ปชป.ยื่น กมธ.ตำรวจฯ สอบตำรวจภูธรภาค 5 ทำตัวเป็นทาสระบอบทักษิณ ตั้งแก๊งข่มขู่ คุกคามแกนนำ สมาชิก และผู้สนับสนุน ปชป.ช่วงเลือกตั้งซ่อม จ.เชียงใหม่ หลังยื่นเรื่องให้ กกต.กลาง แล้วเงียบ ด้านเมียหัวคะแนน “แทนคุณ” เขตดอนเมือง ร้องสามีถูกฆ่าตายเป็นปีคดีไม่คืบ วอนโอนคดีให้กองปราบฯ ดำเนินการ
รัฐสภา วันนี้ (29 พ.ค.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปตย์ ยื่นเรื่องต่อนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่ปรากฏในโปรแกรมสนทนา line ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “ชก.บก.สส.ภ.5” ที่มีสมาชิกทั้งหมด 59 คน เพราะในช่วงที่มีการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.เชียงใหม่ เขต 3 ได้พบว่ามีชายฉกรรจ์ใส่ชุดดำ ขับรถโฟร์วีลหลายคันไปประกบแกนนำและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 อำเภอ คือ ดอยสะเก็ด สันป่าตอง และแม่ออน เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยลุแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 5 ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้าน และคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีการไปตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จึงส่งผลทำให้คะแนนของผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เสียไปด้วย
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวเพื่อร้องเรียนต่อ กกต.เชียงใหม่ และ กกต.กลางเอาไว้แล้ว แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า โดยนายวิรัตน์กล่าวด้วยว่า การใช้อำนาจรัฐเข้าแทรกแซงและข่มขู่ในระบอบทักษิณนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัว ซึ่งยังไม่นับรวมอำนาจเงินอีกด้วย
ด้านนายสมชายกล่าวว่า จะนำเรื่องนี้ไปศึกษารายละเอียดต่อ เพราะถือว่ามีหลักฐานค่อนข้างเยอะ ซึ่งหลังจากนี้อาจจะมีการเรียกผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการ
นอกจากนี้ นางณัฐหทัย เครื่องสาย ภรรยานายชุติเดช สุวรรณเกิด หัวคะแนนของนายแทนคุณ จิตต์อิสระ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่เขตดอนเมือง ได้เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการตำรวจฯ ด้วย โดยขอให้มีการโอนคดีดังกล่าวจาก สน.ดอนเมือง ไปที่กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากผ่านมากว่า 1 ปีแล้วแต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ซึ่งนายสมชายรับปากว่าจะทำหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในวันนี้เพื่อที่จะขอประสานโอนคดีให้
