“วัชระ” ขู่เอาผิด ปธ.สภาฯ นิ่งมือขวาจีนปลอมตราสภา แฉ ขรก.สำนักงบฯ บินพบ “แม้ว”

“แจ็ค ปชป.” เตือน “ค้อนปลอม” เมินเอาผิดที่ปรึกษาชาวจีนแอบทำตรารัฐสภาไทยปลอม พร้อมแจ้งความเอาผิด เหตุละเว้นหน้าที่ ข้องใจตั้งที่ปรึกษาจีนหลายคน แถมออกค่าเดินทางไปจีนด้วยกัน และใช้งบรับรองสูงไม่โปร่งใส ผลาญงบพัฒนา ปชต.ไม่จำเป็น ซัดไร้ธรรมาภิบาล บี้ลาออก แฉ ขรก.สำนักงบฯ ร้อนตัว ถูกจี้บินดูไบ ให้ “น.ช.แม้ว” จัดทำงบ

วันนี้ (31 พ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่งตั้งนายหวัง หงปิน ชาวจีนเป็นที่ปรึกษาโดยนายหวัง หงปิน ได้แอบอ้างทำตราประจำรัฐสภาไทยปลอมขึ้นใช้ติดต่อประสานงานใช้ประโยชน์ส่วนตัวแอบอ้างว่าเป็นฝ่ายกิจการจีนประจำรัฐสภาไทย แต่นายสมศักดิ์ได้ขอให้ยุติเรื่องทั้งที่เป็นอาญาแผ่นดินที่ไม่สามารถยอมความได้ จึงขอเตือนถึงประธานสภาและเลขาธิการสภาฯ ว่า หากไม่ดำเนินคดีต่อนายหวัง หงปิน ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตนจะไปแจ้งความที่ สน.ดุสิตดำเนินคดีต่อประธานสภา และเลขาธิการสภาฯ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

นายวัชระกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่านายสมศักดิ์ยังได้แต่งตั้งชาวจีนอีกหลายคนเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ส่วนตัวเช่น นายบิน ตั้ง และชาวจีนอีก 4 คน จึงไม่ทราบว่านายสมศักดิ์มีการทำธุรกิจอะไรกับจีนจึงได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งนายสมศักดิ์ได้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเป็นค่าเครื่องบิน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าเครื่องแต่งตัว ค่าใช้จ่ายอื่น รวม 92,100 บาทให้นายบิน ตั้ง ระหว่างที่ร่วมเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของประธานรัฐสภา และพบว่าในการเดินทางไปต่างประเทศของนายสมศักดิ์ มีการใช้งบรับรองมากถึง 1.2 ล้านบาทในการจัดเลี้ยงรับรอง ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณของสภาฯ ทั้งที่เป็นเงินภาษีของประชาชนด้วยความไม่โปร่งใส อาทิ การเลี้ยงรับรองประธานสภาเกาหลีที่มาไทย ในเวลา 5 วันโดยสภาไทยเป็นเจ้าภาพใช้งบประมาณของสภาฯ ไป 10 ล้าน เมื่อตนสอบถามไปก็ไม่สามารถชี้แจงได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้งบประมาณไปในการพัฒนาประชาธิปไตยตามจังหวัดต่างๆ 24 จังหวัดๆ ละ 1 ล้านบาทรวม 28 ล้านบาท หรือการจัดงานวันแรงงานมีคอนเสิร์ตเพื่อชีวิตมาแสดงทั้งที่ข้าราชการไม่ใช่ผู้ใช้แรงงานก็มีการใช้งบประมาณไปเกือบ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสภาในยุคนายสมศักดิ์ ไม่มีหลักธรรมาภิบาล ตนเห็นว่านายสมศักดิ์ควรลาออกจากการเป็นประธานสภาฯ ได้แล้ว เพราะเวลาทำหน้าที่ในสภาไม่มีความเป็นกลางหรือ เป็นธรรมเปิดโอกาสให้ฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน

นายวัชระกล่าวอีกว่า นายสมศักดิ์จะถูกปลดจากประธานรัฐสภาวันไหนก็ได้ เพราะนายสมศักดิ์ไม่ได้เป็นประธานรัฐสภาอย่างแท้จริง หากไม่สบอารมณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นการพิจารณางบประมาณ 2.5 ล้านล้านบาทที่กำลังจะผ่านสภาฯ ปรากฏว่ามีการเรียกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงบไปจัดทำงบประมาณที่ดูไบ แล้วนำมาให้สภาพิจารณา เท่ากับสภาเป็นเพียงตรายางที่ประทับรับรองการแบ่งจ่ายเงินงบประมาณภาษีของประชาชนจาก พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นนักโทษหลบหนีคดีอาญาระหว่างนี้ แต่มีสิทธิที่จะกำหนดวงเงินงบประมาณแผ่นดินปี 2557 เมื่อถามต่อว่ามีหลักฐานหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ในวันที่วิปฝ่ายค้านเชิญข้าราชการสำนักงบประมาณมาชี้แจงการทำงบปี 57 มีรอง ผอ.สำนักงบคนหนึ่งแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวตอบในเรื่องที่ตนถามว่า มีข้าราชการระดับสูงไปดูไบหรือไม่ เพราะมีข่าวจากเพื่อนฝูงแจ้งว่ามีข้าราชการไทยไปรายงานตัวที่นั้นพร้อมข้อมูลจำนวนมาก ก็แสดงว่ามีอาการกินปูนร้อนท้อง เพราะมีคนไปจริง