“จุฤทธิ์” แฉงบ ศธ.ซื้อรถตู้แพงเกินจริงกว่าพันล้าน “ผัวเจ๊เบียบ” อ้างพิมพ์ผิด

ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซักงบ ศธ.ซื้อรถตู้ 12 ที่นั่งพันคัน 2.3 พันล้าน ส่อแพงเกินจริงกว่าท้องตลาด “เสริมศักดิ์” แจงอ้างจัดซื้อให้โรงเรียนเล็ก โบ้ยพิมพ์ผิด 10 จุด ยันซื้อจริงแค่ 1.23 พันล้าน เผยส่งฉบับแก้แล้ว เจอเจ้าตัวโวยส่อขัด รธน. เอาเอกสารมั่วใช้ ชี้ถ้าไม่เช็กหวานคอแร้งหรือไม่ “วิสุทธิ์” สั่งพักประชุม “วราเทพ” โอดผิดกันทุกรัฐบาลแต่ไม่ได้ทุจริต อ้างขอตอนแรกไป 2 พัน พร้อมสอบผิดมากแค่ไหน

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.45 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในส่วนของประมาณในกระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตู้โดยสาร ขนาด 12 ที่นั่ง (ดีเซล) จำนวน 1,000 คัน รวมเป็นเงินงบประมาณ 2,343,724,000 บาท แบ่งเป็นปี 2557 ตั้งงบฯ ไว้ 184,860,000 บาท และตั้งงบผูกพันในปี 2558 ไว้จำนวน 2,158,864,000 บาท โดยตนมีข้อสังเกตว่า การจัดซื้อรถตู้โดยสารดังกล่าวใช้งบประมาณจัดซื้อรถแพงเกินจริง โดยราคารถตู้โดยสารขนาด 12 ที่นั่ง ราคาขายตามท้องตลาดจะอยู่ที่คันละ 9.6 แสนบาทเท่านั้น และหากจัดซื้อในราคาที่ตั้งงบประมาณไว้จะมีส่วนต่างจำนวน 1.3 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการซื้อรถตู้โดยสารของสำนักงบประมาณพบว่า จะมีราคากลางต่อคันที่ 1.2 ล้านบาทเท่านั้น นอกจากนั้นมีการล็อกสเปกให้ใช้รถ 12 ที่นั่ง ทั้งที่หากใช้เพื่อบริการรับ-ส่งนักเรียน ใช้รถตู้ขนาด 16 ที่นั่งจะเหมาะสมกว่า โดยราคารถตู้โดยสารขนาด 16 ที่นั่ง ราคาท้องตลาดจะอยู่ที่คันละ 1.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับราคาที่กระทรวงศึกษาธิการขอจัดสรรที่คันละ 1.2 ล้านบาท จึงถือว่าสามารถซื้อรถตู้โดยสารขนาด 16 ที่นั่งได้

“หากพิจารณาในเอกสารงบประมาณเล่มขาวคาดแดง เล่ม 8 (1) หน้า 172 ในโครงการพัฒนาโรงเรียนสู่มาตรฐาน ได้ตั้งงบจัดซื้อรถตู้โดยสาร 12 ที่นั่ง รวมเป็นงบประมาณ 2,343,724,000 บาท เมื่อคำนวณดูจะพบว่าราคาซื้อรถตู้ต่อคันจะมีราคา 2,343,724 บาท ซึ่งน่าแปลกใจว่าการซื้อรถรอบนี้ทำไมถึงมีเศษเงินจำนวน 24 บาทเข้ามาด้วย ถือว่าเป็นข้อพิรุธอย่างยิ่ง ผมขอตั้งชื่องบก้อนนี้ว่า งบผลาญเงินเด็ก” นายจุฤทธิ์กล่าว

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ชี้แจงเรื่องการจัดซื้อรถตู้โรงเรียนจำนวน 1,000 คัน ว่าเป็นการจัดซื้อให้กับโรงเรียนขนาดเล็กในตำบล โดยกระทรวงศึกษาฯ ได้ตั้งงบไว้จำนวน 1,232 ล้านบาท ราคาคันละ 1.232,400 บาท ซึ่งราคาต่อคันเป็นราคากลางของสำนักงบประมาณ และสเปกก็เป็นของสำนักงบฯ เป็นราคาที่จัดซื้อไม่เกินอยู่แล้ว และคนของกระทรวงศึกษาฯ เป็นคนต้นแบบคงไม่ทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากลไม่ถูกต้อง ยืนยันว่าส่วนการจัดซื้อรถเป็นไปตามความต้องการของโรงเรียน และชุมชนที่มีความจำเป็น ส่วนการที่นายจุฤทธิ์อภิปรายว่ากระทรวงศึกษาธิการตั้งงบไว้จัดซื้อรถตู้สูงถึงคันละ 2.3 ล้านบาทนั้น เป็นเรื่องของความผิดพลาดทางเอกสารงบประมาณ ทำให้นายจุฤทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า เมื่อรัฐมนตรียอมรับว่าเอกสารผิดพลาดก็ไม่ควรนำมาพิจารณา เพราะถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 หากเป็นการพิมพ์ผิดโดยเจตนาบริสุทธิ์ก็ต้องแก้ไขก่อนจึงจะสามารถประชุมต่อได้ เพราะถ้าตนตรวจสอบไม่พบก็เท่ากับว่าหวานคอแร้งหรือไม่ เพราะส่วนต่าง 1,300 ล้านบาท ถ้าจับไม่ได้ไม่ทราบว่าจะเข้ากระเป๋าใคร ดังนั้นต้องมีเอกสารแนบแก้ไขด้วยจึงจะสามารถประชุมต่อไปได้ นอกจากนี้ รมช.ศึกษาธิการฯ ยังกล่าวหาว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นเท็จนั้น ตนยืนยันว่าได้เรียกสำนักงบฯ มาให้ข้อมูลในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านแล้ว โดยสำนักงบฯ ระบุว่า การซื้อรถตู้โรงเรียนนั้น ราคากลางอยู่ที่คันละ 1.2 ล้านบาท ขณะที่ราคาจริงอยู่ที่คันละ 9.6 แสนบาท

กระทั่งนายเสริมศักดิ์ลุกขึ้นโต้ว่า ไม่ได้พูดว่าเอกสารเป็นเท็จ และตนก็ได้รับเอกสารแก้ไขจำนวน 10 หน้า ซึ่ง 1 หน้าเป็นของกระทรวงศึกษาฯ และเชื่อว่าคงถึงมือนายจุฤทธิ์แล้วเช่นกัน และขอยืนยันว่าราคารถตู้ 12 ที่นั่ง ไม่เกิน 1,234,000 บาท และเป็นไปตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก แต่นายจุฤทธิ์ยังยืนยันว่า หากที่ประชุมพิจารณาต่อถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 167 จนกว่าสมาชิกทุกคนจะได้รับเอกสารแก้ไขครบ

ขณะที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นขอให้ประธานสั่งพักการประชุม เพื่อให้สมาชิกได้รับเอกสารที่สำนักงบฯ ที่แก้ไขแล้วจำนวน 10 หน้า ถ้าไม่ดำเนินการตามนี้จะเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพื่อขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน จนนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมต้องสั่งพักการประชุม 10 นาที ในเวลา 13.45 น.

ต่อมาเมื่อมีการประชุมอีกครั้ง นายจุฤทธิ์ยังคงท้วงติงเรื่องเอกสารที่ผิดพลาดเพราะที่รัฐบาลแจกมาไม่มีรายละเอียดว่าข้อผิดพลาด 10 จุดอยู่ตรงไหน จึงขอให้แจกแจงมา ซึ่งนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ชี้แจงว่า สำนักงบฯ ยืนยันว่าในร่าง พ.ร.บ.งบฯ ไม่ผิด แต่ในส่วนเอกสารประกอบยอมรับว่ามีความผิดพลาด เพราะมีรายละเอียดจำนวนมาก บังเอิญปีนี้งบการจัดซื้อรถตู้โรงเรียนของกระทรวงศึกษาฯ ปรากฏเป็นข่าวมาก่อนจึงทำให้มีการตรวจพบชัดเจน จนเชื่อว่าถ้าไม่มีเรื่องนี้ก็น่าจะคลาดสายตาไปได้ เพราะที่ผ่านมาก็ผิดพลาดมาทุกรัฐบาล ทั้งนี้ยอมรับว่ามีการผิดพลาดจริง แต่ยืนยันว่าไม่มีการทุจริต เพราะเป็นเพียงการพิมพ์ผิดเรื่องตัวเลขเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลอะไร ส่วนตัวเลขที่เกินมาเนื่องจากว่าก่อนหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการขอจัดสรรรถตู้ 2,000 คัน ตามวงเงิน 2,374,000 บาท แต่ปรากฏว่าสำนักงบฯ ได้จัดสรรให้แค่ 1,000 คัน ตามวงเงินรวมประมาณ 1,232 ล้านบาท ทั้งนี้ความผิดพลาดของเอกสารนั้นที่ผ่านมาก็มีการแก้ไขในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงบฯ ก็จะไปตรวจสอบว่ามีการจัดทำเอกสารผิดพลาดมากน้อยแค่ไหน หากผิดพลาดจำนวนมาก ก็จะตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่ได้จัดทำเอกสารดังกล่าว

ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังคงไม่ยอมให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายเรื่องอื่นต่อไป โดยนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นขอให้นายเสริมศักดิ์ ชี้แจงกรณีที่ระบุว่าเอกสารงบฯ ผิดพลาด 10 จุดว่ามีความผิดดพลาดตรงไหนบ้าง เพราะเอกสารฉบับแก้ไขแจกมาไม่ครบ ในที่สุดนายวิสุทธิ์ได้ตัดบทให้ดำเนินการอภิปรายต่อไป