ต้องเลิก

เมื่อถามว่า การพูดคุยในวันที่ 13 มิ.ย.ถือเป็นรอบสุดท้ายหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า จะไปบอกว่าเป็นรอบสุดท้ายได้อย่างไร เพราะผลการเจรจายังไม่ปรากฎ เมื่อถามว่า หากการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นวันที่ 13 มิ.ย. ไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจรอบต่อไปจะต้องลงไปเองหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องมาปรึกษากันใหม่ว่าจะทำอย่างไร เพราะหากรู้ว่าทำไม่สำเร็จแล้วจะทำอย่างเดิมได้อย่างไรต่อไป เมื่อถามย้ำอีกว่า จะต้องลงเองเลยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “คงหนีไม่พ้นแล้วละ”

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ญาติกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า ตนยังพูดคำเดิม คือ เห็นใจ เข้าใจ แต่ขออนุญาตไม่แสดงความเห็น ส่วนจะทำให้การผลักดันกฎหมายดังกล่าวสะดุดหรือไม่นั้นก็ขอยืนยันคำเดิมคือ เห็นใจ เข้าใจ ถามกันสักกี่ครั้งก็คงจะตอบแบบนี้