สำนักงานศาล รธน.เตรียมมอบทุนการศึกษาแก่เด็กผู้ที่ได้รับผลกระทบ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ระบุ หวังสานต่อระยะยาว สร้างจิตสำนึกในการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
นายบุญส่ง กุลบุปผา เปิดเผยว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกประกาศเรื่องการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษานักเรียนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตระหนักถึงความสำคัญในการให้การสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา และ สตูล เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และเยาวชนที่ชายแดนใต้ที่ได้รับผลกระทบนั้น ทราบว่ามีเยาวชนเป็นจำนวนมากที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อ
ดังนั้นสำนักงานฯ จึงเห็นว่า น่าจะให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ และการส่งเสริมเครือข่ายด้านการพัฒนาประชาธิปไตยแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวยุทธศาสตร์ของศาลเนื่องในวาระครบ 15 ปี ที่ต้องการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการประชาสัมพันธ์เชิงรุกของศาลรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการส่งเสริมเครือข่ายด้านการพัฒนาประชาธิปไตยและการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและยอมรับในการดำเนินงานของศาลรัฐธรรมนูญ
นายบุญส่ง กล่าวว่า ในการจัดการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยให้ทาง ศอ.บต.และสพฐ.ประสานไปยังโรงเรียนต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ส่งใบสมัครผู้ที่ต้องการขอทุนการศึกษามาให้คณะกรรมการฯคัดเลือก ซึ่งทางสำนักงานฯได้เปิดรับสมัครถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ แล้วคณะกรรมการซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานศาลฯ เจ้าหน้าที่จากศอ.บต.และเจ้าหน้าที่ของ สพฐ.มาร่วมกันพิจารณา เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และคุณสมบัติจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบ มีฐานะยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีความประพฤติดี และมีการเรียนดี อยู่ในระเบียบวินัย กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 5-6 สายสามัญ ปีการศึกษา 2556 ซึ่งเราจะเน้นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงและขาดแคลน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น โดยจะประกาศผลผู้ที่ได้รับทุน ในเดือน มิ.ย.ด้วยการแจ้งผลไปที่โรงเรียน อีกทั้งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ www.constitutionalcourt.or.th
นายบุญส่ง กล่าวด้วยว่า สำหรับเงินสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาในครั้งนี้ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีจำนวน 1 ล้านบาท จึงได้กำหนดเงินเป็นทุนศึกษาจำนวน 100 รายๆ ละ 10,000 บาท โดยกำหนดจากพื้นที่ได้รับผลกระทบมาก โดยให้จังหวัด นราธิวาส ยะลา ปัตตานี จังหวัดละ 25 ราย ส่วนจังหวัดสงขลา ได้กำหนดผู้ที่ได้รับทุนไว้ 15 ราย และจังหวัดสตูล กำหนดไว้จำนวน 10 ราย ซึ่งแต่ละโรงเรียนจะส่งผู้ที่ต้องการรับทุนมาให้คณะกรรมการที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้คัดเลือก ว่า เข้าตามหลักเกณฑ์หรือไม่ และอยากจะส่งเสริมและมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถทำได้แค่ไหน แต่ก็จะพยายาม เพราะเห็นว่าเรื่องการศึกษานั้นสำคัญ แต่ก็เกรงว่าจะถูกข้อครหา
“การที่เราจัดกิจกรรมทางสังคมเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้แก่เด็กและเยาวชนนั้นทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ทำมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2552 ไม่ใช่ว่า พึ่งจะมาเริ่มมีโครงการเพราะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ศาล เพราะเท่าที่ลงไปในพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ นั้น ประชาชนยังไม่เข้าใจการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ถูกทำร้ายระหว่างที่ลงไปให้ความรู้ร่วมกับองค์กรอิสระอื่นๆ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา จึงมีแนวคิดในเรื่องของการที่จะให้ความรู้แก่เยาวชน และเพื่อเป็นการให้โอกาสให้กับผู้ที่คิดดีทำดีมาเสริมสร้างพัฒนาประเทศเราต่อไปในอนาคต”